ภูเก็ต เข้มแก้ปัญหาน้ำเสีย ปรับ 1 ล้านบาท โรงแรมไม่ส่งรายงาน EIA/IEE

ภูเก็ต

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต (ทสจ.) เตรียมปรับ 1 ล้านบาท สำหรับโรงแรมที่เพิกเฉยต่อเรื่องน้ำเสีย ไม่ส่งรายงานมอนิเตอร์ EIA/IEE เตรียมสร้างภาพพจน์เป็นเจ้าภาพ EXPO2028

วันที่ 31 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนพงษ์ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต (ทสจ.) กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ได้มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดังนี้

ข้อ 1.โครงการหรือกิจการที่มีจำนวนห้องหรือพื้นที่ใช้สอยอาคารเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อมรายงาน EIA และ IEE ต้องดำเนินการจัดทำและเสนอรายงานตามขั้นตอนก่อนนำรายงานไปประกอบการขออนุญาตก่อสร้างและดำเนินการ ได้รับความเห็นชอบต้องระวางโทษไม่เกิน 1 ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละ1แสนบาท ตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องหรือหยุดการกระทำนั้นตามมาตรา 101/1

Advertisement

ข้อ 2.โครงการหรือกิจการที่ได้จัดทำรายงาน EIA หรือ IEE ซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ระบุไว้ในรายงาน EIA หรือ IEE ซึ่งเรียกว่ารายงาน Monitor จะต้องจัดส่งอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง กรณีไม่นำส่งต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ตามมาตรา 101/2

ข้อ 3.โครงการหรือกิจการที่เข้าข่ายเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ ซึ่งต้องจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียต้องดำเนินการจัดทำรายงานสรุปผลการทำงานของระบบบำบัดน้ำเสีย ตามรายงาน ทส.1 และ ทส.2 ตามกฎกระทรวงมาตรา 80 กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 104 ไม่จัดเก็บสถิติข้อมูลหรือไม่ทำบันทึกรายงานตามมาตรา 80 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 106 จัดทำรายงานอันเป็นเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 107

Advertisement

ข้อ 4.กรณีฝ่าฝืนตามข้อกำหนดตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 100

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต (ทสจ.) ได้แจ้งเตือนสถานประกอบการจะต้องส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมระยะเวลาตามที่ได้แจ้งไป ถ้าครบเวลาแล้วยังไม่ส่งทาง ทสจ.ภูเก็ตจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแจ้งไปยังผู้ประกอบการในโทษเปรียบเทียบปรับ ซึ่งคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับอยู่ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การที่มีมาตรการนี้คือ กฎหมาย พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมปี 2535 แก้ไขฉบับที่ 2 เมื่อปี 2561 ได้มีบทกำหนดโทษไว้ จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการในจังหวัดให้รับทราบกฎหมายว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวได้กำหนดโทษไว้แล้วขอให้ผู้ประกอบการเตรียมตัวทำรายงานส่ง

Advertisement

“ช่วงโควิด-19 มีบางโครงการปิดระบบไป มีการรับแจ้งเป็นทางการแต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นต้องส่งรายงานตามระเบียบให้ทาง ทสจ.ภูเก็ต เพื่อจะได้ส่งต่อให้ สผ. โดยข้อมูลว่าโรงแรมใดมี EIA หรือไม่มี EIA สามารถดูได้ในเว็บไซต์ของ สผ. กับระบบ Smart EIA”

สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีจำนวนกว่า 2,000 โครงการ ส่งมาจำนวน 100 โครงการยังไม่ถึง 1,000 โครงการ จะต้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่ระบุไว้ ทาง ทสจ.ภูเก็ต ได้ส่งจดหมายถึงผู้ประกอบการไป 3 ครั้งแล้ว

โครงการที่อยู่ในข่ายที่จะต้องส่งรายงานนี้มีทั้งจังหวัดภูเก็ต ถ้าไม่ทำตามจะต้องบังคับใช้ตามกฎหมาย มีอัตราโทษปรับ 1 ล้านบาท ซึ่วันที่ 31 มกราคม 2566 คือ สิ้นสุดการส่งรายงานในวันนี้แต่ถ้ายังไม่เรียบร้อยให้ยืดระยะเวลาอีก 1 เดือนกับอีก 30 วัน จากนั้นวันที่ 2 มีนาคม 2566 ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย

ที่ผ่านมาตนพร้อมด้วย นายณัฐกฤษณ์ พลเพชร (ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม) ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายความรู้ เรื่อง การควบคุมและแก้ไขปัญหาน้ำเสียของสถานประกอบการภายในพื้นที่ตำบลกะรน​ และประชาสัมพันธ์การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม​ประจำปี ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารสำนักงานเทศบาลตำบลกะรน ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

“ส่วนราชการต้องขับเคลื่อนกัน เราโชว์แต่เรื่อง เซอร์วิสชาร์จ แต่ไม่ได้โชว์เรื่อง EIA ดังนั้นทุกโครงการต้องโชว์ EIA ด้วย จึงจะตอบโจทย์ได้ เพราะภูเก็ตเป็นเกาะและเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคลุมทั้งเกาะ”

ปีนี้จังหวัดภูเก็ตตั้งเป้ารับนักท่องเที่ยวจำนวน 12 ล้านคน ใกล้เคียงปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยว 14.5 ล้านคน เที่ยวบินกว่า 1 แสนไฟลต์ ตอนนี้ นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาแล้วถ้าจังหวัดภูเก็ต ยังปล่อยและไม่มีการร่วมมือกัน จึงมีความเป็นห่วงเรื่องขยะ และน้ำเสีย ฝากถึงชาวภูเก็ต

เนื่องจากภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวติดอันดับโลก ต้องร่วมกันในการดูแลขยะและน้ำเสีย มลพิษ ความสะอาดของน้ำทะเล โดยทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 15 ซึ่งประจำที่ภูเก็ตได้ รายงานสภาพน้ำทะเลอยู่ในเกณฑ์ดี 60% ถือว่ายังใช้ได้

จากนี้ไปถ้าไม่ช่วยกันสอดส่องดูแลขยะหรือน้ำเสีย จะเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดี ประกอบกับภูเก็ตจะเป็นเจ้าภาพ  EXPO 2028 จะต้องตอบโจทย์ข้อนี้ให้ได้ก่อนกับเรื่องขนะ น้ำเสีย มลพิษในจังหวัดมีมาตรการรายงานสิ่งแวดล้อมหรือยัง

ขอให้สถานประกอบการต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและส่วนราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเป็นหน้าเป็นตาของภูเก็ตและประเทศไทย นายวัฒนพงษ์กล่าว