นิคมอุตสาหกรรมอุดรฯคืบ 80% เร่งเปิดประมูลหาผู้รับเหมาสร้างสาธารณูปโภค 1,200 ล. คาดกลางปี2562 เสร็จ พร้อมลุยเจรจากรมศุลกากรตั้งเขต free zone วาดอนาคตเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯระดมทุน
หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการส่งเสริมและสนับสนุนให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวและยุทธศาสตร์จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนยื่นเสนอพื้นที่มา และเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2557 กนอ.ได้ลงนามสัญญากับบริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด เพื่อดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยมีเอกชนผู้ลงทุนพัฒนา และให้บริการระบบสาธารณูปโภค บนพื้นที่ 2,219 ไร่ ต.โนนสูง และ ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี มูลค่า 2,900 ล้านบาท
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 41,950 บาท
นางอรพิน พิพัฒน์วิไลกุล รองประธาน บริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีบริษัทตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเก็บรวบรวมข้อมูลและติดตามความก้าวหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อเตรียมนำข้อมูลไปจัดทำเอกสารนำเสนอนักธุรกิจที่สนใจเข้ามาลงทุน ขณะเดียวกันในเดือนหน้าจะมีบริษัทตัวแทนจากประเทศจีนเดินทางเข้ามาดูพื้นที่เช่นกัน สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ นั้น คาดว่ากลางปี 2562 จะแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันได้แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้วว่า ปลายปีนี้ถึงต้นปี 2562 ทางนิคมฯจะสั่งเครื่องจักร เช่น เครื่องบำบัดน้ำเสีย เครื่องสูบน้ำเข้ามา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในส่วนของสาธารณูปโภคประมาณ 1,200 ล้านบาท และบริษัทมีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในอนาคตอีกด้วย
“โดยสภาพพื้นที่และถนนหลักภายในโครงการมีการปรับเกรดแล้วเสร็จ 80% สถานีไฟฟ้าย่อยภายในโครงการ ขนาด 100 MW มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2561 ตามแผนจะมีการเชื่อมโยงกระแสไฟกับจังหวัดสกลนคร ส่วนอาคารสำนักงานเตรียมว่าจ้างผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์หรือผ่านการทำงานเกี่ยวกับโครงการนิคมอื่น ๆ มาดำเนินการ โดยจะมีสายไฟฟ้าอยู่ใต้ดิน คาดว่าจะใช้งบฯก่อสร้าง 40-50 ล้านบาท”
ส่วนพื้นที่ติดทางรถไฟกว่า 400 ไร่ เพื่อรองรับการเป็นลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (container yard – CY) และบ่อเก็บน้ำสำรองจำนวน 3 บ่อ พื้นที่ 110 ไร่ ความจุรวม 1,600,000 ลบ.ม. ซึ่งทางนิคมฯได้เสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาดำเนินโครงการท่าเรือบก หรือ inland container depot : ICD ในพื้นที่ของนิคมฯ และบรรจุลงในแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟ สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยว และการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งล่าสุดนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข.ได้ทำหนังสือถึงบริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานีฯ แจ้งว่า เป็นแนวทางที่เหมาะสมจึงเสนอคณะกรรมการกำกับงานศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟฯ กำหนดพื้นที่ CY จากบริเวณสถานีหนองตะไก้ เป็นนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี โดยบรรจุไว้ในแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟฯ ระยะกลาง ปี 2565-2569 และเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณามอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พิจารณาดำเนินการต่อไป
นายพิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล กรรมการ บริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด กล่าวว่า บริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาติดต่อเป็นบริษัทเอเย่นต์ที่ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการมาตลอด 3-4 ปีแล้ว โดยบริษัทเอเย่นต์รายนี้มีลูกค้ากว่า 1,000 บริษัท ซึ่งการมาดูพื้นที่ และขอข้อมูลบ่อย ๆ ถือเป็นการแสดงความเชื่อมั่นและให้ความสนใจ แต่พฤติกรรมการตัดสินใจของคนญี่ปุ่นใช้เวลานาน เชื่อมั่นว่าปลายปีนี้น่าจะมีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีได้เข้าพบทาง กนอ. เพื่อหารือถึงแนวทางการจัดตั้งเขตปลอดอากร (free zone) ได้รับข้อเสนอแนะว่า ควรจัดตั้งเป็นเขตปลอดอากรของกรมศุลกากร เนื่องจาก 1.ตามประกาศเขตของ กนอ. นิคมฯอุดรธานีไม่ได้กำหนดพื้นที่สำหรับเขตประกอบการเสรี (free trade zone) ไว้ หากจะจัดตั้งต้องเสนอขออนุมัติต่อ กนอ. ใหม่ ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการ และ 2.การจัดตั้งเขต free zone เป็นอำนาจอนุมัติของอธิบดีกรมศุลกากร ซึ่งขั้นตอนการจัดตั้งจะง่ายกว่า แต่จะได้สิทธิประโยชน์เหมือนกับ free trade zone ซึ่งทางญี่ปุ่นให้ความสนใจมาก
ประเด็นหลักที่ต่างชาติให้ความสำคัญ เช่น 1.โรงงานขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญเรื่องการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก หากลดได้มากสามารถกู้เงินได้มาก หรือจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง รวมถึงการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีเป็นนิคมฯสีเขียว 2.เรื่องแรงงานคุณภาพในพื้นที่ ซึ่งคนอุดรธานีถึง 30% กระจายไปทำงานต่างประเทศ และนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถือว่ามีประสบการณ์สูง หากมีนิคมฯเกิดขึ้น คนอุดรฯจะกลับมาทำงานที่บ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง 3.เรื่องการคมนาคม ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน มีถนนเชื่อมไปยัง สปป.ลาว และจีนได้ ทางญี่ปุ่นมองว่าเป็นจุดที่ดีมาก
ส่วนสนามบินอุดรธานีเป็นสนามบินนานาชาติ ส่วนท่าเรือบก ญี่ปุ่นมองว่า รัฐบาลไทยน่าสนใจเข้ามาจัดตั้ง เพราะได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ส่วนรถไฟรางคู่ รัฐบาลยืนยันว่ามาแน่นอน พร้อมกับเรื่องเทคโนโลยี