เซรามิก “ลำปาง-ราชบุรี” จี้รัฐ ตั้งกำแพงภาษี-เช็กมาตรฐานสินค้าจีน

เซรามิก ลำปาง

เซรามิกลำปาง-ราชบุรีอ่วมหนัก นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปางชี้สินค้าจีนดัมพ์ราคาทุบผู้ประกอบการไทยปิดตัวระนาว ฝั่ง “ราชบุรี” เผยอยู่ยาก ล่าสุดหายไปแล้วกว่าครึ่ง จี้รัฐหนุนเซรามิกไทย พาณิชย์ชงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไม่เกิน 1,500 บาท พร้อมเร่งทำตลาดส่งออกสินค้าไทย ฝั่งอุตฯขออำนาจลุยตรวจสอบคลังสินค้าในพื้นที่เขตปลอดอากร แหล่งพักสินค้านำเข้าที่ไม่มีการตรวจสอบมาตรฐาน

ลำปางเหลือผู้ประกอบการ 100 ราย

นายพีระรักษ์ พิชญกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซรามิกของจังหวัดลำปางเริ่มมีขนาดเล็กลง โดยในช่วงระยะ 10 ปีมีผู้ประกอบการเซรามิกทยอยปิดตัวและปิดกิจการอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีผู้ประกอบการเซรามิกในจังหวัดลำปางราว 500-600 ราย ปัจจุบันเหลือเพียงกว่า 100 รายเท่านั้น

การเลิกกิจการของผู้ประกอบการเป็นผลมาจากปัจจัยเรื่องต้นทุน และการโดนสินค้าจีนตีตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิด “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ส่งผลให้อุตสาหกรรมเซรามิกของลำปางได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากเซรามิกของจีนที่ผลิตในจีนไม่สามารถส่งเข้าสหรัฐอเมริกาได้ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ทำให้เซรามิกจีนทะลักไปตีตลาดสินค้ากลุ่ม Tableware ที่ส่งไปขายในยุโรป ซึ่งกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของผู้ประกอบการลำปาง

นายพีระรักษ์กล่าวว่า มีปัจจัยที่ส่งผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการเซรามิกในจังหวัดลำปางหลายด้าน ได้แก่ 1.ค่าพลังงานที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า และแก๊ส โดยเฉพาะแก๊สเป็นต้นทุนหลัก 2.ค่าแรงที่ปรับขึ้นต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีก 3.สินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดทุกที่ ราคาถูก 5-10 บาท ริมถนน 2 ข้างทาง เส้นทางจากเชียงใหม่ก่อนถึงตัวเมืองลำปาง ทั้งขาขึ้นและขาล่อง และ 4.วัตถุดิบ (ดินขาว) มีน้อยลงและต้นทุนสูงขึ้น

แนะตั้งกำแพงภาษีนำเข้า

รองประธานหอการค้าจังหวัดลำปางกล่าวอีกว่า ชามตราไก่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเซรามิกที่จีนเข้ามาตีตลาด แต่จริง ๆ แล้วในปัจจุบัน ทุกกลุ่มสินค้าเซรามิกกำลังถูกจีนตีตลาด สิ่งที่น่าห่วงคือลูกค้าเซรามิกลำปางมีอยู่ทั่วประเทศ ไม่มีใครสามารถตรวจสอบสัญชาติได้ว่าเซรามิกชิ้นไหนผลิตในไทยหรือจีน

“ในมุมมองของภาคเอกชนระดับจังหวัดอยากสะท้อนไปยังรัฐบาลว่า ตอนนี้จีนบุกเข้ามาถึงในบ้านเราแล้ว ไม่ใช่เฉพาะสินค้าเซรามิก แต่ผู้ประกอบการหลายธุรกิจก็กำลังได้รับผลกระทบ” นายพีระรักษ์กล่าวและว่า

ADVERTISMENT

ดังนั้นจึงอยากเสนอให้รัฐบาลสนใจประเด็นเรื่องกำแพงภาษีการนำเข้าสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ และหาแนวทางในการคัดกรองสินค้าจากต่างประเทศและสินค้าราคาถูกแต่ไม่มีคุณภาพที่เข้ามาตีตลาดในประเทศ มาตรการกำแพงภาษีเป็นตัวกำหนดเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการไทยเสียประโยชน์และถูกเอาเปรียบ

โอดผู้บริโภคนิยมของราคาถูก

นายปรีชา ศรีมาลา นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2567 ถือเป็นปีของการเร่งปรับตัวและพัฒนาของผู้ประกอบการเซรามิกของจังหวัดลำปางที่มีอยู่ราว 100 รายในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้า “ชามตราไก่” ที่เหลือผู้ผลิตอยู่เพียง 30 รายเท่านั้น ซึ่งชามตราไก่จากจีนที่กำลังเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยขณะนี้ถือเป็นความบิดเบี้ยวของตลาดจากการดัมพ์ราคาของสินค้าจีน

ADVERTISMENT

ปัจจุบันสร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการส่วนหนึ่งในจังหวัดลำปาง เนื่องจากสินค้าดูคล้ายกันหรือเหมือนกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่สัดส่วน 80% จะเลือกซื้อจากราคาที่ถูกกว่า และผู้บริโภคอีกราว 20% ที่ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพ สุขภาพ และอัตลักษณ์สินค้าในการตัดสินใจซื้อ

ราชบุรีตายไปแล้วกว่าครึ่ง

เช่นเดียวกับจังหวัดราชบุรี อีกฐานการผลิตเซรามิกสำคัญของไทยที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุคการผลิตโอ่งมังกร โดยนายพงษ์ศักดิ์ สุพานิชวรภาชน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เถ้าฮงไถ่ จำกัด กิจการเซรามิกเก่าแก่ของราชบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สินค้าเซรามิกไทยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก การแข่งขันกับสินค้าจีน การระบาดของโควิด-19 ต้นทุน ฯลฯ ทำให้การผลิตและการส่งออกสินค้าหลาย ๆ อย่างหยุดชะงัก บวกกับต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ปัจจุบันโรงงานผู้ผลิตเซรามิกทยอยปิดตัวลง โดยภาพรวมโรงงานเซรามิกในจังหวัดราชบุรีได้ปิดตัวไปแล้วกว่า 50% จากเดิมมีโรงผลิตโอ่งกว่า 40 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 20 แห่ง

“จริง ๆ ได้รับผลกระทบจากตลาดจีน เวียดนาม มานานแล้ว ซึ่งยังไม่มีวิธีที่จะสามารถสู้ได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ตลาดจีนได้เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยที่รัฐบาลไทยยังคงปล่อย ไม่มีการป้องกันหรือเก็บภาษี เหมือนเป็นการเชื้อเชิญเข้ามา” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

พงษ์ศักดิ์ สุพานิชวรภาชน์ เถ้าฮงไถ่
พงษ์ศักดิ์ สุพานิชวรภาชน์

เร่งรัฐหนุนเซรามิกไทย

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรเร่งสนับสนุนสินค้าไทย จำกัดการนำเข้าสินค้าจีน และสนับสนุนการส่งออกสินค้าหัตถกรรมไทยอย่างจริงจัง โดยรัฐควรมีบทบาทในการส่งเสริมการสนับสนุน ดังนี้ 1.มีมาตรการภาษี จำกัดการนำเข้า ส่งเสริมให้มีการขึ้นภาษีนำเข้า 20-30% หรือเก็บภาษีการลงทุนของคนจีน เพื่อให้สินค้าทุกอุตสาหกรรมภายในประเทศสามารถอยู่ได้

2.รัฐบาลควรส่งเสริมการส่งออกงานหัตถกรรมไทยไปยังต่างประเทศ หาตลาดรองรับสินค้าหัตถกรรมไทย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและความต้องการในกลุ่มลูกค้าแต่ละประเทศ โดยไม่สามารถนำสินค้าเพียง 1 ชนิด ไปส่งขายให้กับทุกประเทศได้ และรัฐต้องจัดหาล่ามแปลภาษาให้ผู้ประกอบการ เมื่อมีการค้าไปยังต่างประเทศ

หนุนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไม่เกิน 1.5 พัน

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีสินค้าจีนเข้ามาไทยจำนวนมาก ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีวิธีการเตรียมรับมือ 2 เรื่อง ดังนี้ 1.พาณิชย์ ได้เสนอกระทรวงการคลังพิจารณาข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษี VAT สำหรับสินค้านำเข้าทางออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทอย่างถาวร ซึ่งจากการติดตามพบว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ในส่วนของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะเร่งส่งเสริมสินค้าไทยเจาะตลาดออนไลน์ของจีนเช่นเดียวกัน โดยเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ได้แก่ Alibaba, Tmall และ JD รวมทั้งจะมีการจัดมหกรรม Live Commerce ซึ่งจะนำ KOL รายใหญ่ของจีนมาไลฟ์แนะนำสินค้าไทย โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน 2567 ที่จะถึงนี้

ลุยตรวจคลังสินค้าปลอดอากร

ด้านนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากกรณีที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติได้เข้ามาบุกตลาดสินค้าไทย สร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการในไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่เป็นผู้ผลิตขายสินค้าในประเทศ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม

นอกจากการกำหนดมาตรฐานบังคับ หรือ มอก.แล้ว ล่าสุดกระทรวงยังได้หารือกับทางกระทรวงการคลังเพื่อให้ออกเป็นประกาศ โดยให้อำนาจกับกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปตรวจสอบคลังสินค้าโรงงาน ที่อยู่ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) ได้ เนื่องจากผู้ประกอบการใช้ช่องว่างจากสิทธิ Free Zone นำสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศ และพักสินค้าไว้โดยที่ไม่มีการถูกตรวจเรื่องมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

ส่วนการเก็บภาษีสินค้านำเข้า มีแนวโน้มว่าจำเป็นที่ต้องทำ แต่จะทำเฉพาะบางประเภทสินค้าที่คาดว่าเข้ามาดัมพ์ราคาหรือส่อไปในแนวการทุ่มตลาด เหมือนสินค้าเหล็กที่ได้รับผลกระทบอยู่ขณะนี้