2 พันโรงงานอยุธยากังวล พายุ 2 ลูกใหม่ควบคุมยาก หวั่นน้ำทะเลหนุนซ้ำ

2 พันโรงงานอยุธยากังวลพายุ 2 ลูกใหม่จ่อยากควบคุม หวั่นน้ำทะเลหนุนซ้ำเติมอีก

2 พันโรงงานอุตสาหกรรมอยุธยากังวลพายุ 2 ลูกใหม่จ่อเข้ามายากควบคุม หวั่นน้ำทะเลหนุนซ้ำเติมอีก ด้านผู้ว่าฯ เรียกประชุมทุกหน่วยเตรียมปั้นคันดิน รับมือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำสูงกว่า 1,500 ลบ.ม/วินาที ป้องพื้นที่เศรษฐกิจ เผยล่าสุดท่วมแล้ว 5 อำเภอ “บางปะอิน-บางบาล-บางไทร-ผักไห่-เสนา” อ่วม

วันที่ 4 กันยายน 2567 นายชัยกฤต พุ่มเข็ม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่ากรณีกรมชลประทานจะปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาจาก 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นไปอีก ยังไม่ได้สร้างความกังวลใจต่อผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งได้มีการหารือและติดตามสถานการณ์กันตลอด เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังมีพื้นที่รับน้ำอีก 7 ทุ่ง

แต่สิ่งที่กังวลคือ พายุลูกใหม่ 2 ลูกที่จ่อเข้ามา ถือเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม นอกจากนี้ ได้มีการพูดคุยเรื่องช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูง แม้ช่วงนี้ยังไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าน้ำทะเลมาหนุนจะทำให้มีปริมาณน้ำเติมเพิ่มขึ้นอีก

“การปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพราะถือเป็นการพร่องน้ำ เพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน และทางจังหวัดส่งข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ผู้ประกอบการรับทราบเกือบจะเรียลไทม์ ในลักษณะข้อมูลเชิงลึกว่าที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าการปล่อยน้ำมีปริมาณเท่าไหร่ จะเข้าพื้นที่ไหน ยังรับมือไหว โดยมีการเตรียมพื้นที่รับน้ำอยู่แล้ว และหลังเก็บเกี่ยวข้าวในวันที่ 15 กันยายน 2567 จะมีพื้นที่รับน้ำเพิ่ม” นายชัยกฤตกล่าว และว่า

ปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 600 แห่ง และโรงงานนอกนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 1,300 แห่ง ซึ่งทางจังหวัดโดยนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการวางแผนรับมือ เริ่มจากการออกตรวจประตูน้ำ เพื่อเป็นการควบคุมกระแสน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อวางแผนกำหนดเส้นทางน้ำให้เข้าพื้นที่ โดยปัจจุบันมีพื้นที่รับน้ำอยู่ในฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ อ.บางซ้าย อ.บางบาล อ.ผักไห่ รวม 7 ทุ่ง

Advertisment

ถึงแม้จะมีผลกระทบต่อชาวบ้านและชุมชนในบริเวณดังกล่าว แต่ทางจังหวัดและผู้นำท้องถิ่นได้ร่วมกันให้การช่วยเหลือกับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งสื่อสารกับประชาชนเกี่ยวกับการเป็นพื้นที่รับน้ำให้เข้าใจร่วมกัน ซึ่งประชาชนต่างเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

Advertisment

“ที่ผ่านมาทางนิคมอุตสาหกรรมได้ถอดบทเรียนจากปี 2554 โดยมีการประชุมหารือร่วมกันทุกสัปดาห์ และผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการป้องกันต่าง ๆ โดยทางผู้ประกอบการต่างก็มีแนวทางป้องกันของตนเอง” นายชัยกฤตกล่าว

รายงานข่าวจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแจ้งว่า นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมวางแผนการรับมือผลกระทบที่ได้รับจากการเร่งระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา โดยมีนายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ปภ.จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยในที่ประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันระบายน้ำอยู่ที่ 1,498 ลบ.ม./วินาที ทำให้เกิดผลกระทบกับ 5 อำเภอในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ อ.บางปะอิน อ.บางบาล อ.บางไทร อ.ผักไห่ และ อ.เสนา

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปิดเผยว่า จากคาดการณ์ของกรมชลประทาน คาดว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มการระบายน้ำจาก 1,500 ลบ.ม/วินาที ขึ้นไปอีก จึงต้องเตรียมการ พร้อมแจ้งประชาชนให้เคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงการเตรียมปั้นคันดินตามจุดต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยเฉพาะการป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ และได้สั่งการให้ทุกอำเภอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ และเสียงตามสาย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำของจังหวัด