กกต.เชียงใหม่ทุ่ม 100 ล้าน รับ 38 พรรคลงเลือกตั้ง คาดคนใช้สิทธิ 85%

หีบเลือกตั้ง เชียงใหม่

กกต.เชียงใหม่จับมือ สปข.3 เปิดเวทีเสวนา “รู้ก่อนเลือกตั้ง พลังคนไทยได้ใช้สิทธิ” ตั้งเป้าคนเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิพุ่ง 85% พร้อมทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาทสำหรับจัดการเลือกตั้ง 10 เขต เผย 38 พรรคการเมืองเตรียมลงสนามเลือกตั้งพรึ่บ

วันที่ 20 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และนายแสงทอง อนันตภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 (สปข.3) เปิดกิจกรรมสโมสรคนสื่อ เวทีเสวนา “รู้ก่อนเลือกตั้ง พลังคนไทยได้ใช้สิทธิ” ตามโครงการรับฟังเสียงประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ณ ห้องประชุมสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 อ.เมือง จ.เชียงใหม่

นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ (กกต.) เปิดเผยว่า จำนวนราษฎรของจังหวัดเชียงใหม่ ตัวเลข ณ ปัจจุบัน มีราว 1.79 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นราษฎรที่มีสัญชาติไทยราว 1.62 ล้านคน และที่เหลือราว 1.6 แสนคนคือคนที่ไม่มีสัญชาติไทย (ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอฝางและอำเภอเชียงดาว)

โดยราษฎรที่มีสัญชาติไทยจำนวน 1.62 ล้านคนดังกล่าว มีสิทธิเลือกตั้งในปีนี้ราว 1.3 ล้านคน ขณะที่ปัจจุบันได้มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่ที่อิงจากจำนวนประชากร ดังนั้น จังหวัดเชียงใหม่จึงมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 10 คน จากเดิมที่มี 11 คน

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นราวเดือนพฤษภาคม 2566 โดยกกต.เชียงใหม่ตั้งเป้าจำนวนราษฎรที่จะออกมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 85% เทียบกับการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562) มีจำนวนราษฎรเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิ 83.33% ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีผู้ออกมใช้สิทธิเพิ่มขึ้นถึง 85% ด้วยเพราะความอัดอั้นตันใจกว่า 4 ปี ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาดว่าคนรุ่นใหม่จะออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น

นายนพดล กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.เชียงใหม่ คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 100 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อเขตเลือกตั้ง (ทั้งหมด 10 เขต) ซึ่งปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีพรรคการเมืองที่ทำกิจกรรมทางการเมือง 38 พรรค ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้

มีเพียง 10-11 พรรคการเมืองที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักและมีความโดดเด่น ทั้งนี้ กกต.เชียงใหม่ ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนราว 30,000 คนสำหรับดำเนินการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 10 เขต

โดยได้เร่งลงพื้นที่ 204 ตำบล (25 อำเภอ) ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องการเลือกตั้ง การอบรมเพื่อเตรียมบุคลากรประจำหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะความเข้าใจในการใช้สิทธิอย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ใช้สิทธิจะได้บัตร 2 ใบ สำหรับเลือกผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเลือกตั้งครั้งนี้ ในด้านการใช้สิทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 85% ซึ่งหากเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ ถือว่าเชียงใหม่จะเป็นจังหวัดที่มีการใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จากจำนวนผู้ใช้สิทธิที่มีจำนวนเกิน 1 ล้านคน ขณะที่ในด้านการแข่งขันของพรรคการเมืองต่างๆ ไม่น่าจะมีสถานการณ์รุนแรง ซึ่งจากการเลือกตั้งท้องถิ่นหลายครั้งที่ผ่านมาก็ไม่มีอิทธิพลหรือการคุกคามใดๆ เนื่องจากคนเชียงใหม่ไม่ก้าวร้าวและอัธยาศัยดี

ส่วนเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจจะมี แต่ไม่โจ่งครึ่ม ซึ่งธรรมชาติของคนเชียงใหม่ส่วนใหญ่จะใช้สิทธิด้วยความชอบตัวบุคคลหรือตัวนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ 4 ปีที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น การอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด