กล้วยน้ำว้าราคาพุ่ง 50 บาท อากาศร้อน ผลผลิตวูบ ชี้หากนำเข้าต้องคุมเข้ม

สวนกล้วย

กล้วยน้ำว้าราคาพุ่งจากหวีละ 30 บาทเป็น 50 บาท/กก. เหตุสภาพอากาศร้อน ทำผลผลิตลด ไม่พอป้อนดีมานด์ในตลาด เผยหากรัฐเปิดนำเข้ากล้วยจากต่างประเทศ ต้องตั้งกฎคุมปริมาณ และระยะเวลานำเข้า หวั่นสินค้าล้นตลาด กระทบปลูกกล้วยไทย

วันที่ 4 กันยายน 2567 นางสาวณัชคิรากร ดำชมทรัพย์ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้า ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กล้วยทุกชนิดในประเทศไทยมีราคาพุ่งสูงขึ้น จากปกติที่สวนมีแม่ค้าเจ้าประจำมารับซื้อหวีละประมาณ 15-30 บาท ตามขนาดไซซ์ ตอนนี้ให้ราคาสูงขึ้นไปหวีละ 50 บาท เนื่องจากสภาพภูมิอากาศร้อนแล้งต่อเนื่องมาหลายเดือน ทำให้ผลผลิตออกน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด

“สภาพภูมิอากาศร้อนแล้งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 แต่ในปีนี้ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ปริมาณต่อหวี ต่อเครือ และขนาดผลเล็กลง ทำให้รอบการตัดลดลงไปด้วย

ปัจจุบันมีกลุ่มแม่ค้าที่รับซื้อกล้วยจากสวนโดยตรงไปแปรรูปเป็นขนม ประมาณ 10 รายต่อเดือน แต่ทางสวนมีผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้จากที่เคยมีรายได้ประมาณ 20,000 บาท/เดือน ปัจจุบันเหลือไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน” นางสาวณัชคิรากรกล่าว

นางสาวณัชคิรากรกล่าวว่า ที่สวนปลูกกล้วยน้ำว้า 2 สายพันธุ์ตามแนวคันบ่อปลา ในพื้นที่ประมาณ 10 กว่าไร่ คือ พันธุ์ปากช่อง 50 และพันธุ์มะลิอ่อง ช่วง 3 ปีที่ผ่านมากล้วยทั้ง 2 สายพันธุ์มีผลผลิตมาก ต้องตัดทิ้งทำเป็นอาหารปลา แต่ปัจจุบันกล้วยไม่พอขาย

ADVERTISMENT

“ขนาดที่สวนมีแหล่งน้ำเพียงพอจากการสูบน้ำจากคลองธรรมชาติมาไว้ในบ่อปลา แต่อากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลผลิตไม่สมบูรณ์ ตอนนี้ต้องเอาใจใส่ในการปลูกมากกว่าเดิม เพื่อให้ต้นกล้วยและผลผลิตออกมาสมบูรณ์ ขณะที่ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา บางส่วนไม่มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร” นางสาวณัชคิรากรกล่าว

นางสาวณัชคิรากรกล่าวต่อไปว่า ใน จ.ฉะเชิงเทรา นิยมปลูกกล้วยพันธุ์มะลิอ่อง เพราะเป็นสายพันธุ์พื้นถิ่น ผลมีขนาดเล็กกว่าพันธุ์ปากช่อง 50 แต่ให้ความหวาน รสชาติที่อร่อยกว่า ขณะที่กล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 จะให้ผลผลิตต่อเครือมากกว่า

ADVERTISMENT

เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้ากล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าอาจจะมีการนำเข้ากล้วยจากต่างประเทศ ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า การนำเข้ากล้วยในช่วงนี้ยังไม่มีผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยโดยตรง เพราะผลผลิตกล้วยขาดตลาดจริง ผู้ที่ใช้กล้วยรายวันจำเป็นต้องใช้

แต่ในอนาคตถ้าผลผลิตกล้วยภายในประเทศไทยมีปริมาณเพิ่มขึ้นเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแล้ว หากยังปล่อยให้มีการนำเข้าปริมาณมากอาจส่งผลให้เกิดสินค้าล้นตลาด ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีการควบคุมปริมาณการนำเข้า และระยะเวลาการนำเข้า เพราะสินค้าเกษตรทุกชนิด ถ้าราคาดี จะดึงดูดให้คนกลับมาสนใจปลูก คาดว่าภายในปีนี้จะมีคนสนใจปลูกกล้วยเพิ่มขึ้น