จี้รื้อเงื่อนไขเขต “เศรษฐกิจพิเศษสงขลา” ต่างชาติแห่ลงทุน “รัฐเกดะห์” ชายแดนไทย-มาเลย์

sitthiphong

สมาคมโรงแรมหาดใหญ่ จี้รัฐบาลทุบโต๊ะปรับนโยบาย “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา” เป็น “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษการค้า-การท่องเที่ยว” ให้เหมาะกับบริบทพื้นที่ พร้อมชงตั้ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ปรับเงื่อนไขจากลงทุน 1 แสนล้านบาท เหลือ 1 หมื่นล้านบาท เหตุมาเลเซียออกกฎหมายพิเศษ รุกปั้น “รัฐเกดะห์” ให้เป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” รองรับการนำเข้า-ส่งออกในภูมิภาคเอเชีย จูงใจต่างชาติลงทุน ล่าสุด “โบอิ้ง” ขยายการลงทุนโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินเพิ่ม

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการสำรวจเศรษฐกิจชายแดนไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่บ้านด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ไปจนถึงด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย พบว่า

ขณะนี้ทางรัฐเกดะห์มีนโยบายทำโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งอยู่ห่างจากด่านสะเดาประมาณ 5-6 กม. โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 4,000 เอเคอร์ (ประมาณ 10,120 ไร่) ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมการขนส่งสินค้า Inland Container Depot (ICD)

มีคลังสินค้าระบบอัจฉริยะที่ล้ำหน้ามาก รองรับการนำเข้า-ส่งออกในภูมิภาคเอเชีย ขณะเดียวกันมีพื้นที่สันทนาการ มี Working Space ที่่ทันสมัย บริหารงานโดยบริษัท บูกิต กายูอีตั้ม ไอซีดี จำกัด ซึ่งผู้ที่เข้ามาลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ และมีระบบอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน

ขณะที่โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา ซึ่งดำเนินการมาหลายปี แต่ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ดังนั้น รัฐบาลควรปรับเปลี่ยนนโยบายและเงื่อนไขเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา มาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษการค้า การท่องเที่ยว เพื่อให้ตรงกับบริบทของพื้นที่

“มาเลเซียวางกลยุทธ์ชายแดนเชิงรุกปั้นพื้นที่รัฐเกดะห์ ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมา โดยส่งเสริมทั้งด้านการขนส่งสินค้าและเศรษฐกิจ คู่ขนานกับความมั่นคงแบบไม่ปิดกั้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านนโยบายเฉพาะพื้นที่โดยกฎหมายพิเศษ เป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุน ขณะที่หันกลับมาดูฝั่งไทย โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา

ADVERTISMENT

มีแนวโน้มทิศทางน่าจะอยู่ในความเงียบ และปัจจุบันยังอยู่ในภาวะขาดทุนจากค่าบริหารจัดการ ค่าเช่าที่จากกรมธนารักษ์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ เพราะนโยบายเขตเศรษฐกิจดำเนินการมาจากส่วนกลาง ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ไม่เกิดการลงทุน”

ส่วนด่านสะเดา จ.สงขลา เป็นด่านการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากสินค้านำเข้าและส่งออกมหาศาล อีกทั้งยังเป็นด่านที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก ปี 2566 ด่านศุลกากรสะเดา มีมูลค่านำเข้า-ส่งออกสินค้า รวม 428,919 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 15% ส่วนสถิติสินค้าผ่านแดนเข้า-ออก ด่านศุลกากรสะเดาพบว่ามีสินค้าผ่านแดนขาเข้า จำนวน 29,747 ล้านบาท และผ่านแดนขาออก จำนวน 77,277 ล้านบาท รวมมูลค่า 107,024 ล้านบาท ภาครัฐยังไม่มีการพัฒนาในรูปของลานขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์และแวร์เฮาส์อย่างเป็นระบบ ในอนาคตมาเลเซียจะกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของไทย” ดร.สิทธิพงษ์กล่าว

ADVERTISMENT

ดร.สิทธิพงษ์กล่าวต่อไปว่า รัฐเกดะห์ ของประเทศมาเลเซียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก และมีนโยบายในการดึงดูดนักลงทุนจากประเทศต่าง ๆ เข้าไปมากขึ้น เช่น บริษัท Boeing ได้ขยายกิจการโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบย่อยสำหรับเครื่องบินพาณิชย์ของโบอิ้งทุกรุ่น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านสะเดา ประมาณ 10 กม.

โดยอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ และเตรียมว่าจ้างแรงงานฝีมือคุณภาพสูงเข้าไปทำงานในอัตราค่าจ้างที่สูง ซึ่งจะมีผลต่อการสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่รัฐเกดะห์ และสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของประเทศมาเลเซียให้แข็งแกร่งขึ้น

ขณะที่โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา ครอบคลุมพื้นที่อำเภอสะเดา 4 ตำบล สะเดา สำนักขาม สำนักแต้ว และปาดังเบซาร์ ประมาณ 552.3 ตารางกิโลเมตร ตรงข้ามกับรัฐเกดะห์ รัฐปะลิส มาเลเซีย ซึ่งดำเนินการมาหลายปี แต่ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร เพราะมีการลงทุนประมาณ 2 ราย รายหนึ่งทางด้านโลจิสติกส์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ และส่วนอีกรายหนึ่งลงทุนธุรกิจปั๊มน้ำมันก็ยังไม่เปิดบริการ น่าจะวิเคราะห์ถึงด้านการตลาดที่อาจจะไม่คุ้มทุน

ดังนั้น รัฐบาลควรหาแนวทางออก โดยการปรับเงื่อนไขแปลงมาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษการค้า การท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย ก็จะตรงกับบริบทของพื้นที่ เช่น สนับสนุนการลงทุนทำ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ชายแดนไทย-มาเลเซีย แต่ต้องปรับเงื่อนไขจากกำหนดเงินลงทุน 100,000 ล้านบาท ลดลงมาลงทุน 10,000 ล้านบาท ถ้าลงทุน 100,000 ล้านบาท น่าจะตรงกับบริบทแหล่งการค้าการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตมากกว่า หรือทำเป็นสนามแข่งรถระดับชาติอย่าง จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น

“จังหวัดชายแดนของแต่ละพื้นที่จะมีบริบทต่างกัน ถึงเวลาปรับปรุงชายแดนให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจจริงจัง อย่างการเดินทางมาลงทุน Boeing โรงงานอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินใกล้กับด่านสะเดา ประมาณ 10 กม. มองอีกมุมคือ จ.สงขลา ก็มีโอกาสได้ต้อนรับผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ ที่เข้ามาลงทุนในมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น”

อนึ่ง กรมการค้าต่างประเทศ รายงานสถิติการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน มิ.ย 67 มีมูลค่า 162,008 ล้านบาท แยกเป็นการค้าชายแดน 4 ประเทศ มีมูลค่า 493,470 ล้านบาท แบ่งเป็น สปป.ลาว มีมูลค่า 150,697 ล้านบาท มาเลเซีย 149,361 ล้านบาท เมียนมา 106,630 ล้านบาท กัมพูชา 86,783 ล้านบาท