ส่องรูตบิน “เชียงใหม่-ฮานอย” อนาคตระเบียงท่องเที่ยว-ลุ่มน้ำโขงตอนบน

การเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างเมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของภาคเหนือ “เชียงใหม่” กับ “ฮานอย” เมืองหลวงของเวียดนาม ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของสายการบินที่ได้เล็งเห็นการเติบโตศักยภาพของเมืองหลวงเศรษฐกิจของลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน

ด้วยกลยุทธ์หลักของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ประการแรกคือ การถ่ายเทนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายระหว่างไทยและเวียดนาม ซึ่งฮานอยเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกอย่างฮาลองเบย์ และเชื่อมโยงเศรษฐกิจการค้าชายแดนกับเมืองผิงเสียง (ด่านการค้าชายแดนจีน-เวียดนาม) ซึ่งเป็นด่านส่งออกผลไม้อาเซียนสู่จีน หรือแม้กระทั่งการเชื่อมโยงท่องเที่ยวไปยังเมืองซาปา เวียดนามตอนบน ได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยระยะทางบินประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ยิ่งจะทำให้การเดินทางระหว่างเมืองวัฒนธรรมของทั้ง 2 ประเทศมีเสน่ห์ในการเดินทางและเชื่อมเศรษฐกิจไปในตัว

“จันทร์ทิพย์ ทองกันยา” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า การขยายเส้นทางบินเชียงใหม่-ฮานอย ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายเครือข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุมประเทศในกลุ่ม CLMV โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่อยู่ในเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักธุรกิจจากฮานอยที่ต้องการเดินทางมาที่เชียงใหม่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากนั้นในช่วงหน้าหนาวที่เป็นช่วงไฮซีซั่น จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งจากทวีปอเมริกาและยุโรปเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ประเทศเวียดนาม ถือว่ามีอัตราการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง โดย 2 ปีที่ผ่านมาบางกอกแอร์เวย์สได้เปิดให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-ดานัง และล่าสุด กรุงเทพฯ-เกาะฟูโกว๊ก ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การเปิดเส้นทางบินตรงเชื่อมั่นว่าจะได้รับความนิยม ประกอบกับปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามได้สนับสนุนการลงทุนทางภาคเหนือของประเทศ ทำให้เกิดโซนอุตสาหกรรมใหม่ รอบ ๆ กรุงฮานอย รวมทั้งยังมีการขยายตัวของธุรกิจบริการ ฮานอยถือเป็นตลาดใหม่ ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้น และมองหาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของสายการบิน และคิดว่าจะต่อยอดทางเศรษฐกิจกับเชียงใหม่ได้อย่างดี

“สมฤทธิ์ ไหคำ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ แปซิฟิค เวิลด์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันฮานอยมีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจค่อนข้างสูง มีนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย เข้าไปลงทุนทำโครงการต่าง ๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ รวมถึงการขยายตัวด้านโลจิสติกส์ โซนอุตสาหกรรม และโซนธุรกิจใหม่ภายในเขตเมืองและรอบนอก อาทิ กลุ่มของเบียร์ช้างเข้าไปลงทุนสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาวในฮานอย รวมถึงกลุ่มอมตะนครเข้าไปลงทุนนิคมอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์

การเปิดเส้นทางบินตรงเชียงใหม่-ฮานอย นับเป็นโอกาสทางการท่องเที่ยวและการค้าเส้นทางใหม่ สามารถเชื่อมโยงตรงกับฮานอย ซึ่งปัจจุบันมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยเฉพาะรัฐบาลเวียดนามกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมเส้นทางซูเปอร์ไฮเวย์ให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ เช่น ฮาลองเบย์ และซาปา ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น จะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางให้สั้นขึ้นจาก 3 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมง

ฮานอยจะเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของคนเชียงใหม่และภาคเหนือ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางต่อไปยังฮานอย ขณะที่การท่องเที่ยวของเชียงใหม่จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากฮานอยเข้ามาเชียงใหม่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ทางบริษัทเชียงใหม่ แปซิฟิค เวิลด์ เตรียมรับกรุ๊ปจากฮานอยราว 40 คน ที่บินตรงจากฮานอยเข้าสู่เชียงใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวจากฮานอยมีกำลังซื้อสูง ต้องการใช้บริการสินค้าที่มีคุณภาพและพักโรงแรมระดับ 4 ดาว


นอกจากนี้ การมีเส้นทางบินตรง มีโอกาสด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะสินค้าของจังหวัดเชียงใหม่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดฮานอย อาทิ น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู และไส้อั่ว เพราะชาวเวียดนามนิยมบริโภคอาหารไทยที่มีรสจัด รวมถึงกระเป๋าผ้าชาวเขา ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของธุรกิจการค้าของเชียงใหม่ที่จะเชื่อมโยงกับตลาดฮานอย