เชื่อมโยงไทย-กัมพูชา สานสัมพันธ์ท่องเที่ยวปั่นร้อยใจไทย-เกาะกง ครั้งที่ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตราดว่า โครงการ “ปั่นร้อยใจไทย-เกาะกง ECO Tourism”ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2561 ที่จัดโดยอำเภอคลองใหญ่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด(ททท.)สมาคมการค้าชายแดน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด ผ่านไปอย่างคึกคัก ด้วยครั้งที่ 2 เพิ่มรูปแบบการจัดกิจกรรมขี่จักรยานระยะสั้นๆระยะทางไป-กลับ12-15 กิโลเมตร เป็นขบวนเล็กๆประมาณเกือบๆ 300 คัน เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนคลองใหญ่ ด้วยการปล่อยตัวแบบเรียบง่าย

โดยมี นางวิยะดา ซวง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด นายภรรดร ลิ้มพลอยพิพัฒน์นายกสมาคมการค้าชายแดน พร้อมขบวนจักรยานปั่นชมวิถีชีวิตของพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จากทะเลภูรีสอร์ท ถนนหมายเลข 3 เลี้ยวขวาเข้าอำเภอคลองใหญ่ สักการะองค์พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ผ่านตลาดสดอำเภอคลองใหญ่แวะชมแหล่งการค้าอาหารพื้นเมืองของชุมชน วิถีชีวิตการพูดจาภาษาตราด สักการะเจ้าแม่ทับทิมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ สุดปลายทางที่ท่าเทียบเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ที่มีความยาวถึง 2 กิโลเมตรเสร็จแล้วมีงานเลี้ยงรับประทานอาหารของชุมชน ณ บริเวณปลายสะพานเอนกประสงค์ บรรยากาศสบายๆ มองเห็นเกาะกูดเป็นแบลคดร็อป และมีบูธสินค้า OTOP ของอำเภอคลองใหญ่ให้บรรดานักปั่นเลือกซื้อ ลิ้มลองรสชาติและซื้อหาเป็นของฝาก เส้นทางนี้แม้จะคับแคบ ซอกซอนไปตามถนนเล็กๆแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครกู้ภัยดูแลให้นักปั่นได้ขับขี่กันอย่างสะดวกสบายและอบอุ่นใจ

ทริปสร้างมิตรภาพไทย-เกาะกง เป็นไฮน์ต์เพราะเส้นทางเริ่มจากจุดแคบสุด อ.คลองใหญ่ จ.ตราดไปจังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา ผู้ร่วมขวบวนจักรยานจำนวน เกือบ 700 คัน มากันแทบทุกภูมิภาค เชียงใหม่ ลำพูน โคราช ร้อยเอ็ด ขอนแก่น กำแพงเพชรเพชรบูรณ์ นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรีรวมทั้งจังหวัดตราดร่วม 500 คันเศษและมีทีมกัมพูชาอีก 160 คนรอสบทบที่ชายแดนเกาะกง

พิธีเปิดเริ่มจากบริเวณจุดแคบสุด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเป็นประธานเปิดพร้อมคณะผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน กล่าวว่าจังหวัดตราดเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอันดับต้นๆ กิจกรรมการปั่นจักรยานสองแผ่นดินช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไปพร้อมๆกับการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งปีนี้ได้รับความสนใจจากบรรดานักปั่นเพิ่มขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ที่มองเห็นศักยภาพการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของอำเภอคลองใหญ่ หรือเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวโดยชุมชนระหว่างจังหวัดตราด-เกาะกง หรือระหว่างไทย-กัมพูชา

เส้นทางปั่นเป็นจุดทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามซ้ายภูผา-ขวาทะเล เริ่มสตาร์ตจากบริเวณจุดแคบที่สุดในประเทศไทย(450 เมตร)ที่บ้านโขดทราย ตำบลหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท(หมายเลข 3) ผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กบริเวณหลักเขตที่ 73 แวะพักเพื่อออกสตาร์ทพร้อมกับขบวนจักรยานของกัมพูชาในเขตเกาะกงหน้าโรงแรมเกาะกงอินเตอร์เนชั่นแนล รีสอร์ทจุดนี้นายไพฑูรย์ พราหมเกสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ได้มาต้อนรับทักทายคณะนักปั่น

จากนั้นขี่ผ่านเขตนิคมอุตสาหกรรมเกาะกงเป็นเขตพัฒนาการลงทุนด้านอุตสาหกรรมของต่างชาติขนาดใหญ่ มุ่งไปยังไฮน์ไลต์ของทริปวัดปากคลอง อ.มณฑลสีมา จ.เกาะกง ผ่านป่าชายเลย หาดทรายขาวทอดยาว 3 –4 กิโลเมตรที่เป็นสถานที่ที่สวยงามแวะพักสักการะหลวงพ่อหมึกที่ชาวกัมพูชาและชาวไทยต่างให้ความเคารพ และปั่นย้อนกลับมาข้ามสะพานข้ามแม่น้ำครางครืนที่มีความยาว 1.9 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดหน้าศาลากลางจังหวัดเกาะกง รวมระยะทางไป-กลับ ประมาณ 50 -55 กิโลเมตร ณ จุดสิ้นสุดนี้มีเต็นท์บริการอาหาร เครื่องดื่มให้อย่างเต็มอิ่ม ก่อนคณะของนายไพฑูรย์ พราหมเกสร รองผู้ว่าจังหวัดเกาะกงรอต้อนรับ

นายไพฑูรย์ พราหมเกสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง กล่าวกับ”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ชื่นชอบการจัดกิจกรรมจักรยานของไทยร่วมกับจ.เกาะกงอย่างมาก เพราะได้ตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันซึ่งในการปั่นครั้งนี้มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงและหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมปั่นด้วย ที่สำคัญได้ประชาสัมพันธ์และพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของเกาะกงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกาะกงมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประมาณ 150,000 คน/ปี มีห้องพักประมาณ 1,000 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นจีน ยุโรป และบริเวณเส้นทางจักรยานไปวัดปากคลองมีหาดทรายยาวประมาณ 3 กิโลเมตรรัฐบาลได้ให้ต่างชาติเช่าทำโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ปีหน้าอยากให้มีขบวนจักรยานเป็น 1,000 คัน และเข้าไปเที่ยวน้ำตก แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในอำเภอทมอดาที่ติดกับอำเภอมณฑลสีมาของจังหวัดเกาะกง เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ

ทางด้าน นายวิชาญ ชีวงศ์ สมาชิกPSC (Pattaya Sport Cluub)กล่าวเพิ่มเติมว่าในกลุ่มPSC มาด้วยกัน 33 คน ส่วนใหญ่อพท.จัดงานจะมาร่วมด้วย เพราะประทับใจในการจัดกิจกรรม มีการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัย อาหารการกิน ให้นักปั่นเป็นอย่างดีครั้งที่ 1ประทับใจจึงมาอีกครั้งที่ 2 เส้นทางปั่นมีเพิ่มปั่นระยะสั้น ไปปลายสะพานผ่านชุมชน ตลาดสด และที่ปลายสะพานวิวธรรมชาติสวยงามมาก มีอาหารทะเลต้อนรับสร้างความประทับใจได้ดี ส่วนเส้นทางไปเกาะกงครั้งนี้เพิ่มไปวัดปากคลองสักการะหลวงพ่อหมึก เส้นทางเลียบทะเล ชายหาดยังบริสุทธิ์สวยงาม จุดหมายปลายทางที่พักหากทำเป็นซุ้มอาหารจากชาวบ้านจะสร้างบรรยากาศได้ดี

ส่วนใหญ่นักปั่นชอบปั่นข้ามไปต่างประเทศเพราะเป็นโอกาสพิเศษ ต่างจากในเมืองไทยจะปั่นเมื่อไรก็ได้ เส้นทางจะมีการปรับลึกระยะทางไกลแค่ไหนส่วนใหญ่นักปั่นต้องการเข้าไปให้ลึกมากที่สุดอยู่แล้ว คาดว่าปีหน้าจะมาร่วมกิจกรรมอีกอย่างแน่นอน ขอฝากอย่างเดียวสิ่งที่นักปั่นน่าจะแทบทุกคนต้องการคืออยากให้มีเหรียญที่ระลึกที่มีสัญลักษณ์ข้อความไทย-กัมพูชามอบให้ เพื่อเก็บสะสมไว้เป็นที่ระลึกและความภาคภูมิใจ

ทางด้านนางวิยะดา ซวง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ครั้งได้รับความสนใจจากนักปั่นเพิ่มขึ้น มีผู้ร่วมงาน หน่วยงานต่างให้การสนับสนุน ทำให้จังหวัดตราดและเกาะกงมีโอกาสประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวได้กว้างไกล รวมทั้งด้านการค้า การลงทุน เส้นทางปั่นที่เป็นไฮน์ไลต์ครั้งนี้ ได้เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวจุดแคบที่สุดของฝั่งไทย และวัดหลวงพ่อหมึกวัดปากคลอง อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง เส้นทางเลียบทะเลสวยงามและคณะได้สักการะหลวงพ่อหมึกเกจิอาจารย์ที่ชาวกัมพูชาชาวไทยศรัทธา และการประชาสัมพันธ์เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอำเภอคลองใหญ่ วิถีชีวิต ชาวประมง ชาวสวนสมบูรณ์ด้วยอาหารทะเล ผลไม้ มีแหล่งประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่น่าสนใจ

ปลายสะพานเอนกประสงค์จะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและตกจุดเดียวกัน คือขึ้นด้านเทือกเขาบรรทัดและตกที่ปลายเกาะกูด คาดว่ากิจกรรมปั่นจักรยานครั้งนี้ช่วยให้มีการกระจายรายได้ให้กับชุมชน รีสอร์ทร่วม 10 แห่งลูกค้าจองเต็ม ร้านอาหารร้านของฝาก สินค้าโอท็อป สถานีจำหน่ายน้ำมัน ประมาณค่าใช้จ่าย 1,000 บาท/คน/วัน เป้าหมายการจัดครั้งที่ 3 จังหวัดเกาะกงเปิดเส้นทางใหม่ ให้ปั่นเข้าถึงน้ำตกตะไตที่สวยงามแปลกตาที่อำเภอทมอดา น่าจะได้รับความสนใจมากคาดว่าจะเปิดรับไม่เกิน 1,000 คัน

ด้าน นายสุธารักษ์ สุนทรวิภาต รองผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ3 องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน)กล่าวว่า อพท.สนับสนุนกิจกรรมปั่นจักรยาน ไทย-กัมพูชาทุกครั้ง เพราะตรงกับเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวของอพท. เป็นธีมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศฯน์หรือ Eco Tourism เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อมชื่นชมกับวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่หลากหลาย กระจายรายได้ให้กับชุมชน อำเภอคลองใหญ่มีศักยภาพโดดเด่น เหมาะกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ทั้งภูเขา ป่าไม้ ทะเลสมบูรณ์และสวยงาม และยังมีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเกาะกงหรือเมืองประจันตคีรีเขตของไทยในอดีต

“การท่องเที่ยวโดยชุมชนและเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านเกาะกง กัมพูชา การค้า การลงทุนจะตามมา การจัดทริปเส้นทางท่องเที่ยวด้วยจักรยาน ต้องมีความพร้อมด้วยกันทั้งสองฝ่าย ปีงบประมาณ 2562 อพท.มีโครงการศึกษาเส้นทางเชื่อมกัมพูชาอีก 2 จุด คือ ท่าเส้น(อ.เมือง จ.ตราด)-ทมอดา(อ.เวียลเวียง จ.โพธิสัต)และบ้านหาดเล็ก-เกาะกง หากมีความเป็นไปได้จะมีการทำประชาสัมพันธ์เส้นทางเชื่อมโยงต่อไป”นายสุธารักษ์กล่าว