เตรียมรับหน้าแล้ง เร่งขยายคลองพลเอกอาทิตย์ เมืองสงขลาเพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 มี.ค.61) นายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา และนายชยันต์ สังขไพฑูรย์ ประธานสภาเกษตรกร จ.สงขลา เดินทางลงพื้นที่ ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอก และขยายคลองพลเอกอาทิตย์กำลังเอก รวมทั้งโครงการขยายคลองหนัง ซึ่งเป็นคลองสาขาของคลองพลเอกอาทิตย์ฯ ที่ช่วยระบายน้ำจากทะเลสาบสงขลาลงสู่ทะเลอ่าวไทย

นายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คลองพลเอกอาทิตย์กำลังเอก เป็นคลองขุดความยาวกว่า 70 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอในคาบสมุทรสิงพระ ได้แก่ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และ อ.สิงหนคร ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2527 หรือกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นที่รับน้ำในช่วงฤดูฝน รวมทั้งกักเก็บน้ำเอาใช้ในหน้าแล้ง ทั้งในส่วนของเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์

ซึ่งขณะนี้ได้มีการขุดลอก และขยายคลองพลเอกอาทิตย์ฯ ให้มีความกว้างเพิ่มขึ้นจากเดิม 40 เมตร ขยายไปอีกข้างละ 15 เมตร ซึ่งจะทำให้คลองมีความกว้างเพิ่มขึ้นจาก 40 เมตร เป็น 70 เมตร รวมทั้งปรับปรุงในส่วนของความลึกเพิ่มจากเติมแต่ละจุดอีก 2 เมตร ซึ่งหากแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำจาก 2 ล้าน ลบ.ม. เป็น 7 ล้าน ลบ.ม. หรือมากกว่าเดิมกว่า 3 เท่าตัว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จราวปี 2565 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ยังได้ติดตามโครงการขยายคลองหนัง อ.สทิงพระ จ.สงขลา ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นคลองสาขาของคลองพลเอกอาทิตย์ฯ อีกคลองหนึ่ง เเละมีหน้าที่หลักในการช่วยระบายน้ำจากทะเลสาบสงขลาลงสู่ทะเลอ่าวไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้ามรสุม หรือฤดูฝน ซึ่งพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระมักจะถูกน้ำท่วมขังอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และสภาวะน้ำทะเลหนุน อีกทั้งแต่ละครั้งก็จะถูกน้ำท่วมสูงมากกว่าพื้นที่อื่น เพราะอยู่ท้ายน้ำ และกินเวลายาวนานนับสัปดาห์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร และสัตว์เลี้ยงอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ในส่วนของคลองหนังนั้นจะมีการขุดขยายคลอง โดยเพิ่มความกว้างจากเดิม 20 เมตร เป็น 40 เมตร รวมทั้งขุดลอกในส่วนที่ตื้นเขินและมีวัชพืช ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องการเวนคืนที่ดินตลอดแนวคลอง ซึ่งมีทั้งบ้านเรือนและเรือกสวนไร่รา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก โดยมีการจัดสรรงบประมาณเอาไว้ทั้งโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะทำการขุดลอกให้แล้วเสร็จในระยะเวลาประมาณ 2 ปี