เกษตรกรตรังอู้ฟู่ เลี้ยงสาหร่างขนนก-สาหร่ายพวงองุ่น 4 เดือนเก็บขายได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหัดตรังว่า เกษตรกรตรังทิ้งสวนยางหันมาเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนก-สาหร่ายพวงองุ่นส่งขายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ซึ่งมีราคาดีสร้างรายได้ เผยตลาดมีความต้องการสูง โดยเฉพาะตลาดคนรักสุขภาพตามโรงพยาบาลต่างๆ เพราะคุณค่าทางโภชนาการเพียบ

นายจิรวุฒิ วงศ์เทพวณิชย์ เกษตรกรเพาะเลี้ยง สาหร่ายพวงองุ่นและสาหร่ายขนนก บ้านเลขที่ 377 ม.8 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เปิดเผยว่า หลังจากราคายางพาราตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ตนจึงหันมาเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นและสาหร่ายขนนก ส่งขายให้กับลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร เนื่องจากสาเหร่ายที่เพาะเลี้ยงมีราคาสูง สามารถทำอาหารได้สารพัดเมนู และเป็นเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ ซึ่งในปัจจุบันนิยมกินกันอย่างแพร่หลาย


สำหรับสาหร่ายขนนกเป็นสาหร่ายพื้นถิ่นทางฝั่งอันดามัน ซึ่งจังหวัดตรังจะมีอยู่ในท้องถิ่นอยู่แล้ว การนำมาเลี้ยงในกระชังเพื่อง่ายต่อการขายและจำหน่าย เพราะว่าหากของธรรมชาติเมื่อเก็บแล้วเก็บรักษาไม่ได้ แต่หากนำมาเก็บรักษาในกระชังสามารถขายให้กับลูกค้าได้ทั้งปี ส่วนสาหร่ายพวงองุ่นซื้อพันธุ์มาจากจังหวัดเพชรบุรี จากศูนย์วิจัยของประมงเพชรบุรีแล้วนำมาเพาะเลี้ยง ซึ่งสาหร่ายพวงองุ่นเมื่อเลี้ยงประมาณ 4 เดือน ก็สามารถนำมาจำหน่ายได้


“ส่วนวิธีการเก็บสาหร่ายพวงองุ่นคือ เมื่อได้ขนาดประมาณ 3 นิ้วขึ้นไป ก็สามารถขายได้ เก็บจากตัวที่เพาะเลี้ยงและนำมาพักไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งจะต้องเปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อให้ตะกอนออก เนื่องจากล้างด้วยวิธีอื่นยาก เพราะไม่สามารถนำมาขัดถูหรือใช้วิธีอื่นได้ จึงต้องใช้วิธีน้ำผ่าน นำมาใส่น้ำและเปิดออกซิเจนเพื่อให้ตะกอนหลุดลอกออกไป” นายจิรวุฒิกล่าว

นายจิรวุฒิ บอกว่า สำหรับตัวสาหร่ายพวงองุ่นขายส่งกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งผู้รับซื้อก็จะนำไปขายต่อในราคากิโลกรัมละ 350 บาท แบ่งขายเป็นกล่องละ 1 ขีด ขีดละ 35 บาท ส่วนสาหร่ายขนนก ขายส่งราคากิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนในตลาดท้องตลาดกิโลกรัมละ 170-200 บาท แบ่งขายเป็นกล่องกล่องละ 35 บาทเช่นกัน พร้อมกับมีน้ำจิ้มเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทำเองแถมให้ในกล่องอีกด้วย


ทั้งนี้รสชาติ สาหร่ายพวงองุ่นจะมีรสชาติไม่เค็ม ซึ่งรสชาติจะกินได้กับอาหารทุกประเภท ส่วนสาหร่ายขนนกจะมีความเค็ม จะเน้นกินได้กับพวกอาหารภาคใต้มากกว่า เป็นผักพวกเครื่องเคียงกินกับขนมจีนกินกับข้าวแกงการกินจะต่างกันแต่ตัวสาหร่ายพวงองุ่น สามารถนำไปทำได้เป็นเมนูต่างๆ ส่วนสาหร่ายขนนกจะเป็นเครื่องเคียงมากกว่า

ในตัวของสาหร่ายมีเกลือแร่ ไอโอดีนจากทะเล เพาะเลี้ยงในทะเล ฉะนั้นมั่นใจได้ว่าไม่มีสารพิษไม่มีการใส่ปุ๋ยหรือสารเคมี จึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยจากสารพิษอย่างแน่นอน


นายจิรวุฒิ บอกอีกว่า ตนเตยทดลองโดยตั้งสาหร่ายไว้ 7 วัน สาหร่ายไม่เกิดการเน่าเสียเลย แต่หากนำไปแช่ตู้เย็นไม่ถึง 1 คืน สาหร่ายจะกลายเป็นน้ำ ซึ่งนับว่าเป็นความแปลก ตอนนี้ตนไม่ได้ขายส่งในเฉพาะจังหวัดตรังเท่านั้น ยังส่งไปยังจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดทางภาคเหนือ ภาคอีสาน โดยทางเคอรี่หรือทางไปรษณีย์ ซึ่งสร้างรายได้วันละประมาณ 1,000 บาท และมีการขายทุกวัน