“ขอนแก่น” ยิ้มรับเศรษฐกิจเฟื่อง ดันขึ้นแท่นสมาร์ทซิตี้-ฮับการลงทุนอีสาน

พ่อเมืองขอนแก่นยิ้มรับเศรษฐกิจดี จีดีพีขยายตัว 5-6% ย้ำพร้อมรับนักลงทุนต่างชาติ ลุยยุทธศาสตร์โกลบอลซิตี้ เดินหน้าสู่ฮับการรักษาพยาบาล-โลจิสติกส์-โชว์รูมผ้าไหมภาคอีสาน ด้านฝรั่งเศสปักหมุดลงทุนส่งออกเมล็ดพันธุ์พืชส่งขายภูมิภาคเอเชีย

นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจเมืองขอนแก่นค่อนข้างดี มีอัตราการขยายตัวมากถึง 5-6% โตมากกว่าจีดีพีของประเทศ โดยปัจจัยหนึ่งมาจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในช่วงเดือนตุลาคม-มกราคมที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมถึงการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้น แยกเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 20% และรถจักรยานยนต์เพิ่ม 14.9% อีกทั้งค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางที่ดินเพิ่มขึ้นถึง 11% ซึ่งทำให้เชื่อมั่นว่าสภาพเศรษฐกิจค่อนข้างขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ตัวเลขจีพีพีอยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท/ปี แบ่งเป็นรายได้จากภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ภาคพาณิชยกรรม ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ภาคการเกษตรที่สามารถสร้างผลผลิตได้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท และที่เหลือจะเป็นภาคบริการและการศึกษา ฉะนั้นโดยภาพรวมดูเหมือนกับว่าเริ่มปรับตัวเข้าไปเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่จะยังคงมีภาคการเกษตร เน้นย้ำการตลาด เชื่อมความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรพัฒนาผลผลิตไปสู่ต่างประเทศ

“เราพยายามรักษาโมเมนตัมของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เร่งรัดการเบิกจ่ายตามที่รัฐบาลกำหนด ตอนนี้เรามีศูนย์ประชุมแสดงสินค้านานาชาติ สามารถจัดการแสดงสินค้าหรือการประชุม รองรับผู้คนได้ประมาณ 8 หมื่นคน มีการจองห้องประชุมสูงถึงประมาณ 70% แล้วตลอดทั้งปี ฉะนั้นจะมีเม็ดเงินจะไหลเข้ามา เป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจมีความสม่ำเสมอ ส่งอานิสงส์ไปถึงเมืองรองด้วย แต่สิ่งที่โดดเด่นในปีนี้ คือ การลงทุน”

ทุนต่างชาติบุกลงทุน

นายสมศักดิ์กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีการลงทุนในภาคเอกชนจากต่างประเทศมากขึ้น เห็นได้จากบริษัท เอช เอ็ม โคลส จำกัด จากประเทศฝรั่งเศส เข้ามาลงทุนในอำเภอหนองเรือ เป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์พืชส่งขายทั่วโลก มีมูลค่าต่อปีประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ทั้งพืชเขตร้อนและเขตหนาว ทั่วเอเชียมีการลงทุนเพียง 5 ประเทศเท่านั้น โดยจะผลิดเมล็ดพืชเขตร้อนส่งขายในภูมิภาคเอเชีย และมีการตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศสประจำจังหวัดขอนแก่นเข้ามาดูแล ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก และมีราชทูตอีกหลายประเทศที่สนใจ และได้ขอข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อไปประกอบพื้นฐานการลงทุน เช่น ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ และเบลเยียม รวมไปถึงนักธุรกิจจากแคว้นอัสสัมของอินเดีย

นอกจากนี้ขอนแก่นยังเป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารของภูมิภาค เนื่องจากมีสถานกงสุลใหญ่ของต่างประเทศ ได้แก่ เวียดนาม สปป.ลาว เปรู และฝรั่งเศส นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องชี้วัดที่จะเป็นจุดเชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับโลกในอนาคต รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล โลจิสติกส์ และการเป็นโชว์รูมของผ้าไหมภาคอีสาน ประกอบกับจังหวัดขอนแก่นมีเที่ยวบินกว่า 40 เที่ยวบิน มีเส้นทางคมนาคนขนส่งทางบกค่อนข้างสมบูรณ์

“ขณะนี้ภาคอีสานจะทลายความเป็นจุดบอดไป แม้เดิมทีการขนส่งสินค้าจะต้องพึ่งทางทะเล แต่ตอนนี้จะนำระบบรางมาพัฒนาเต็มที่ เพื่อเคลื่อนย้ายสินค้าจากอีสานตอนบนขึ้นสู่ทางเหนือไปสุ่ยุโรปได้ โดยไม่ต้องพึ่งทางทะเล จึงมั่นใจว่าในอีก 1-2 ทศวรรษ เมื่อแผนของรัฐบาลสัมฤทธิผล จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถของสินค้าไทยให้เข้าสู่ระบบสากลได้”

โตต่อเนื่อง – จังหวัดขอนแก่นเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการลงทุน โลจิสติกส์ อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการเกษตร โดยปี 2561 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 5-6% สูงกว่าจีดีพีของประเทศ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมเดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนาเมืองสู่โกลบอลซิตี้ และฮับการลงทุนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ยุทธศาสตร์จังหวัด

ส่วนยุทธศาสตร์ของจังหวัดคือการปรับจังหวัดให้เป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรถไฟรางเบา การสร้างรถไฟรางคู่จากบ้านไผ่ไปยังมหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มุกดาหาร สิ้นสุดที่นครพนม และการใช้คิวอาร์โค้ด การจัดการดูแลระบบสัญญาณไวไฟ ที่ทางรัฐบาลได้พยายามสนับสนุนอย่างเต็มที่ หากโครงการสำเร็จจะเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบทั้งหมดที่ต้องทำเพื่อไปสู่เมืองสมาร์ทซิตี้ ทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นเองก็มีส่วนในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเมืองจักรยานอัจฉริยะ

ส่วนการพัฒนาอาชีพขั้นพื้นฐาน ปรับปรุงประสิทธิภาพของการเกษตร เช่น การสนับสนุนเกษตรกรในอำเภอบ้านแฮด ส่งมะม่วงน้ำดอกไม้ไปขายยังต่างประเทศ โดยผลผลิตกว่า 60% จากผลผลิตของมะม่วงทั้งหมดในอำเภอบ้านแฮด สามารถส่งออกไปยังประเทศเกาหลีและประเทศญี่ปุ่นได้ ซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยหลักของการพัฒนาเมืองขอนแก่น

“จิ๊กซอว์ที่จะเห็นเด่นชัดคือเราพยายามต่อเติมในเรื่องของการเป็นสมาร์ทซิตี้ แต่จุดหมายปลายทางเราจะเป็นโกลบอลซิตี้ หากคนพูดถึงประเทศไทย นอกจากจะนึกถึงกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต ต่อไปต้องนึกถึงจังหวัดขอนแก่น ในฐานะเมืองที่เหมาะสมแก่การลงทุน เราจะทลายความเป็นจุดอับที่จะต้องวิ่งลงทะเล โดยใช้ระบบราง ระบบถนนในการขนส่งสินค้า จุดนี้จะเป็นจุดที่สามารถขับเคลื่อนได้ทั้งหมด ผมคงจะตอบไม่ได้ว่าภายในปีนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น แต่จะพยายามวางอนาคตของเราให้สอดรับกับแนวยุทธศาสตร์ของชาติ 20 ปี สู่ความยั่งยืน ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด”