ตลาดเรือครุยส์ภูเก็ตพุ่ง 3 เท่า ท่าเรือพร้อมรับ “เก็นติ้งดรีม” 1.5 แสนตันกรอส

การท่องเที่ยวทางเรือของภูเก็ตนับวันจะบูมมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดแบรนด์สายการเดินเรือระดับโลกอย่าง “รีสอร์ทเวิลด์ครูซส์” (Resorts World Cruises) ได้นำเรือสำราญ (Cruise) ขนาดใหญ่ “Genting Dream” ซึ่งมีระวางขับน้ำ 150,695 ตันกรอส (Gross Tonnage : gt) เข้ามาขอเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต แบบไม่ต้องใช้เรือลากจูง

โดยนำผู้โดยสารมากับเรือลำนี้ประมาณ 3,600 คน และมีแผนจะเข้ามาเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เดือนละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อยจนถึงปี 2569 ถือเป็นการกระตุ้นการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวทางเรืออย่างเห็นได้ชัด

เรือเก็นติ้งดรีม ถือเป็นเรือขนาดใหญ่ลำแรกที่สามารถเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตได้ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับเรือลำอื่นที่ใกล้เคียงกันสามารถเข้ามาเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตได้ ซึ่งในช่วงลมตะวันออก เรือจะไปจอดทิ้งสมอที่ป่าตอง แต่ในช่วงหน้ามรสุม เรือจะมาจอดทิ้งสมออยู่ที่ด้านนอกของอ่าวมะขาม หรือบริเวณด้านนอกของร่องท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต และใช้เวลาในการขนถ่าย Transfer เข้ามา ดังนั้นในอนาคตถ้ามีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะมีเรือจากทางยุโรป และอินเดีย เข้ามาที่ภูเก็ต

รับเรือครุยส์ 1.5 แสนตันกรอส

ด้าน นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นับเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ที่เข้ามาท่องเที่ยวทางทะเลและเข้ามาจอดที่จังหวัดภูเก็ตถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เรือได้จอดเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ที่ผ่านมาเรือจะจอดกลางทะเลและมีเรือลำเล็กไปจอดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาส่งยังฝั่ง

ซึ่งทางเจ้าท่าภูเก็ตได้มีการสำรวจร่องน้ำและทางสถาปนิกได้สำรวจออกแบบความลึกของน้ำ 8 เมตร ที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ทำให้เรือสามารถเข้ามาเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตได้ และต่อไปในอนาคตคาดว่าจะมีเรือสำราญขนาดใหญ่เข้ามาจอดเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตมากขึ้น จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทางเรือสำราญขนาดใหญ่จำนวนมากขึ้น

ปัจจุบันผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทางสนามบินภูเก็ต วันละประมาณ 5-6 หมื่นคน และถ้าทางเรือเพิ่มขึ้นมาและทางรถเพิ่มเข้ามาอีกก็จะนับเป็นจำนวน 1-2 แสนคนต่อวัน ที่เข้ามาจังหวัดภูเก็ต จึงเป็นโอกาสดีของการท่องเที่ยวทำให้ภาคธุรกิจเอกชน ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ สามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยจังหวัดภูเก็ตมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจมารีน่าให้ภูเก็ต เป็น Marina Hub เป็น M หนึ่งของ 10 เสาหลักยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการส่งเสริมให้เรือสำราญขนาดใหญ่ โดยทางเจ้าท่าภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งมีเรือสำราญจากหลายบริษัทที่เข้ามาจังหวัดภูเก็ต สำหรับท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตบริหารงานโดยเอกชน มีแผนดำเนินการพัฒนาปรับปรุงขยายอาคารเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยวในอนาคต”

3 ด่านตั้งรับนักท่องเที่ยวทางเรือ

น.ส.เรไร จันทรนราย หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ด่านควบคุมโรคติดต่อ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว โดยร่วมกันขึ้นไปตรวจเรือสำราญ เก็นติ้ง ดรีม ที่เข้ามา โดยตรวจเรื่องผู้เดินทาง สินค้าที่นำเข้ามาและตรวจสุขภาพของผู้เดินทางที่เข้ามาเพื่อความปลอดภัยของประเทศไทย ผลการตรวจ ปลอดโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพราะได้รับการคัดกรองเรียบร้อยแล้ว

ส่วนผู้ที่เดินทางได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางมาครบทุกคน มีผู้โดยสารทั้งหมด 3,780 คน ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งยุโรปจะมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเอเชียทั้งหมด ลูกเรือทั้งหมด 1,873 คน เรือลำนี้เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ หลังจากจอดที่จังหวัดภูเก็ตแล้วจะเดินทางต่อไปที่ประเทศมาเลเซีย จอดเพียง 1 วัน ซึ่งกำหนดเรือออกในเวลา 1 นาฬิกา ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เรือลำนี้จะเข้ามาจังหวัดภูเก็ตเดือนละ 2 ครั้ง อาทิตย์เว้นอาทิตย์

“รอบนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ทดลองนำเรือขนาดใหญ่เข้าเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ปกติเรือลำนี้จะทิ้งสมออยู่ที่กลางทะเลและผู้เดินทางจะต้องนั่งเรือเล็กเพื่อมาขึ้นฝั่งและออกไปเที่ยว ซึ่งการจอดเทียบท่าแบบนี้ทำให้ลดระยะเวลาในการเดินทาง เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปท่องเที่ยวในตัวเมืองภูเก็ต และสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นหน้า Low Season หรือในช่วงนี้ เรือจะจอดที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต แต่ถ้าเป็นหน้าไฮซีซั่น เรือจะจอดทิ้งสมอที่อ่าวป่าตอง”

ทั้งนี้ เรือสำราญเข้ามาตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แต่โดยปกติจะเข้ามาในหน้าไฮซีซั่นทิ้งสมอที่ป่าตอง ยกตัวอย่าง เรือ Spectrum of the Seas ที่เข้ามาเมื่อปลายปี 2566 พอหน้า Low Season เรือที่เข้ามาก็จะเป็นเรือเก็นติ้งดรีม ส่วนเรือสำราญขนาดใหญ่จะเริ่มเข้ามาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

เรือท่องเที่ยวพุ่ง 3 เท่าต่อเดือน

ด้าน นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2565-2566 เป็นต้นมา จำนวนเรือขนาดใหญ่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะต้นปี 2567 ที่ผ่านมา เดือนละประมาณ 7-8 เที่ยว จำนวนเรือเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว หรือประมาณ 14-17 ลำต่อเดือน เป็นแนวโน้มที่ดีมากในเรื่องของตลาดเรือครุยส์ โดยเฉพาะเรือเก็นติ้งดรีมลำนี้สามารถที่จะเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นครั้งแรก ที่มีความยาวขนาด 335 เมตร

ที่ผ่านมาเรือเข้ามาเดือนละ 2 ครั้ง จะทิ้งสมออยู่ด้านนอกกลางทะเล ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกเพราะต้องใช้เรือ Transfer รับส่งเข้ามายังฝั่งทำให้เสียเวลา และเมื่อสามารถจอดเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตได้ จึงทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และสร้างความมั่นใจในการเข้ามาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นในอนาคต กรมเจ้าท่ามีแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวทางทะเล (Maritime Hub) เชื่อมั่นได้ว่าตลาดเรือสำราญขนาดใหญ่จะเจริญเติบโตและคึกคักมากยิ่งขึ้นแน่นอน

​