
จันทบุรีเปิดประตูการค้า มหกรรมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา 2024 วันที่ 10-14 ก.ค.นี้ ตั้งเป้ามูลค่าชายแดน 26,737 ล้านบาท ดันยอดนำเข้า-ส่งออกทะลุ 40,000 ล้านบาท
วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา (ตลาดบ้านแหลม) ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี 2024 ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนบริเวณจุดผ่านแดนให้เติบโตขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจของทั้ง 2 ฝั่งได้พบกัน และประชาชนตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศด้านจังหวัดจันทบุรีได้มีโอกาสจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ดี มีคุณภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรีได้วางแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด สอดรับกับประเด็นยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้กับสี่เสาหลักเศรษฐกิจ ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม อัญมณีและเครื่องประดับ การค้าชายแดน และท่องเที่ยว
ดังนั้น การค้าชายแดนจึงถือเป็นเป้าหมายหนึ่งในการพัฒนาจังหวัดจันทบุรี โดยในปี 2567 ตั้งเป้ามูลค่าการค้าชายแดนไว้ที่ 26,737 ล้านบาท หรือขยายตัวจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 3
และการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์ จ.จันทบุรี กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมในครั้งนี้พบกับสินค้าของผู้ประกอบการ จ.จันทบุรี ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจากกัมพูชา จำนวน 150 ร้านค้า อาทิ สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม
และสินค้าเด่นอื่น ๆ มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ การแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง รวมถึงมีการจัดกิจกรรมลด แลก แจก แถม นาทีทอง และจับรางวัลมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
ด้าน ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า สถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.จันทบุรี ภาพรวมมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2567 ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม มีมูลค่าการค้ารวม 11,469.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.07
ทั้งนี้ จันทบุรีมีข้อได้เปรียบในเรื่องการค้าและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ข้าราชการและภาคเอกชนทำงานร่วมกันอย่างดี
โดยมีแนวคิดและยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองชายแดนไปในทิศทางเดียวกัน มีการจัดระบบการค้าและการเข้าออกรถสินค้าอย่างเป็นระบบ ศุลกากรและด่านตรวจคนเข้าเมืองมีการตรวจปล่อยสินค้าได้รวดเร็ว ภาคเอกชนก็จัดการลานจอดรถและการเข้าออกได้อย่างสะดวก
จันทบุรีได้วางยุทธศาสตร์การศึกษาร่วมกับรัฐบาลไทยและกัมพูชา เพื่อวางแผนการพัฒนาระบบการค้าในปีต่อ ๆ ไป ปีนี้เราคาดว่าการค้าการนำเข้าส่งออกผ่านแดนจะทะลุ 40,000 ล้านบาทแน่นอน