
ยาง “EUDR” เริ่มมีเค้าลางไม่หรู “ซื้อขายไม่ทัน-ไม่มีผู้ประมูล” มีการเสนอซื้อขายส่วนต่าง 50 สตางค์ ไม่เป็นไปตามข้อตกลงปรับขึ้นจากราคายางทั่วไป 3 บาท/กก. เสนอบอร์ดผู้ว่าการ กยท. อุดช่องโหว่ ทำแผนป้องกันความเสี่ยง ให้ กยท.ออกเงินสำรองให้เกษตรกรก่อน หากไม่มีผู้ประกอบการเข้าประมูลซื้อขาย
นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยถ้ำพรรณรา (วคยถ.) ประธานกลุ่มเกษตรกรแปรรูปยางพาราถ้ำพรรณรายเครือข่ายกว่า 200 กลุ่ม ภาคใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กลุ่มแปรรูปยางแผ่นดิบ ยางรมควัน EUDR ประสบปัญหา 1.ไม่มีกลุ่มผู้ประกอบการเข้าประมูลยาง และประมูลซื้อขายยาง EUDR ไม่ทันต่อเวลา
ซึ่งได้เกิดขึ้นเป็นบางวันมาประมาณ 2 เดือน ที่ตลาดกลางยางการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ซึ่งจะเปิดวันอังคารและวันพฤหัสบดี สัปดาห์ละ 2 วัน สำหรับตลาดกลาง กยท.จะมีจำนวน 8 แห่งทั่วประเทศ
โดยที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ฯลฯ โดยที่กลุ่มสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางรมควัน ยางแผ่นดิบ ได้นำยางไปเสนอขายที่ตลาดกลาง กยท.เปิดประมูลการซื้อขายยาง EUDR ปรากฏว่าไม่มีพ่อค้าคนกลางเข้าประมูล และบางวันจะมีการประมูลซื้อขายไม่ทันต่อเวลา
ส่งผลให้ยางค้างอยู่ที่ตลาดกลาง และกว่าจะมีการเสนอการซื้อขายในรอบต่อไปต้องรออีก 3 วัน ส่งผลกระทบต่อราคาที่ขึ้นลง และส่งผลกระทบต่อสถาบันเกษตรกรที่นำยางมาขาย เพราะต้องการเงินสดเป็นค่าใช้จ่าย และกลุ่มสถาบันยางจะต้องนำเงินเป็นทุนเพื่อซื้อขายยางต่อสมาชิกวันต่อวัน
ยางที่นำมาเสนอขาย จากที่ไม่มีผู้ประกอบการเข้าประมูล หรือจะเข้าประมูลไม่ทันเวลา เมื่อไม่มีการขายออก จะส่งผลกระทบต่อราคาได้ และหากราคาลงเกษตรกรก็จะเสียโอกาสและอีกส่วนจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มสถาบันเกษตรกรยาง และดอกเบี้ย เพราะการเอายางมาเสนอขายก็ต้องเป็นทุนเงิน และแนวโน้มจะเกิดความเสี่ยงต่อเกษตรกรและกลุ่มสถาบันเกษตรกรยางได้
เมื่อมีการชะลอการประมูลซื้อขาย หรือมีการซื้อขายยางไม่ทันเวลาแล้ว ทิศทางจะมีความเสี่ยงสูงในอนาคต โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม 2567 และมกราคม 2568 เพราะจะเป็นฤดูกาลยางพีกมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
นายเรืองยศกล่าวต่อไปว่า บางช่วงที่ไม่มีผู้ประมูลยาง EUDR และขณะนั้นราคายางรมควัน 81 บาท/กก. แต่มีบางรายผู้เสนอซื้อขายโดยให้มีการตกลงราคากันเองระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ แต่ทางกลุ่มสถาบันยางไม่ตอบรับ เพราะหากตอบรับทางกลุ่มสถาบันยางจะขาดทุน 2.50 บาท/กก.
จากข้อตกลงในการซื้อขายยาง EUDR จะต้องมีราคาปรับขึ้นประมาณ 3 บาท/กก. จากราคาตลาดที่ประมูลซื้อขายยางทั่ว ๆ ไปในเวลานั้น เพราะเงินจำนวน 3 บาท/กก. ที่จะต้องจ่ายให้กับสมาชิกกลุ่มสถาบันยาง 2 บาท/กก. ที่นำยางมาขายให้ และ 1 บาท/กก. จะเป็นเงินทุนในการบริหารจัดการกลุ่มสถาบันยาง
“ปัญหาตอนนี้บางวันมียางที่กลุ่มสถาบันยางนำมาเสนอขายต่อตลาดกลาง กยท. ประมาณกว่า 300 ตัน จากรถบรรทุกยางประมาณ 66 คัน ทั้งรถประเภท 4 ตัน 6 ตัน และ 8 ตัน แต่ไม่มีผู้ประกอบการประมูลเข้ามาประมูลซื้อขาย ส่งผลให้ยางตกค้าง”
นายเรืองยศกล่าวอีกว่า การประมูลซื้อขายยาง EUDR หากไม่มีผู้ประกอบการประมูล หรือเข้าประมูลไม่ทัน จะเกิดความเสี่ยงสูงมากหากเกิดภาวะยางผันผวน ดังนั้น กยท.ทั้งบอร์ด และผู้ว่าการ กยท. ต้องออกระเบียบมาอุดช่องโหว่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน คือ 1.ให้เพิ่มวันเปิดประมูลยาง EUDR ขึ้นจาก 2 วัน โดยพิจารณาตามความเหมาะสม
2.กยท.ออกเงินสำรองให้กับเกษตรกร และกลุ่มสถาบันยางก่อน หากวันใดไม่มีกลุ่มผู้ประกอบการเข้ามาประมูลซื้อขายหรือประมูลซื้อขายไม่ทัน โดยใช้เงินสำรองทดรองจ่ายให้กับเกษตรกรและกลุ่มสถาบันยางไปก่อน โดยมียางที่รอเสนอซื้อขายอยู่แล้วที่ตลาดกลาง กยท.เป็นเครดิต โดยใช้เงินคราวละ 80 ล้านบาท/ตลาดกลาง กยท. โดยสำรองไปก่อนเพียง 50%
นายเรืองยศกล่าวต่อไปว่า ยาง EUDR ประสบความสำเร็จ โดยขึ้นทะเบียนแล้วถึง 70% ทั่วประเทศ ภาคใต้ตอนบนเป็นยางรมควัน ยางแผ่นดิบ ภาคใต้ตอนล่างเป็นน้ำยางสด และภาคเหนือ อีสาน ยางก้อนถ้วย ฯลฯ ทั้ง 8 ตลาดกลาง กยท.ทั่วประเทศ
“ยาง EUDR เป็นยางพรีเมี่ยม และทำตลาดกับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ส่วนยางที่ไม่ใช่ EUDR จะมีการซื้อขายกับกลุ่มประเทศจีน และกลุ่มประเทศทั่วไป ยาง EUDR ตามข้อตกลงจะมีการซื้อขายสูงกว่าท้องตลาดยางทั่วไประมาณ 3 บาท/กก. ปัจจัยมีค่าต้นทุนบริหารจัดการ”
นายสมพงศ์ ราชสุวรรณ สภาเกษตรกรจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง สกย.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เปิดเผยว่า สำหรับยาง EUDR จ.สงขลา ขณะนี้สำเร็จประมาณ 10% โดยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่จะสำเร็จปริมาณเท่าใดยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะยังมีเนื้อที่สวนยางเกี่ยวกับเรื่องเอกสารสิทธิ เนื่องจากยาง EUDR ต้องมีเอกสารที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ จึงจะเข้าโครงการได้
นายสมพงศ์กล่าวต่อไปว่า ในกลุ่มเพิ่งเริ่มต้นรับซื้อน้ำยางสด EUDR กว่า 1 เดือน โดยบวกราคารับซื้อให้สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป 2.50 บาท/กก. “ตอนนี้มีแนวโน้มทิศทางที่ดีในระยะยาวสำหรับยาง EUDR จะเป็นยางที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568” นายสมพงศ์กล่าว