ธุรกิจ “ค้านกเขา” สงขลาบูม ผุด 170 ฟาร์ม ทำเงินสะพัดปีละ 100 ล้าน

dove

ธุรกิจการค้าการเลี้ยงนกเขาชวา อ.จะนะ จ.สงขลา บูม ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ แห่เข้ามาซื้อขาย-แข่งขัน กลายเป็น “ศูนย์กลางการเลี้ยงนกเขาครบวงจร” ทำเงินหมุนสะพัดกว่า 100 ล้านบาทต่อปี เผยเฉพาะเลี้ยงใน อ.จะนะ มีเกือบ 200 ฟาร์ม ขนาดใหญ่ กลาง เล็ก รวมกันประมาณ 40,000-50,000 ตัว

นายอับดุลรอหมาน เส็นแอ ประธานชมรมนกเขาชวาเสียง อ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเลี้ยงนกเขา โดยมีจำนวนนกเขารวมกันประมาณ 40,000-50,000 ตัว โดยมีผู้ประกอบการที่เลี้ยงลักษณะฟาร์มขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมกันประมาณ 170 ฟาร์ม

แบ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงนกเขา ขนาดใหญ่ ประมาณ 30 ฟาร์ม ฟาร์มขนาดกลาง ประมาณ 40 ฟาร์ม และฟาร์มขนาดเล็กและรายย่อย ประมาณ 100 ฟาร์ม โดยมีนกเขาหลายเกรด ตั้งแต่ระดับราคาหลัก 100-10,000-100,000 บาท ถึงหลัก 1 ล้านบาทต่อตัว โดยราคากลางจะเคลื่อนไหวในระดับหลัก 10,000 บาทต่อตัว ก่อให้เกิดธุรกิจเกี่ยวเนื่องครบวงจร และเป็นตลาดซื้อขายและการแข่งขันนกเขาระหว่างประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นอย่างมาก

“สำหรับราคาหลักล้านบาท เป็นนกเขาที่ผ่านสนามการแข่งขันหลายสนามและชนะเลิศได้รับรางวัลพระราชทานมีปริมาณไม่มากนัก โดยมีจุดเด่นคือเป็นนกเขาเสียงใหญ่ โดยเมื่อปี 2566 ราคาถึง 2.5 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเจ้าของนำมาเลี้ยงผสมพันธุ์ออกขายถึงคู่ละ 100,000 บาท”

dove

โดยภาพรวมแล้วในวงการเลี้ยงนกเขาจะมีเงินหมุนสะพัดหลักกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ได้สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในจังหวัดสงขลา ยังไม่รวมถึงแหล่งนกเขาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ที่เงินหมุนสะพัดปริมาณมากเช่นกัน แต่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เปรียบสมือนเป็น “เมืองหลวงนกเขาโลก”

ADVERTISMENT

เพราะมีการดำเนินการครบวงจร ตั้งแต่ฟาร์มเพาะขยายพันธุ์นกเขา ผู้ประกอบการที่ผลิตกรงนกถือเป็นตลาดขายกรงนกที่ใหญ่ ผู้ประกอบการผลิตอาหารนก เป็นตลาดซื้อขายนกเขา และการแข่งขันนกเขาระหว่างประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นแหล่งนกเขาที่ใหญ่กว่าประเทศไทย และราคานกยังสูงกว่าของประเทศไทยมาก” นายอับดุลรอหมานกล่าวและว่า

“วงการเลี้ยงนกเขาจะเป็นการตลาดระดับบน มีบุคคลค่อนข้างมีฐานะทางเศรษฐกิจ และเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่สนใจเลี้ยง”

ADVERTISMENT

ในขณะเดียวกัน อ.จะนะ ยังเป็นสนามแข่งขันนกเขาชวาเสียงระดับกลุ่มประเทศอาเซียนจะมีการจัดการแข่งขันมหกรรมการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์ประเทศไทย มีผู้เลี้ยงนกเขาไทย มาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ เข้าร่วมแข่งขันทุกปี

dove

จึงถือว่านกเขาชวาถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นเงินหลัก 100 ล้านบาทต่อปี

“นกเขาชวา เป็นตลาดที่ซื้อขายกันตลอดทั้งปี แม้ว่าในช่วงเศรษฐกิจซบเซา วงการเลี้ยงและค้านกเขายังมีการเคลื่อนไหวซื้อขาย โดยตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงตุลาคม ถัดจากนั้นจะเป็นหน้าฝน การตลาดนกเขาจะชะลอตัว”

อนึ่ง กรมปศุสัตว์ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานฟาร์มนกเขาชวาเสียง โดยออกหลักเกณฑ์การตรวจประเมินการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มนกเขาชวาเสียง เนื่องจากนกเขาถือเป็นสัตว์ปีกสวยงามที่มีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสหพันธ์รัฐมาเลเซีย

รวมถึงส่งออกไปการแข่งขันและการแสดงนิทรรศการ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกรมสัตวแพทย์บริการสหพันธ์รัฐมาเลเซีย (Department of Veterinary Services Malaysia : DVS) รวมถึงขั้นตอนการขออนุญาตเคลื่อนย้ายและส่งออกสัตว์มีชีวิตไปยังต่างประเทศของกรมปศุสัตว์ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ปีก และการประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

.