SMEs เชียงใหม่ ผนึก “Japan Village” จับคู่ธุรกิจรุกส่งออก

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยเชียงใหม่ จับมือโครงการ Japan Village ลงนามเอ็มโอยู ยกระดับผู้ประกอบการไทย รุกตลาดส่งออก เชื่อมโยงการตลาด-สินค้า-ท่องเที่ยว รุกตลาดส่งออกสินค้า-บริการสุขภาพ ตีตลาดญี่ปุ่น-ตะวันออกกลาง-ยุโรปตะวันออก พร้อมเตรียมแผนจัดคณะจับคู่ธุรกิจ-ร่วมงานแสดงสินค้าในไทยและญี่ปุ่นด้านธุรกิจสุขภาพ ความสวยงาม-คอสเมติก และด้านอาหาร

นางประภา กลิ่นสุวรรณ ประธานสมาพันธ์ SMEs ไทยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัท Across Thailand จำกัด ผู้บริหารโครงการ Japan Village เพื่อร่วมมือกันการพัฒนา แลกเปลี่ยน และส่งเสริมการค้า การลงทุนเชื่อมโยงกันในประเด็นที่ครอบคลุมด้านการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ตลอดจนการเชื่อมโยงทางด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการท่องเที่ยว ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ให้เห็นโอกาสตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพและความต้องการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมุ่งสู่การส่งออกให้มากขึ้น นอกจากญี่ปุ่นแล้ว สมาพันธ์ยังมีแผนจะเชื่อมโยงตลาดตะวันออกกลาง ตลาดยุโรปตะวันออก ที่มีความต้องการด้านสินค้าและบริการสุขภาพสูง รวมถึงจีน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หากทำได้ก็จะสามารถทำให้เอสเอ็มอีมีการพัฒนาและต่อยอดสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่หมุนเวียนสูงขึ้นตามมา

นายโคจิ โคระตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Across Thailand จำกัด ผู้บริหารโครงการ Japan Village กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นมิติใหม่ที่จะสร้างกลไกความร่วมมือในระดับเอสเอ็มอีของจังหวัดเชียงใหม่และญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าในพื้นที่เชียงใหม่และภาคเหนือมีศักยภาพด้านการผลิตสินค้าหลายประเภทที่ผู้บริโภคญี่ปุ่นนิยม เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าหัตถกรรม ของตกแต่งบ้าน โดยสามารถขายผ่านระบบออนไลน์ได้โดยมีต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งที่ญี่ปุ่นนิยมแพลตฟอร์มอันดับแรกคือ Amazon รองลงมาคือ Rakuten และ Yahoo auction นอกจากนั้นคือการที่จะได้ริเริ่มการจับคู่ธุรกิจตรงในลักษณะ B2B ระหว่างกัน

โดยโครงการ Japan Village มีแผนจะนำผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีที่มีความพร้อมของเชียงใหม่ไปสำรวจตลาดและจับคู่ธุรกิจกันที่ประเทศญี่ปุ่น 4 งานต่อปี โดยในเดือนพฤษภาคมนี้จะเป็นงาน Beauty world Japan ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 14-16 พฤษภาคม 2561 หลังจากนั้นจะเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปในช่วงปลายปีที่คิดว่าจะเป็นโอกาสดีที่จะสามารถเปิดตลาดเชื่อมโยงระหว่างกันได้


นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวยังครอบคลุมกิจกรรมที่จะดำเนินร่วมกันคือ การศึกษาโอกาสทางการตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ของแต่ละฝ่ายที่จะสามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนในการทำตลาดร่วมกัน โดยตั้งคณะทำงานระหว่างสองฝ่ายเพื่อเชื่อมโยงการค้า การพัฒนา SMEs ร่วมกัน อีกทั้งเพื่อกำหนดแผนงานในระยะยาวและการพัฒนาบุคลากร ได้แก่ การจัดฝึกอบรม สัมมนาร่วมกัน การร่วมจัดงานแสดงสินค้า การจับคู่ธุรกิจ การพัฒนาบุคลากรทางด้าน SMEs การจัดทัศนศึกษาดูงานในแต่ละฝ่าย การพัฒนาระบบการค้าออนไลน์ หรือ e-Commerce เป็นต้น