แม่สอด น้ำเมยท่วมหนัก รถขนส่ง ”แร่ลิกไนต์“ ไปเมียนมา 25 ตู้ชะงัก

แม่สอดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำแม่น้ำเมยท่วมสูงล้นทะลัก กระทบรถขนแร่ลิกไนต์ 25 ตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือแหลมฉบังค้างเติ่ง ข้ามไปเมียนมาไม่ได้

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นายศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า เจ้าของกิจการขนส่ง บริษัท นครสวรรค์ตั้งประเสริฐ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และพื้นที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ยังคงน่าเป็นห่วง จากฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนส่งสินค้าของบริษัท ที่ต้องข้ามไปส่งยังฝั่งประเทศเมียนมา ไม่สามารถข้ามไปได้ เนื่องจากน้ำที่ท่วมตีนสะพานฝั่งประเทศเมียนมา และบริเวณจุดข้ามโป๊ะ ก็พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเมยเพิ่มสูงขึ้นและน้ำเชี่ยว จึงค่อนข้างอันตรายมาก

สำหรับรถขนส่งสินค้าของทางบริษัท ขนส่งแร่ลิกไนต์มาจากท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นแร่ลิกไนต์จากประเทศอินโดนีเซีย จีน และออสเตรเลีย ที่ลูกค้าให้บริษัทเป็นผู้ขนส่งไปส่งที่โรงงานในเมืองเมียวดี (ห่างจากเมืองเมียวดีราว 10 กิโลเมตร) ราว 25 ตู้คอนเทนเนอร์

โดยขณะนี้รถขนส่งแร่ลิกไนต์ของบริษัท จอดรออยู่บริเวณชายแดนฝั่งอำเภอแม่สอดจำนวน 10 กว่าคัน ซึ่งยังไม่สามารถข้ามไปได้ ทั้งจุดข้ามสะพาน 1 และสะพาน 2 เนื่องจากน้ำยังท่วมตีนสะพาน รวมถึงจุดบริเวณท่าข้ามโป๊ะ ที่ไม่สามารถข้ามไปได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำเชี่ยว และค่อนข้างอันตรายหากสายสลิงเรือขาด

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีสินค้าที่ค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบังอีกจำนวน 10 ตู้ที่รอขนส่ง มีปลายทางส่งเมืองเมียวดี แต่ยังไม่สามารถขนสินค้ามาได้ในตอนนี้ ต้องรอจนกว่าสถานการณ์น้ำจะลดระดับลงและพอข้ามไปได้

สำหรับผลกระทบที่บริษัทได้รับคือ รายได้หายไป 50% และกลายเป็นรายจ่ายแทน ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนในการจอดรถเพื่อรอข้าม ต้นทุนค่าใช้จ่ายพนักงานขับรถ ต้นทุนค่าเสียเวลา โดยเฉพาะจำนวนเที่ยววิ่งรถที่ควรจะวิ่งได้หลายเที่ยวมากขึ้น รายได้ส่วนนี้ก็หายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเดิมใช้เวลาในการขนส่งสินค้า 3 วัน ระยะเวลาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว กลายเป็น 5 วัน หรือมากกว่านั้น เป็นภาระต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นทุกด้าน

นายศุภศักดิ์กล่าวว่า ฤดูนี้เป็นฤดูที่งานน้อยอยู่แล้ว พอเจอปัญหาน้ำท่วมจึงยิ่งไปกันใหญ่ สินค้าไม่สามารถส่งปลายทางได้ในเวลาที่กำหนด ทำให้ทุกอย่างสะดุดหมด ยิ่งภาวะเศรษฐกิจปีนี้ที่ย่ำแย่กว่าทุกปี เมื่อเจอผลกระทบจากน้ำท่วมจึงยิ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมการประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น