เที่ยว 9 จังหวัดตะวันออกฟื้น ระยอง-จันท์-ตราด อัดแพ็กเกจบูม

ททท.ภาคตะวันออก ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและการทยอยเปิดประเทศ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปรียบเทียบประมาณการรายได้จากผู้มาเยี่ยมเยือน รายได้รวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภูมิภาคตะวันออก (9 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ) ทะลุเกินเป้าไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยศักยภาพเมืองรองที่มีอัตลักษณ์ต่างกัน

ตั้งเป้าเชื่อมเมืองหลัก-รอง

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยในงานกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะและทะเลภาคตะวันออก ณ เกาะหมาก จังหวัดตราด เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ปี 2566 ททท.ประกาศเป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยว (Visit Thailand Year) และช่วงนี้เป็น high season ของทะเลตะวันออก หมู่เกาะที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์

จึงจัดกิจกรรมกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว จังหวัดชายทะเลภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด โดยเลือก “เกาะหมาก” จ.ตราด พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ low carbon destination และได้รับรางวัลติดอันดับ Top 100 Green Destination ปี 2565 เป็นโมเดลต้นแบบตอกย้ำภาพลักษณ์และขยายการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ททท. มีโครงการ 365 มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน รวมทั้งแคมเปญย่อย ๆ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวหลากหลายทั้งปีไม่ซ้ำกัน โครงการ Workation วันธรรมดาสามารถเดินทางท่องเที่ยวและทำงานไปพร้อม ๆ กัน จากกระแส work from anywhere ได้รับความนิยมมากขึ้น “ทำงานง่าย ได้สุขภาพ” และจะมีแคมเปญใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้เป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าการเดินทางคุ้มค่าและตัดสินใจเร็วขึ้น

“ภาคตะวันออกมีแนวทางกระจายนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักพัทยาไปเมืองรองควบคู่กัน เช่น ระยอง-จันทบุรี จันทบุรี-ตราด เริ่มจากเปิดฤดูท่องเที่ยวจากหมู่เกาะ ทะเล ต่อจากนั้นเป็นช่วงฤดูผลไม้ เดือนเมษายน-ฤดูฝน ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว จะเปิดการท่องเที่ยวหน้าฝนแบบแคมปิ้ง

คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก จำนวน 16 ล้านคน/ครั้ง และรายได้ทางการท่องเที่ยวจำนวน 109,328 ล้านบาท จากที่ ททท.ตั้งเป้ารายได้ของประเทศไว้ 80% ของปี 2562 ประมาณ 2.38 ล้านล้านบาท มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน

ทางด้านนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง ตราด คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชัดเจนในไตรมาส 1-2 ส่วนใหญ่เป็นโซนยุโรปที่มาเที่ยวทะเล สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนน่าจะมาจากเมืองหลักเชื่อมโยงกับเมืองรองไม่ไกล เดินทางไป-กลับได้ เช่น พัทยา-ระยอง เที่ยวสวนผลไม้”

9 จว.ตะวันออกฟื้น

ตราดจัดแพ็กเกจ 3 คืน 4 วัน

นางพัสลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ย. 65 จ.ตราด มีผู้เยี่ยมเยือน 1,186,852 คน แบ่งเป็น คนไทย 1,152,638 คน และต่างประเทศ 34,214 คน มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 7,798 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีผู้เยี่ยมเยือน 2,181,210 คน แบ่งเป็น คนไทย 1,639,707 คน และต่างประเทศ 541,503 คน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 19,989.90 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากคนไทย 11,621.72 ล้านบาท และต่างประเทศ 8,368.23 ล้านบาท

นักท่องเที่ยวไทยใกล้เคียงกัน ส่วนคนต่างประเทศเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นโซนยุโรปมาท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งมีศักยภาพสูง และมีการใช้จ่ายสูงกว่าคนไทย คาดว่าตราดน่าจะทำตลาดได้ตามเป้าหมายของ ททท.

จุดเด่นของจังหวัดตราดมี “เกาะหมาก” แหล่งท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนได้รับรางวัลติดอันดับเป็น 1 ใน top 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนของโลก Destination Sustainability Stories 2022 ที่จูงใจชาวต่างประเทศ ส่วนตลาดคนไทยได้ร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชนเน้นการท่องเที่ยวบนฝั่งเชื่อมโยงกับเกาะ

เช่น การท่องเที่ยว city tour เชื่อมโยงกับตัวจังหวัด การท่องเที่ยวชุมชนอาหารถิ่น การท่องเที่ยวสวนผลไม้ ที่ จ.ตราด มีไฮไลต์คือทุเรียนออกก่อนในภาคตะวันออก และมีโครงการวันธรรมดาเป็นวันพิเศษที่ร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2566 ขายแพ็กเกจ 3 คืน 4 วัน (พักบนฝั่ง 1 คืน เกาะ 2 คืน) และบริษัท บางกอกแอร์เวย์ส เพิ่มเที่ยวบินจาก 2 เที่ยว/วัน เป็น 3 เที่ยว/วัน

เร็ว ๆ นี้น่าจะมีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 5 ของ ททท.ออกมาช่วยสนับสนุนตลาดคนไทย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น จำนวนวันที่พัก ราคาที่พักที่ปรับสูงขึ้นหลังช่วงโควิด-19 และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

ด้าน นายสัคศิษฎ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นักท่องเที่ยวจีนคงนิยมเที่ยวในเมืองหลัก มากกว่าเมืองรอง แต่ จ.ตราด จะได้ผลพวงนักท่องเที่ยวโซนยุโรป รัสเซียมีความคึกคักมาก เที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ส 2 เที่ยว/วัน 90% เป็นชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายชาวต่างประเทศที่เข้ามาเลือกที่พักระดับดี แต่การใช้จ่ายประหยัดขึ้นจากก่อนโควิด-19 วันละ 6,000 บาท/คน ปัจจุบันเหลือ 4,500-5,000 บาท/คน ขณะที่คนไทยมีค่าใช้จ่าย วันละ 2,700-2,800 บาท/คน

9 จว.ตะวันออกฟื้น

จันท์อัด 4 สายเขียว-ชิล-มู-กิน

ด้าน นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานจันทบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จันทบุรีเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพ แผนปี 2566 แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ภูผา มหานที (ทะเลน้ำตก) วิถีชาวจันท์ (ประเพณีวิถีคนจันท์) ส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ

โดยโครงการหลัก ๆ คือ “สบ๊ายสบายตะวันออก” นำเสนอโปรดักต์และกิจกรรม 4 สาย คือสายชิล สายเขียว สายมู สายกิน นอกจากนี้ มีโครงการสำรับจันท์ ต่อยอดทำการตลาดเที่ยวได้ทั้งปี เริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายในฤดูหนาว เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอำเภอสอยดาว เสมือนการเปิดประตูสู่เมืองจันท์ มีไฮไลต์ครบ 4 สาย มีการทำแผนที่เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ที่กิน 3 พื้นที่ คือ อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว

และคลิปวิดีโอแนะนำนักท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น จากนั้นระหว่างวันที่ 22 มกราคม-22 มีนาคม เป็นงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชกูฏ ต่อด้วยฤดูกาลผลไม้และการเที่ยวทะเล

“ปี 2565 ททท.สนง.จันทบุรี ทำรายได้สูงกว่าเป้าหมาย ปี 2566 ตลาดภายในประเทศจะเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าปริมาณและเป็นเจ้าบ้านที่ดี ตลาดนักท่องเที่ยวจีนน่าจะกลับมาช่วงไตรมาสแรกปี 2566

ทั้งนี้ ททท.มีโครงการร่วมกับภาคเอกชนนำนักธุรกิจชาวจีนกลุ่มพรีเมี่ยมที่มีกำลังซื้อสูง ทำโปรแกรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันในภาคตะวันออกในช่วงฤดูผลไม้ ระยอง-จันทบุรี-ตราด เป็นแพ็กเกจ 4 วัน 3 คืนจากสนามบินสุวรรณภูมิ โปรแกรมให้ทานผลไม้ในสวนโดยเฉพาะทุเรียน ไหว้พระวัดมังกรบุปผาราม เที่ยวชมชุมชนริมน้ำจันทบูร ทานอาหารท้องถิ่นที่จันทบุรี

ต่อด้วยการเที่ยวเกาะในทะเล จ.ตราด มีกิจกรรมทางน้ำ อาหารทะเล ค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท/คน/วัน สูงกว่าคนไทยเกือบ 10 เท่า คนไทย 1,700 บาท/คน/วัน”

9 จว.ตะวันออกฟื้น

ระยองใช้ Sea Sand Sun ดึง

นายวัชรพล สารสอน ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2565 การท่องเที่ยว จ.ระยอง เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการเปิดประเทศ สนามบินอู่ตะเภาที่เป็นสนามบินนานาชาติ

ทั้งสายการบินปกติและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ปี 2562 ระยองมีนักท่องเที่ยว 7.8 ล้านคน รายได้ 37,000 ล้านบาท ปี 2565 คาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา 2-3 ล้านคน และมีอัตราเข้าพักเกิน 60%

โดยนักท่องเที่ยวไทย 90% ทยอยเข้ามาเที่ยวทะเลเป็นช่วงไฮซีซั่น ตั้งแต่ตุลาคม-พฤศจิกายน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 10% เป็นกลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย กลุ่มเอเชีย และเกาหลี ซึ่งสนใจท่องเที่ยวเชิงกีฬา

โดยเฉพาะตีกอล์ฟ ปี 2566 มีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง จากเมืองกว่างโจวเข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวของ จ.ระยอง ที่มีครบคือ มี sea sand sun และสวนผลไม้รวมทั้งที่เที่ยวใหม่ ๆ เพื่อจัดกิจกรรมแฟมทริป (FAM Trip) ดึงนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยว

“ระยองพร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 คณะสื่อและ travel agency จากนครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 4 ราย ได้แก่ Lazy Fish, Sufei’s World, 42Ctrip, Convergent ได้เดินทางเข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ระยอง ในการเดินทางทำกิจกรรมของ TAT Guangzhou Amazing New Chapters MET&AET Fam Trip

เช่น หมู่เกาะเสม็ดดำน้ำดูปะการัง เกาะทะลุ เกาะกุฎี สวนพฤกษศาสตร์ระยอง Unseen New Series พายซัพบอร์ด/คยักชมป่าชุ่มน้ำขนาดใหญ่ ถนนยมจินดา วิถีชีวิตไทย-จีน เรือรบหลวงประแสร์ คาดว่าจะเริ่มมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาด้วยตัวเอง FIT ช่วงไตรมาส 1 ช่วงตรุษจีน และไตรมาส 2 ท่องเที่ยวสวนผลไม้”