
น้ำเอ่อล้นท่วมผิวจราจรบริเวณทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) รถผ่านได้แต่ต้องใช้ความระวังระวัง ขณะที่แม่น้ำวังทอง อ.วังทอง จังหวัดพิษณุโลก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เช่นเดียวกับแม่น้ำยมสายหลักอำเภอบางระกำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร สถานการณ์อยู่ในวิกฤต
วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ 2 (วังทอง) แจ้งสถานการณ์น้ำเอ่อล้นท่วมผิวจราจรบริเวณทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ตั้งแต่วานนี้ (8 ตุลาคม 2566) ในบริเวณจุดที่ 1 ทล.12 ตอนวังทอง-เข็กน้อย กม.260+300-กม.260+500 ด้านขวาทาง บริเวณปั๊มน้ำมัน PT วังนกแอ่น มีน้ำเอ่อล้นท่วมไหล่ทางระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 15 ซม.
จุดที่ 2 ทล.12 ตอนวังทอง-เข็กน้อย กม.252+100-กม.253+800 ด้านซ้ายทางและขวาทาง มีน้ำเอ่อล้นท่วมผิวจราจรระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 26. ซม. การจราจรผ่านได้น้อยที่สุด 1 ช่องทางจราจร ปัจจุบันระดับน้ำลดลงอยู่ที่ 15 ซม. (เวลาวัด 6.45 น.) การจราจรผ่านได้ปกติ ในการนี้เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงแก่งโสภา ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนน้ำท่วมทาง กรวยยาง และสัญญาณไฟกะพริบแล้ว
ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก รายงานภาพรวมสถานการณ์แม่น้ำน่าน-แม่น้ำยม และการบริหารจัดการน้ำ จ.พิษณุโลก ประจำวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ว่า จังหวัดพิษณุโลกมีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่าน 2 สาย คือแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม โดยแม่น้ำน้ำน่านมี 4 ลำน้ำสาขา ได้แก่ แม่น้ำภาค แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำวังทอง และแม่น้ำชมพู
แม่น้ำน่าน
สถานการณ์ภาพรวมแม่น้ำน่านและแม่น้ำสาขาอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวัง โดยแม่น้ำวังทองและแม่น้ำชมพู มีระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและเข้าสู่ภาวะวิกฤต น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบน โดยแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำภาคทั้ง 2 สาย จะไหลลงเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปัจจุบัน ปริมาณน้ำเก็บกัก อยู่ที่ 785 ล้าน ลบ.ม. (84%)
ส่วนแม่น้ำวังทอง อ.วังทอง ระดับน้ำ 11.16 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.34 เมตร (สถานการณ์วิกฤต น้ำเอ่อล้นตลิ่ง) ได้ดำเนินการเร่งการระบายน้ำทุกอาคารชลประทาน ในแม่น้ำวังทอง, คลองแม่เทียบ, คลองโคกช้าง เพื่อเร่งการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน และแม่น้ำชมพู อ.เนินมะปราง ระดับน้ำ 7.28 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 2.38 เมตร (สถานการณ์เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง)
แม่น้ำยม
สำหรับแม่น้ำยม สถานการณ์ฝนตกชฺกที่ จ.แพร่ และพื้นที่ตอนบน ของ จ.สุโขทัย ส่งผลทำให้แม่น้ำยมที่ สถานีวัดน้ำ Y.14A อ.ศรีสัชนาลัย สูงสุดอีก โดยปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุด 1,268 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำแม่น้ำยม ตอนบน จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย แนวโน้มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในเขตจังหวัดสุโขทัยมีผลกระทบจากอุทกภัย น้ำกัดเซาะคันขาดน้ำเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนและเกษตร ส่วนปริมาณน้ำแม่น้ำยม ตอนล่างในเขต จ.พิษณุโลก แบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือ แม่น้ำยมสายหลักและแม่น้ำยมสายเก่า
- แม่น้ำสายหลัก ในเขต อำเภอบางระกำ ตอนนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ยวันละ 10-15 ซม. อยู่ใน สถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง
- แม่น้ำยมสายเก่า ในเขต อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ แนวโน้มสถานการณ์น้ำลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสถานการณ์เฝ้าระวัง พร้อมทั้งเร่งเสริมคันป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งในจุดเสี่ยง
จังหวัดพิษณุโลกร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 3 โครงการชลประทานพิษณุโลก ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลกและท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำในพื้นที่เร่งดำเนินการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในแม่น้ำยมสายหลัก และแม่น้ำยมสายเก่า ทั้งผันน้ำเข้าสู่ทุ่งรับน้ำ ควบคุมระดับน้ำ ประสานความร่วมมือ รวมถึงประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ แจ้งเตือนประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ