แม่น้ำโขงพ้นวิกฤตชั่วคราว จีนยอมปล่อยน้ำจากเขื่อนพ้นระดับ 2 เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแห้งลงอย่างารวดเร็ว จนปรากฎให้เห็นหาดทรายและโขดหินไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ชายแดนทิศเหนือในประเทศจีน จนถึงประเทศเมียนมา-สปป.ลาว ระดับน้ำหลายจุดลึกไม่ถึง 2 เมตร โดยเฉพาะบริเวณมองป่าแหลวตั้งอยู่ชายแดนเมียนมา-สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 53 กิโลเมตร เพราะเป็นหาดทรายตื้นเขินที่กว้างขวาง ทำให้เรือสินค้าลุ่มน้ำโขงที่แล่นไปตามเมืองท่าต่างๆ ไปยังท่าเรือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เกยตื้นและติดหาดทรายกันหลายครั้ง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็มีสภาพปัญหาใกล้เคียงกันไปตลอดลำน้ำ

ล่าสุดนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) นายสุรนาถ ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย พร้อมด้วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าสำรวจสถานการณ์ระดับน้ำแล้วพบว่า ระดับบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.30 เมตร ทำให้เรือเล็กและเรือบรรทุกที่กินน้ำไม่ลึกมากนักสามารถแล่นไปมาได้บ้าง อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ยังคงจอดอยู่ริมฝั่งและหากจำเป็นต้องเดินเรือยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่าทางจังหวัดได้มาตรวจสถานการณ์แม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่องและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งก็พบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาระดับน้ำลดลงต่ำถึงกว่า 1.90 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือโดยพบว่าไม่ใช่เฉพาะเรือบรรทุกสินค้าเท่านั้น ที่ไม่สามารถแล่นไปมาได้หรือติดหาดทรายเกยตื้น แม้แต่เรือท่องเที่ยวก็ประสบปัญหาเกยหาดทราย และต้องมีการนำเรือไปขนถ่ายผู้โดยสารกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย ดังนั้นทางจังหวัดจึงได้ประสานไปยังกรมเจ้าท่า ฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งให้ประเทศจีนได้ทราบสภาพปัญหาและปล่อยน้ำจากเขื่อนที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีนลงมา

นายณงค์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ผลการประสานงานพบว่าทางการจีนยอมปล่อยน้ำลงมาในระดับหนึ่ง ทำให้ในปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2-2.30 เมตรแล้ว ซึ่งหากคงระดับนี้เอาไว้ได้ต่อไปก็จะทำให้เรือทั่วไปสามารถเดินเรือได้ ส่วนเรือบรรทุกสินค้าก็ต้องยอมลดระวางบรรทุกลงราว 25-30% ของน้ำหนักที่เคยบรรทุกก็จะสามารถแล่นได้ต่อไป ทั้งนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะทางเจ้าท่าได้ดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากเกิดปัญหาขึ้นอีกก็ให้รีบแจ้งเพื่อจะได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และประสานงานไปยังประเทศจีนได้ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในปัจจุบันประเทศจีนมีเขื่อนที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุดชื่อเขื่อนจิ่งหง ตั้งอยู่ที่เมืองจิ่งหงหรือเชียงรุ้ง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ห่างจาก อ.เชียงแสน ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร โดยเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีความสูง 118 เมตร มีกำลังผลิตไฟฟ้า 1,500 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ถัดจากเขื่อนจิ่งหงขึ้นไปยังมีอีกหลายเขื่อน เช่น เขื่อนมันวาน เขื่อนต้าเฉาชาน เขื่อนเชี่ยววาน และเขื่อนที่อยู่เหนือสุดคือเขื่อนกอนเกาเคียว ซึ่งที่ผ่านมาที่เขื่อนจิ่งหงจะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนในอัตราประมาณ ประมาณ 1,000-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากเป็นช่วงฤดูแล้งหรือซ่อมแซมเขื่อนก็จะลดระดับลงกว่านั้นเท่าตัว ทำให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใต้เขื่อน ทั้งนี้จีนมีศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา แต่จะแจ้งข้อมูลให้ทราบเฉพาะเรือสินค้าในเครือข่ายเท่านั้น ไม่มีการแจ้งข้อมูลผ่านหน่วยงานรัฐต่อรัฐแต่อย่างใด

ขณะที่การค้าชายแดนที่ อ.เชียงแสน จำเป็นต้องใช้การขนส่งทางเรือเป็นหลัก ในปี 2560 ที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้ามูลค่า 899.90 ล้านบาท ส่งออกมูลค่า 14,431.26 ล้านบาท และปี 2561 จนถึงเดือน ก.พ.นี้นำสินค้าเข้ามาแล้วมูลค่า 271.50 ล้านบาท และส่งออกมูลค่า 8,565.76 ล้านบาท สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรกรรม เช่น มันฝรั่ง กระเทียมสด ฯลฯ ส่วนสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง น้ำมันดีเซล ยางพารา สุกรมีชีวิต ฯลฯ