
“ทุนจีน” ขึ้นป้าย เตรียมเปิด“ซูเปอร์มาร์เก็ต”กลางเมืองโคราช นักธุรกิจภูธรจี้รัฐคุม ก่อนสินค้าจีนราคาถูกทะลัก กระทบรายย่อยปิดกิจการ
วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 กระแสป้ายโฆษณาภาษาจีน ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไทยต่อเนื่อง ล่าสุดพบมีป้ายโฆษณาภาษาจีน โผล่ใจกลางเมืองนครราชสีมาอีกแห่ง โดยเป็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดอยู่บนอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ริมถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม ประมาณ 500 เมตร
โดยในป้ายมีข้อความภาษาจีน ซึ่งแปลออกมาเป็นภาษาไทยว่า “ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ธุรกิจหลัก อาหารจีน ขนม เครื่องปรุงรส อาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ” พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ทิ้งท้าย โดยมีภาษาไทยแค่คำว่า “ซุปเปอร์มาเก็ตจีน” เท่านั้น ซึ่งชาวโคราช ต่างพากันถ่ายภาพและแชร์ต่อ ๆ กันในโลกโซเชียล พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจ พบว่าป้ายดังกล่าวยังคงติดอยู่เช่นเคย จากการสอบถามผู้ประกอบการร้านค้าข้างเคียง ให้ข้อมูลว่า อาคารพาณิชย์ 2 คูหาดังกล่าว เคยเปิดกิจการเป็นบริษัทนำเที่ยว หรือจัดทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ต่อมาประสบกับปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงปิดกิจการไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะพบว่ามีการนำป้ายภาษาจีนโฆษณาจะเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตจีนมาติดไว้เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2567
นายชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์ ผู้ประกอบธุรกิจใน อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้มองได้ 2 มุม คือมุมหนึ่งจะเป็นสีสันการค้าขายในเมืองโคราช ซึ่งจะทำให้ชาวโคราชได้ซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบจากจีนในราคาถูก
แต่อีกมุมน่าเป็นห่วงผู้ประกอบการไทย เพราะสินค้าจากจีนมีต้นทุนที่ต่ำมาก ประกอบกับการขนส่งสมัยนี้รวดเร็วมาก ส่งสินค้าจากจีนมาทางรถไฟความเร็วสูงถึง สปป.ลาว เพียงวันเดียว วันต่อมาก็ถึงไทยแล้ว จึงทำให้เกิดปัญหาสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้ามาขายในประเทศไทย เป็นจำนวนมาก ทั้งผลไม้, อาหารสด, อาหารทะเล และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ
ในอนาคตรถไฟความเร็วสูงมาถึงนครราชสีมาแล้ว การส่งสินค้าจากจีนมานครราชสีมาใช้เวลาเพียงวันเดียว ที่สำคัญประเทศไทยมีการทำ FTA กับจีนด้วย จึงทำให้สินค้าหลายชนิดปลอดภาษีนำเข้ามาซ้ำเติมอีก
ขณะนี้ไทยยังจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มอีกเป็น 400 บาท ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถลดต้นทุนไปสู้กับจีนได้ จึงขอให้ทางกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลควบคุมสินค้าจากจีนด้วย เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทย เพราะทุกวันนี้สภาพเศรษฐกิจในนครราชสีมาซบเซามาก โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองนครราชสีมา
จุดที่มีการติดป้ายโฆษณาภาษาจีนดังกล่าว ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ ปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก มีการติดป้ายขาย และเซ้งร้านให้เห็นอยู่ทั่วไป ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไร ผู้ประกอบการรายย่อยคงจะล้มตายไปเป็นจำนวนมากกว่านี้แน่นอน