เพิ่มราคารับซื้อ-จูงใจล่า “ปลาคางดำ” ทั่วประเทศ

ปลาหมอสีคางดำ

ทั่วประเทศเร่งจัดการ “ปลาหมอสีคางดำ” สมุทรสาครประสาน 5 แพปลาใหญ่ รับซื้อ กก.ละ 10 บาท ส่งต่อโรงงานปลาป่น ประจวบฯระดมเครื่องมือล่าจับ หลังพบปลาสลิด-กุ้งแชบ๊วยหายไปจำนวนมาก เพชรบุรีใช้งานวิจัยด้านโครโมโซมสร้างปลาคางดำที่เป็นหมันปล่อยลงไปจัดการปลาในแหล่งน้ำ จันทบุรีและสงขลา จัดกิจกรรมแข่งจับ-ทำอาหาร

ความคืบหน้าสถานการณ์แพร่พันธุ์ปลาหมอสีคางดำ หรือปลาคางดำ ในแหล่งน้ำต่าง ๆ หลายจังหวัดเกือบทั่วประเทศ ทั้ง กทม. ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยพบระบาดหนักอย่างน้อย 14 จังหวัด และล่าสุดแพร่พันธุ์ไปถึงทะเล สร้างความเสียหายต่อสัตว์น้ำ ระบบนิเวศ และภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้หลายภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน ออกมาตรการรับมือหลายรูปแบบ รวมทั้งเริ่ม Kick off ปราบปลาหมอคางดำพร้อมกันในหลายจังหวัดทั่วประเทศ

เปิด 4 จ “เจอ แจ้ง จับ จบ”

นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำนักงานประมงสมุทรสาคร ปล่อยปลากะพงขาวขนาด 4 นิ้ว กว่า 30,000 ตัว ลงสู่แม่น้ำท่าจีน บริเวณหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้ไปควบคุมปริมาณลูกปลาหมอคางดำ และก่อนหน้านี้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ สามารถจับปลาหมอคางดำมาขายให้กับแพปลาราคา 8 บาท/กก. และส่งให้โรงงานปลาป่นราคา 10 บาท/กก. ซึ่งขณะนี้มีแพเข้าร่วมโครงการ 5 ราย ได้แก่ แพธนูทอง, แพนายวิชาญ เหล็กดี, แพนางจารุจันทร์ จารวิไพบูลย์ (แพมิตร), นายชัยพร กรุดทอง และแพนายเฉลิมพล เกิดปั้น

นอกจากนี้ ได้เปิดแคมเปญ 4 จ “เจอ แจ้ง จับ จบ” โดย จ ที่ 1 เจอ หมายถึง เมื่อประชาชนพบเจอปลาหมอคางดำ ให้ถ่ายภาพเก็บพิกัดและแจ้งประมงหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันหาวิธีดำเนินการต่อไป, จ ที่ 2 แจ้ง หมายถึง ให้ทุกคนร่วมกันแจ้งพิกัดพร้อมแนบภาพถ่ายจุดที่เจอปลาหมอคางดำผ่านทางแอปพลิเคชั่นที่กรมประมงสร้างขึ้น,

จ ที่ 3 จับ หมายถึง เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจะวิเคราะห์ข้อมูลความชุกชุมของปลาหมอคางดำ และวางแผนดำเนินการตาม 5 มาตรการที่กรมประมงกำหนด เพื่อลดจำนวนปลาหมอคางดำให้ได้มากและเร็วที่สุด และ จ ที่ 4 จบ หมายถึง เมื่อปฏิบัติตามมาตรการ 3 จ แล้ว จะร่วมกันประกาศชัยชนะการจบสิ้นภารกิจ คืนความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพให้กับแหล่งน้ำ

ระยองเร่งจับทำอาหาร-ปุ๋ย

สำนักงานประมงจังหวัดระยองได้เริ่ม Kick off กำจัดปลาหมอคางดำทั้งจังหวัด โดยจัดกิจกรรมปล่อยปลานักล่า เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ บริเวณแม่น้ำระยอง จุดพระเจดีย์กลางน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง โดยปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว 5,000 ตัว บริเวณจุดพระเจดีย์กลางน้ำ แม่น้ำระยอง ซึ่งพบว่าจุดนี้มีการแพร่พันธุ์ปลาหมอคางดำจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำปุ๋ยหมักจากปลาหมอคางดำ และการปรุงอาหารเมนูจากปลาหมอคางดำ ได้แก่ ขนมจีนน้ำยา และปลาหมอคางดำทอดกรอบ

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้นำอวนลงไปล้อมจับปลาหมอคางดำ บริเวณคลองหน้าหอพระพุทธอังคีรส สวนศรีเมือง หลังสำนักงานเทศบาลนครระยอง พบปลาหมอคางดำขนาดเล็กจำนวนมาก โดยหลังจากนี้จะนำปลาหมอคางดำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

ประจวบฯปลา-กุ้งพื้นถิ่นลดลง

นายนพพร สิทธิเกษมกิจ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ปลาหมอคางดำขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อปริมาณสัตว์น้ำพื้นถิ่น โดยเฉพาะบริเวณทุ่งสามร้อยยอด ทำให้ปลาสลิด ปลาหมอเทศลดน้อยลงมาก เช่นเดียวกับพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเล ปริมาณกุ้งแชบ๊วยลดลงเช่นกัน

ADVERTISMENT

ดังนั้นสำนักงานประมงจึงได้เร่งหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำในราคา 15 บาท/กก. และเตรียมปรับแผนเพิ่มความถี่ ระดมเครื่องมือประมงเพื่อจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยเดือนละ 4 ครั้งในพื้นที่ อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรี ก่อนที่จะปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาวในเดือนสิงหาคมนี้

เพชรบุรีเปิดวิจัยลดประชากร

รายงานข่าวจากจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมประมงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี วิจัยการแก้ไขปัญหาแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ โดยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ ที่จะดำเนินการ 18 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567-มกราคม 2569

โดยการสร้างประชากรปลาหมอคางดำให้มีโครโมโซม 4 ชุด ปล่อยลงแหล่งน้ำที่มีการระบาดในจำนวนมาก พอที่จะทำให้ประชากรปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำที่มีโครโมโซม 3 ชุด ซึ่งเป็นหมันไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ เป็นหนึ่งแนวทางในการควบคุมการเพิ่มจำนวนประชากรปลาหมอคางดำ ควบคุมจำนวนปลาหมอคางดำ จะช่วยให้การเพิ่มจำนวนปลาหมอคางดำรุ่นใหม่ลดลง จนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในอนาคตต่อไป

จันทบุรีสัตว์น้ำพื้นถิ่นสูญหาย

นายพีระศักดิ์ สนั่นเครื่อง นายอำเภอนายายอาม จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า อำเภอนายายอามได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเป็นปลาดุร้ายและทำลายระบบนิเวศในท้องทะเล ทำให้สัตว์น้ำต่าง ๆ สูญหายไปเกือบหมดในช่วงระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ทางสำนักงานประมงจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ “ล่าปลาหมอคางดำ มหันตภัยลุ่มน้ำพังราด” โดยเลือกพื้นที่ตำบลช้างข้าม เป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากติดชายฝั่งทะเลลุ่มน้ำพังราด ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงเรือเล็กพื้นบ้าน

โดยจัดกิจกรรมแข่งขันจับปลาหมอคางดำ และการแข่งขันประกอบอาหารจากปลาหมอคางดำ รวมถึงการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับปลาหมอคางดำ พร้อมทั้งปล่อยปลากะพงลงสู่แหล่งน้ำ ทั้งนี้ จ.จันทบุรี ประสานความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยบูรพาในการวิจัยและแปรรูปปลาหมอคางดำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้เสริมให้ชุมชน

สงขลาแข่งจับปลาหมอคางดำ

นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำกระทบสินค้าประมง ที่สร้างรายได้หลักสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจ (GPP) ของจังหวัด ดังนั้นสำนักงานประมงจังหวัดสงขลา จึงเร่งกำจัดและควบคุมการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา

โดยจัดกิจกรรมล่าปลาหมอคางดำใน “คลองพังยาง” บริเวณคลองพังยาง-ระวะ หมู่ที่ 4 ตำบลระวะ อำเภอระโนด รวมทั้งมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับปลาหมอคางดำ การแข่งขันจับปลาหมอคางดำ การนำปลาหมอคางดำมาประกอบอาหาร อาทิ แกงส้ม ปลาทอด ต้มส้ม น้ำแกงขนมจีน รวมถึงการปล่อยปลากะพง เพื่อควบคุมปริมาณลูกปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำ

นครศรีฯระบาดแหล่งเลี้ยงกุ้ง

นายสำรอง อินเอก รักษาการประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้พบปลาหมอคางดำระบาดอยู่ในพื้นที่หัวไทร ปากพนัง เชียรใหญ่ ท่าศาลา และพบแหล่งระบาดรุนแรงบริเวณอ่างบำบัดชลประทานน้ำเค็มของกรมชลประทาน บ้านหน้าโกฏิ ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นที่เก็บน้ำเค็มจากการระบายออกมาในการเลี้ยงกุ้งของเขตชลประทานน้ำเค็ม

ดังนั้นภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกันล่าปลาหมอคางดำในพื้นที่อ่างบำบัดชลประทานน้ำเค็มของกรมชลประทาน โดยมีชาวบ้านนำอุปกรณ์ประมง เช่น แห อวนลอย อวนล้อม ร่วมกิจกรรมมากกว่า 200 ราย โดยนำเรือกระจายไปยังจุดต่าง ๆ ในแหล่งน้ำที่มีความกว้างถึง 184 ไร่ ทั้งนี้ เน้นการนำปลาหมอคางดำออกไปจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด