
ลพบุรีจัดระเบียบลิงคืบหน้า ภาคธุรกิจเริ่มกลับมาเชื่อมั่น ประสานเสียงการแก้ปัญหามาถูกทาง เตรียมฟื้นธุรกิจมากกว่าทิ้งกิจการ อย่างตลาดดำรงชัย พลิกฟื้นห้อง แผงขายรวมกว่า 60 ห้องให้ลูกค้าจับจองตามเดิม ปลุก “ตรอกเฮฟวี่” อดีตแหล่งช็อปปิ้ง ด้านห้างใหญ่ “อภิญญา” ยกเลิกขายทิ้งกิจการ เตรียมรีโนเวตตึก พร้อมอัดโปรโมชั่นดึงลูกค้า
หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับเทศบาลเมืองลพบุรี ได้จับลิงจำนวน 1,200 ตัว จากทั้งหมดประมาณ 3,000 ตัว ไปควบคุมไว้ในสถานอนุบาลสัตว์ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี เพื่อทำประวัติ ตรวจโรค ทำหมัน แต่ต้องหยุดจับลิงที่เหลือชั่วคราว เนื่องจากกรงเต็มนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณเมืองเก่า อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนลิงล้นเมือง ขยายอาณาเขตเข้าสู่ร้านค้า สถานประกอบการ บ้านเรือน และสร้างความเดือดร้อนต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี เริ่มจากบริเวณจุดแลนด์มาร์กของลพบุรี อย่าง ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ ปรากฏช่วงบ่ายหลงเหลือลิงอยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่ถึง 10 ตัว
หลังจากนั้นข้ามถนนและทางรถไฟจากฝั่งศาลพระกาฬ มายังบริเวณพระปรางค์สามยอด ซึ่งบริเวณพื้นที่ตรงกลางที่เชื่อมระหว่าง 2 สถานที่นี้ เคยมีฝูงลิงอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันเหลือลิงเพียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่จับกลุ่มอยู่บริเวณพระปรางค์สามยอด ทั้งนี้ พ่อค้า-แม่ค้าในบริเวณดังกล่าวบอกว่า จำนวนลิงจะเพิ่มมากขึ้นในเวลาเย็น
ส่วนบริเวณพระปรางค์สามยอด มาจนถึงบริเวณปรางค์แขก จากที่ปกติฝูงลิงได้ล้นทะลักเข้ามาอาศัย พร้อมทั้งทำลายข้าวของบริเวณนั้น จากการสำรวจครั้งนี้พบว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้จับลิงลอตแรก 300 ตัวไปก่อนหน้านี้ พื้นที่ดังกล่าวก็ “เงียบสงบมากขึ้น” พร้อมกับเห็นภาพการเตรียมปรับปรุง “ตลาดดำรงชัย” บริเวณซอยเฮฟวี่ ถนนดำรงชัย อ.เมืองลพบุรี ที่เคยเป็นแหล่งรวมสินค้าของวัยรุ่น ทั้งเสื้อผ้า ชุดนักศึกษา และเครื่องสำอาง กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งหนึ่ง
นายแพนเค้ก พานิชเจริญ เจ้าของตลาดดำรงชัย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากจับลิงไปส่วนหนึ่ง ทำให้ในแง่คุณภาพชีวิตของประชาชนถือว่าดีขึ้น จากปกติเมื่อคนมาซื้อของถือถุงมาตามปกติ เมื่อถึงบริเวณนี้จะถูกลิงมาแย่งกระชากทุกวัน ประชาชนต้องอยู่กับความกลัว ในส่วนที่เป็นธุรกิจให้เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้า ยังมีพ่อค้า-แม่ค้าบางส่วนที่เช่าพื้นที่ตลาดอยู่บ้าง แต่ในช่วงที่ลิงเข้ามาคุกคาม สร้างความเดือดร้อนนั้น มีการยกเลิกเช่าพื้นที่ในตลาดไปจำนวนมากเช่นกัน แต่การแก้ไขในปัจจุบันเริ่มทำให้พื้นที่เช่าของตลาดเริ่มมีพ่อค้า-แม่ค้ากลับมาเช่าเกือบเต็มจำนวน 60 ห้องแล้ว
“การแก้ปัญหาของภาครัฐถือว่าดี ทำให้พ่อค้า-แม่ค้าได้กลับมาค้าขายกันตามปกติ แต่ยังคงต้องใช้เวลาติดตามกันต่อไป เพราะเท่าที่เห็นยังเป็นช่วงเริ่มต้นระหว่างการแก้ไขปัญหา ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจจะกลับมาหรืออาจจะไม่กลับมาก็ได้ แต่ในเบื้องต้นถือว่าเศรษฐกิจของลพบุรีจะไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น” นายแพนเค้กกล่าว
จากตลาดดำรงชัย ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” เดินสำรวจต่อไปจนถึงย่านการค้าสำคัญที่มีทั้งห้าง-ร้านขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ (ย่านการค้าฝั่งตรงข้ามตลาดสดบนเมือง) เช่น ร้านเซ่งเฮง และห้างสรรพสินค้าภิญญา ช๊อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ซึ่งตลอดทั้ง 2 ข้างทาง จะมีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ แผงลอย ให้ได้เห็นและเป็นสีสันอย่างหนึ่งของย่านดังกล่าว
นางพรรณ ผูกอยู่ ผู้ค้าหาบเร่ขายผลไม้ในพื้นที่มากว่า 30 ปี กล่าวว่า รู้สึกดีที่ผู้ใหญ่ในจังหวัดลพบุรี รวมไปถึงรัฐบาลได้มองเห็นปัญหาของชาวลพบุรีที่มีมานานกว่า 10 ปี ตอนนี้ได้จับลิงไปยังพื้นที่ ต.โพธิ์เก้าต้น แล้วส่วนหนึ่ง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ลิงมีจำนวนน้อยลงมาก แต่ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็หายตามไปด้วย “ข้อกังวลคือ เราแก้ปัญหาแล้ว เราได้บอกคนทั่วไปหรือไม่ว่าแก้แล้ว ลิงลพบุรีเป็นระเบียบและไม่เป็นอันตรายกับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว อยากให้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว อยากเห็นลพบุรีกลับมาคึกคักเหมือนเมื่อก่อน” นางพรรณกล่าว
ขณะที่นายสุรฉัตร จันทร์ประสิทธิ์รองกรรมการผู้จัดการ ห้างภิญญา ช๊อปปิ้ง เซ็นเตอร์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาลิงครั้งนี้ถือว่า “มาถูกทางแล้ว” และเป็นการแก้ไขที่ดูจริงจังที่สุด จำนวนลิงลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนความเชื่อมั่นทางธุรกิจต้องใช้เวลา เนื่องจากปัญหาดังกล่าวกินเวลามากว่า 10 ปีแล้ว
“จะให้จับลิงไปแล้ว ธุรกิจฟื้นได้ทันที ก็คงไม่ใช่ ต้องให้ภาคธุรกิจใช้เวลาด้วย โดยเฉพาะห้างภิญญาฯยังมีแผนลงทุน ปรับปรุงร้านเพิ่มเติมอยู่แล้ว ตอนนี้ทางห้างได้เตรียมการปรับธุรกิจใหม่ ได้เจรจากับภาคธุรกิจ ผู้ลงทุนและร้านอาหารใหม่ ๆ รวมถึงแบรนด์สินค้าต่าง ๆ เพื่อดึงดูดผู้เช่ารายใหม่ให้เข้ามาจับจองพื้นที่ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ถูกสุดค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท ไม่ต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้า 3 เดือน
และในบางพื้นที่ได้จัดให้ขายฟรี 1 เดือน พร้อมซัพพอร์ตให้คู่ค้าอยู่ได้ ต้องการให้โซนธุรกิจด้านในเติบโตขึ้น ผมอยากเห็นโซนด้านในของเรากลับมาคึกคักสัก 50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะเกิดปัญหาลิง ปัญหาโควิด-19 ผมเชื่อว่าภาคธุรกิจพร้อมลงทุนดำเนินธุรกิจ แต่ที่ผ่านมาไม่ทำ เพราะเห็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ ตอนนี้เรื่องลิงได้รับการแก้ไขแล้ว” นายสุรฉัตรกล่าว
ด้านแหล่งข่าวนักธุรกิจในพื้นที่ลพบุรีให้ความเห็นว่า ตนเองเข้ามาอาศัยประกอบธุรกิจในพื้นที่เมืองลพบุรีตั้งแต่ 40 ปีก่อน ตั้งแต่ลิงยังไม่มาก ตอนนี้การจับลิงไป 1,200 ตัว จากทั้งหมดประมาณ 3,000 กว่าตัว ทำให้สภาพแวดล้อมในลพบุรีดูดีขึ้นมาก ถือว่าเดินมาถูกทางพอสมควร เนื่องจากลิงที่เข้ามาก่อกวนชาวบ้านมีจำนวนลดน้อยลง ถือเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้รวดเร็ว ต้องค่อย ๆ ดำเนินการต่อเนื่องในระยะยาว
“แต่ตอนนี้มีปัญหาหนักก็คือ หลังจากจับลิงมาควบคุม ตรวจโรค คุมกำเนิดแล้ว กรมอุทยานฯยังไม่มีแผนและยังไม่มีการตัดสินใจอย่างชัดเจนถึงแผนระยะยาวในการเคลื่อนย้ายลิงเหล่านี้ไปไว้ที่ไหน ขณะเดียวกันกรมอุทยานฯยกหน้าที่ให้เทศบาลเมืองลพบุรีดูแลเรื่องงบประมาณในการดูแลและให้อาหารลิง 1,200 ตัว เฉลี่ยคิดเป็นค่าอาหารประมาณ 20 บาทต่อตัวต่อวัน รวมประมาณ 24,000 บาทต่อวัน หรือประมาณ 720,000 บาทต่อเดือน ซึ่งทางเทศบาลไม่สามารถดึงงบฯส่วนต่าง ๆ ออกมาใช้ได้ เนื่องจากติดขัดกับระเบียบข้อบังคับการใช้งบประมาณ”
ดังนั้น เงินค่าอาหารลิงตอนนี้มีบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ในลพบุรี ชาวบ้านในตลาด แม้แต่พระก็พยายามชักชวนให้ชาวบ้านนำเศษอาหาร เศษผัก มาเป็นอาหารให้ลิง เพราะทุกคนมองว่า เทศบาลมีภาระหน้าที่และไม่สามารถแบ่งงบประมาณมาดูแลส่วนนี้ได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ได้ เพราะกรมอุทยานฯไม่มีทั้งงบประมาณ และกำหนดเวลาจะให้เลี้ยงลิงไปยาวนานเพียงใด เรื่องนี้คงต้องวอนให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยให้เบ็ดเสร็จ