“พิโกไฟแนนซ์” เผยคนแห่กู้ช่วงเปิดเทอมพุ่ง !

ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ชี้เริ่มเห็นช่องทางการแก้ปัญหาแหล่งเงินทุน ส่วนภาพรวมการขอกู้ในเดือนพฤษภาคมรับเปิดเทอมในหัวเมืองหลักคึกคักเกินกว่าที่การคาดการณ์ไว้ ขณะที่ผู้ประกอบรายใหญ่อย่างทรีมันนี่เผยพิโกไฟแนนซ์แก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้

นายไชยวัฒน์ อึ้งสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรีมันนี่ จำกัด ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในวันที่ 16-17 พฤษภาคม ทางชมรมพิโกไฟแนนซ์แห่งประเทศไทยจะมีการประชุมร่วมกับกลุ่มทุนที่จะปล่อยกู้ให้ธุรกิจพิโก้ไฟแนนซ์ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งน่าจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น หลังจากนั้นจะเตรียมขอเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหาทางออกปัญหาเรื่องแหล่งเงินทุนต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับการปล่อยกู้ของธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ถือว่ามีความคึกคักกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะตรงกับช่วงเปิดเทอม มีลูกค้าจากทุกกลุ่มอาชีพมาขอกู้เงินเพื่อไปซื้ออุปกรณ์การเรียนและจ่ายค่าเทอมให้บุตรหลาน ทั้งลูกค้ารายเก่าที่กู้ไปแล้วมาขอกู้เพิ่มและลูกค้ารายใหม่

“เรารู้สถานการณ์ในช่วงเดือนนี้ และเตรียมความพร้อมโดยไม่ปล่อยกู้ในช่วงเดือนเมษายนเลย เพราะไม่มีเงินทุนเพียงพอ ต้องเก็บเงินเอาไว้ในช่วงเปิดเทอม ขณะเดียวกันเงินที่ปล่อยกู้มาจากการเก็บดอกเบี้ยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และตอนนี้ผมถือว่ายังเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ของประเทศอยู่ รวมปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 53 ล้านบาท ภาพรวมเฉพาะในส่วนของจังหวัดฉะเชิงเทราที่กู้เงินไปแล้ว ทำให้ภาวะหนี้นอกระบบดีขึ้น หนี้เสียยังคงเป็น 0% เพราะเป็นการกู้ที่ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้คนกล้าจ่ายคืนและหมดหนี้เร็วขึ้น”

ทั้งนี้ บริษัทมีการดำเนินการธุรกิจพิโกไฟแนนซ์อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งหมด 3 บริษัท คือ 1) บริษัท ทรีมันนี่ 2) บริษัท ทรีมันนี่ พลัส และ 3) บริษัท ทรีมันนี่ โอเค นอกจากนี้มีบริษัทที่พร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2561 อีก 2 แห่งคือ บริษัท ทรีมันนี่ ชลบุรี และบริษัท ทรีมันนี่ ระยอง

นายบูรพงศ์ วรรักษ์ธารา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูราพาณิชย์ จำกัด ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า บริษัท บูราพาณิชย์ ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้มีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการขอกู้เงินในระบบพิโกไฟแนนซ์ค่อนข้างมาก แตกต่างจากช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่บอกวัตถุประสงค์ในการกู้คือเพื่อใช้จ่ายทั่วไป โดยคนที่มาขอกู้เป็นชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า และข้าราชการทั่วไปที่มีสัดส่วนค่อนข้างมาก ตั้งแต่เปิดทำการในนาม

พิโกไฟแนนซ์ตั้งแต่ 29 มิถุนายน 2560 จนถึงปัจจุบันมีการปล่อยกู้ไปประมาณ 2 ล้านกว่าบาท โดยแต่ละเดือนปล่อยกู้ประมาณ 3-4 แสนบาท แต่เดือนพฤษภาคมนี้พุ่งสูงขึ้นเกือบ 1 ล้านบาท

“ปีนี้นับเป็นปีแรกที่เราทำการปล่อยกู้ จึงไม่ทราบชัดเจนว่า คนที่มาขอกู้เดือนนี้จำนวนมากนำเงินไปทำอะไร หรือเพราะเป็นช่วงเปิดเทอม แต่ยอดค้างชำระหรือหนี้เสียเริ่มมียอดสะสมเพิ่มมากขึ้น แบ่งเป็นหนี้เสียในกลุ่มข้าราชการประมาณ 50%”

นางรวินันท์ นาวีการ เจ้าของบริษัท หาดใหญ่รวมทุน จำกัด ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์การกู้เงินช่วงเปิดภาคเรียนไม่คึกคักกว่าช่วงอื่น เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่กู้สำหรับใช้จ่ายในครัวเรือน แต่ปัจจุบันพบว่า แต่ละครัวเรือนใช้จ่ายเงินกับค่าเรียนพิเศษมากกว่าการจ่ายค่าเล่าเรียนในช่วงเปิดภาคเรียน

ส่วนการคัดกรองลูกค้าเพื่อป้องกันหนี้เสียนั้น ได้ทำการคัดกรองผ่านอาชีพ และบริษัทที่ลูกค้าทำงาน โดยเน้นลูกค้าที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งมีเงินเดือนแน่นอน มีสลิปเงินเดือน มีอัตราการย้ายงานไม่บ่อยนัก และถูกปฏิเสธจากการขอสินเชื่อจากธนาคาร ปัจจุบันบริษัทหาดใหญ่รวมทุนยังไม่โฆษณาเต็มตัว เพราะเพิ่งได้รับใบอนุญาตและเปิดดำเนินการช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีฐานลูกค้าจากระบบเก่าก่อนปรับระบบใหม่เป็นพิโกไฟแนนซ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายกลุ่มลูกค้าในโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มในอนาคต


นายทัสนัย สร้างตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีติดปีก จำกัด ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ในจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ช่วงเดือนเมษายนมีการปล่อยกู้สำหรับค่าเล่าเรียนบุตรไปราว 70,000 บาท เฉลี่ยรายละ 5,000-20,000 บาท และจากการเปิดให้บริการมาราว 3 เดือน พบว่ามีหนี้เสียจำนวน 2 ราย ที่ผู้กู้ไม่สามารถติดต่อได้ แต่จะมีการอนุมัติผ่อนผันเป็นกรณี โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ขอกู้เพื่อไปทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจค้าขาย และ เอสเอ็มอี (SMEs) มีจำนวนการขอกู้มากที่สุดอยู่ที่ 40,000-50,000 บาท ทั้งนี้ ทางบริษัทจะใช้ทั้งสลิปเงินเดือน และโฉนดที่ดินในการขอกู้