เอ็กซา ซีแลม โตไม่หยุด ตลาดฟันปลอมโตพรวด 350 ล้าน เปิดแผนปี”61 มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตฟันปลอมจาก 1,500 คนต่อวัน เป็น 2,000 คนต่อวัน เล็งแตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทันตกรรมแบบครบวงจร เผยตลาดในประเทศเติบโตต่อเนื่อง เร่งขยายสาขาปักฐานการผลิตทั่วไทย บุกหนักตลาดอาเซียน-ยุโรป ตั้งธงปี 2563 รายได้แตะ 1,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายอนุชา มีเกียรติชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด ผู้ผลิตฟันปลอมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางทันตกรรมรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดฟันปลอมในประเทศและส่งออกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 ภาพรวมรายได้ของบริษัทอยู่ที่ 350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในประเทศมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 13% ซึ่งปี 2561 ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 20%
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
โดยในช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มุ่งเน้นการขยายตลาดภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งได้ลงทุนขยายสาขาเป็นฐานผลิตฟันปลอม และบริการผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางทันตกรรมไปยังหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น เชียงราย พิษณุโลก กรุงเทพฯ นครสวรรค์ อุดรธานี อุบลราชธานี และชลบุรี เป็นต้น เพื่อรองรับให้บริการคลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เช่น สาขาใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จะรองรับบริการในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง อาทิ ลำปาง แม่ฮ่องสอน ลำพูน อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน สาขาอุดรธานี จะให้บริการจังหวัดอีสานเหนือ รวมถึงประเทศลาว ขณะที่สาขาอุบลราชธานี รองรับบริการพื้นที่อีสานใต้ และประเทศลาว ส่วนสาขาเชียงรายจะรองรับบริการลูกค้าจากประเทศเมียนมาได้
ด้วยบุคลากรรวมทั้งสิ้น 700 คน ประจำสาขาเชียงใหม่จำนวน 400 คน ที่เหลืออีก 300 คน ประจำสาขาในจังหวัดต่าง ๆ
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราการเติบโตของตลาดฟันปลอมเพิ่มขึ้นมากต่อเนื่องก็คือ ประชาชนมีการเข้าถึงในการรักษาทางทันตกรรมสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อระดับกลาง-บน มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก และในปีนี้เตรียมขยายสาขาไปยังพื้นที่ภาคใต้อีกหลายจังหวัด
นายอนุชากล่าวต่อว่า แผนงานสำคัญในปี 2561 จะมุ่งพัฒนา 3 ด้าน คือ 1.การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตฟันปลอมและผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรมให้กับคนไข้ที่ทันตแพทย์จากคลินิกและโรงพยาบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศส่งเคสมาให้บริษัทจำนวน 1,500 คนต่อวัน โดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนการผลิตเป็น 2,000 คนต่อวัน
แผนงานที่ 2 คือ การเพิ่มมาตรฐานการผลิตและการบริการ และแผนงานที่ 3 เตรียมแตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทันตกรรม มุ่งสู่ธุรกิจ dental supply อาทิ วัสดุที่ใช้ในทางทันตกรรมหลาย ๆ
ชนิดที่สามารถขยายช่องทางธุรกิจใหม่ไปยังฐานลูกค้าเดิม คือคุณหมอที่ทำงานร่วมกับบริษัทมากกว่า 4,000 คน รวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ การแตกไลน์ธุรกิจใหม่ดังกล่าว จะทำให้บริษัทมีโอกาสขยายตลาดธุรกิจด้านทันตกรรมได้ครบวงจรมากขึ้น และจะช่วยเพิ่มมูลค่ารายได้ให้สูงขึ้น โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวในปี 2563 จะทำรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปีนี้ก็จะเร่งขยายงานในตลาดต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่เป็นผู้ผลิตฟันปลอมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มออร์เดอร์งานฟันปลอมจากบริษัทเข้าไปจำนวนเพิ่มขึ้น และอาจมีการแลกเปลี่ยนบุคลากร โดยจะนำเข้าบุคลากรของบริษัทเพื่อไปทำงานด้านทันตกรรม เป็นต้น ขณะเดียวกัน ก็อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ายุโรปที่ต้องการ
ออร์เดอร์ฟันปลอมจำนวนมาก เนื่องจากความต้องการใช้ฟันปลอมในประเทศกลุ่มยุโรปเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากการเจรจาทั้งตลาดญี่ปุ่นและยุโรปบรรลุผล จะส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกฟันปลอมไปต่างประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้น 50%
นายอนุชากล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทส่งออกฟันปลอมไป 14 ประเทศ รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียน อาทิ ลาว พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์และกัมพูชา และกำลังเตรียมขยายตลาดไปในอาเซียนอีกหลายประเทศ โดยในช่วงระยะ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงของการพัฒนาฐานธุรกิจให้แข็งแรง ทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาองค์กรภายในและการบริการ ประกอบกับแผนงานในปี 2561 ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการขยายธุรกิจใหม่ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯตามแผนที่ตั้งเป้าหมายไว้ คาดว่าหลังปี 2563 บริษัทจะมีความพร้อมมากยิ่งขึ้น และจะดำเนินเรื่องเพื่อนำเอ็กซา ซีแลม เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป