เครือวัลย์ วงศ์รักมิตร “นครชัยแอร์” รุกทุกมิติเพิ่มรายได้

สัมภาษณ์

ถึงวันนี้ ดูเหมือนว่า “ต้นทุน” จะยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของบรรดาผู้ประกอบการรถโดยสารระหว่างจังหวัดและรถโดยสารสาธารณะ โดยนอกจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกด้านหนึ่งปริมาณผู้โดยสารกลับมีตัวเลขที่ลดลง เนื่องจากมีทางเลือกการเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ ส่งผลให้รายได้ของทุกค่ายลดลง

ล่าสุด “เครือวัลย์ วงศ์รักมิตร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด หนึ่งในผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะรายใหญ่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมของธุรกิจและทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงจากนี้ไป

“เครือวัลย์” เริ่มฉายภาพที่เกิดขึ้นว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา แม้ภาพรวมของนครชัยแอร์จะมีกำไร แต่ผู้ให้บริการรถโดยสารรายอื่นมีตัวเลขที่ขาดทุน และมีบางรายที่ได้ตัดสินใจคืนใบอนุญาต

พร้อมกันนี้ เธอยังย้ำว่า สาเหตุหลัก ๆ มาจากปัญหาค่าโดยสาร ไม่สอดคล้องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีรายจ่ายด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าแรง และภาษี ไม่ว่าจะเป็น ภาษีอะไหล่รถ ภาษีป้าย รวมไปถึงรายจ่ายอีกมากมาย

“ค่าโดยสารรถที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นการคำนวณจากฐานราคาน้ำมันดีเซลที่ 20 บาท/ลิตร แต่ในความเป็นจริงราคาน้ำมันดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ 25 บาท/ลิตร แต่ก็ยังไม่มีการพิจารณาปรับราคาค่าโดยสาร”

ซีอีโอหญิงแห่งนครชัยแอร์ยังระบุว่า เรื่องนี้ต้องการให้รัฐเข้ามาช่วยผู้ประกอบการ เช่น การอุดหนุนราคาน้ำมัน การลดภาษีรถยนต์ หรือการลดภาษีอะไหล่ เพราะการปรับราคาค่าโดยสารจะทำให้ผลกระทบไปตกอยู่กับประชาชน

“นครชัยแอร์เองตอนนี้รายได้ก็ลดลงมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว และแม้ว่าสถานการณ์ของวงการเดินรถตอนนี้จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ยืนยันว่ารถทัวร์จะอยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกนาน ซึ่งแน่นอนว่าในแง่ของการแข่งขันก็คงดุเดือดขึ้น เพราะนอกจากรถโดยสารด้วยกันเองแล้วก็ยังต้องแข่งกับรถไฟ และโลว์คอสต์แอร์ไลน์ด้วย และในอนาคตการมีรถไฟความเร็วสูงเข้ามาก็จะส่งผลกระทบมากขึ้น”

สำหรับนครชัยแอร์ในปีนี้ เธอบอกว่า ต้องเร่งปรับตัว และเน้นนโยบายเชิงรุก ล่าสุดได้ทุ่มงบฯกว่า 300 ล้านบาท จัดซื้อรถใหม่ “นครชัยแอร์ 30 ปี Safety Coach” 42 คัน มาให้บริการเพิ่ม เพื่อแทนรถเดิมและเข้าไปยังเส้นทางใหม่

โดยรถใหม่ 42 คัน ได้นำออกมาใช้แล้ว 4 คัน ส่วนหนึ่งจะมาทดแทนรถคันเดิมจาก 350 คัน และน่าจะมีรถเพิ่มขึ้นในระบบรวมแล้ว 20 คัน ซึ่งจะเน้นในเรื่องการเป็นผู้นำด้านคุณภาพ พร้อมเปิดเส้นทางใหม่ไม่ต่ำกว่า 3 เส้นทางในภาคเหนือ นอกจากนี้ยังมีแผนสร้างสถานีเดินรถใหม่อีก 3 แห่ง ในที่ดินของบริษัทและสร้างใหม่บนพื้นที่เดิม คือ จังหวัดสุรินทร์ อุตรดิตถ์ และพัทยา ด้วยงบฯลงทุนประมาณ 90 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังจะเปิดให้บริการวิ่งรถจากสนามบินไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองรองเพิ่ม แต่ทั้งนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาการเปิดให้บริการเดินรถในเมืองรอง 3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ยังไปได้ด้วยดี

ขณะเดียวกัน นครชัยแอร์ก็ต้องปรับตัวด้วยการพยายามหารายได้จากช่องทางอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น ที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการรับส่งพัสดุด่วน (NCA Express) ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัด และต้องการจะส่งพัสดุมายัง 42 เขตในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และมีบริการเช่าเหมารถแบบใหม่ขนาด 20 ที่นั่ง ตั้งเป้าไว้ว่าจะนำมาให้บริการทั้งหมด 8 คัน หรือล่าสุดได้จับมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทำโครงการ “รถสร้างสุข” ที่จะเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้

อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของนครชัยแอร์ปัจจุบันก็ยังเป็นการเดินรถอยู่ ส่วนธุรกิจอื่นยังมีรายได้น้อยมากซีอีโอหญิงแห่งนครชัยแอร์กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 3% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,700 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2559 เพียง 1% ซึ่งตัวเลขช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่ายังไปได้ด้วยดี