“เดอะนาม เรียลเอสเตท” ทุ่ม170ล้าน บุกอสังหาฯเชียงใหม่

ทุนส่วนกลางกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ทุ่ม 170 ล้าน ผุดรีสอร์ตหรู 4 ดาวใจกลางย่านท่าแพ เชียงใหม่ ดึงเชน BHMA บริหาร ปั้นแบรนด์ “Away เชียงใหม่ ท่าแพ รีสอร์ต” ชูจุดขายวิถีสุขภาพชั้นนำ และเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติ เปิดโฉมความโดดเด่นสถาปัตยกรรมโคโลเนียลสไตล์ เผยอัตราการเข้าพักช่วง 1 เดือนกว่า 50% ชี้ธุรกิจโรงแรมในเชียงใหม่ยังมีโอกาสเติบโตสูง เล็งพื้นที่เขตคูเมือง เตรียมลงทุนเพิ่มภายใน 2-3 ปี

นายวิพนธ์ กวาตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ นาม เรียลเอสเตท จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทเดอะ นามฯ เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้านโรงแรมและรีสอร์ต ซึ่งเป็นการแตกไลน์จากธุรกิจเดิมของครอบครัวที่ทำเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์เพื่อการผลิตที่นอนและเฮลท์แคร์ รวมถึงธุรกิจผ้า (fabric) ในกรุงเทพมหานคร โดย “อเวย์ เชียงใหม่ ท่าแพ รีสอร์ท” (Away Chiang Mai Thapae Resort) เป็นรีสอร์ตระดับ 4 ดาวแห่งแรก ซึ่งจัดเป็นกลุ่ม Veggie Hotel มาตรฐานระดับโลก ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยงบประมาณราว 170 ล้านบาท บนย่านถนนท่าแพ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดยใช้เชน BHMA เข้ามาบริหารภายใต้แบรนด์อเวย์ (Away)

ทั้งนี้ ทางบริษัทให้ความสนใจในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตเป็นพิเศษ เนื่องจากเห็นว่าเป็นกลุ่มที่มีอัตราการขยายตัวได้ค่อนข้างดีมาก สอดรับกับภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มที่ดีมากเช่นกัน จากกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยโฟกัสการลงทุนในต่างจังหวัด และจังหวัดที่มีโอกาสมากก็คือ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

สำหรับ Away Chiang Mai Thapae Resort-A Vegetarian Retreat ตั้งอยู่บนเนื้อที่ทั้งหมด 454 ตารางวา มีจำนวนห้องพักรวม 39 ยูนิต ทั้งนี้ หลังจากศึกษาข้อมูลการลงทุนและวิจัยข้อมูลการตลาดพบว่า เชียงใหม่มีโอกาสทางการตลาดสูงในธุรกิจโรงแรม ซึ่งโรงแรมระดับ 4 ดาวที่อยู่ในเขตคูเมืองหรือย่านเมืองเก่า มีแค่เพียง 10% ของโรงแรมที่มีทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นระดับ 3 ดาว และเกสต์เฮาส์ที่อยู่ในย่านนี้ ดังนั้น ดีมานด์ของโรงแรมระดับ 4 ดาวในย่านใจกลางเมืองหรือเขตเมืองเก่าจึงยังมีอีกมาก

นายวิพนธ์กล่าวว่า ปรัชญาการลงทุนในการทำรีสอร์ตแห่งนี้ มุ่งเน้นในเรื่องการดูแลสุขภาพเป็นจุดขายหลัก ตามวิถีแห่งมังสวิรัติ จัดเป็นรีสอร์ตชั้นนำในเรื่องการบำบัดด้วยพืชสีเขียว ซึ่งพื้นฐานของครอบครัวยึดการดำรงชีวิตแบบไม่ฆ่าสัตว์อย่างเคร่งครัด ดำเนินวิถีมังสวิรัติ ปราศจากเนื้อสัตว์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงมั่นใจที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งต่างชาติและไทยที่มีไลฟ์สไตล์มังสวิรัติ โดยการปรุงและเสิร์ฟอาหารแนววีแกนทุกเมนู ทั้งเมนูอาหารนานาชาติและอาหารไทย ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวงด้านการออกแบบของตัวอาคาร เน้นงานสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ล้านนา เพื่อให้กลมกลืนกับย่านเมืองเก่า

มีคอนเซ็ปต์คือน้ำ เรื่องราวมาจากประวัติศาสตร์ของเชียงใหม่ ที่มีวัดที่สวยงาม เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบตกแต่ง โดยตัวอาคารเป็นพื้นไม้สีทึบตัดกับระเบียงสีขาว ได้รับอิทธิพลมาจากยุคสมัยของเจ้าดารารัศมี ที่สยามได้รับอิทธิพลในแบบตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงนำมาผสมผสานกับเรื่องราวของน้ำและวิถีพุทธ คือดอกบัว งานประติมากรรมเน้นดีไซน์แบบคลื่นน้ำ การตกแต่งเน้นสีบลู แอนด์ ไวต์

นายวิพนธ์กล่าวต่อว่า สำหรับการบริหารภายใต้เชน BHMA ที่เป็นเชนบริหารธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย มีทั้งหมด 3 แบรนด์คือ ครอสทู (X2) ครอสทู ไวบ์ (X2 Vibe) และอเวย์ (Away)

แต่ละแบรนด์จะมีแคแร็กเตอร์ที่แตกต่างกัน แบรนด์ “อเวย์” จะเป็นแนวรีทรีต รีสอร์ต ระดับ 4 ดาว จึงกลายมาเป็นความลงตัวของ “Away Chiang Mai Thapae Resort” โดยในช่วงของการเปิดให้บริการมาได้ราว 1 เดือนกว่า มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 50% และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 6-8 ปี นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนด้านธุรกิจโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าภายใน 2-3 ปีจะลงทุนเพิ่มอีก 1 แห่งในเขตคูเมืองเชียงใหม่