เกษตรกรไร่อ้อยกว่า1,000คนยื่นหนังสือผู้ว่าฯสระแก้ว วอนแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

สมาคมเกษตรกรบูรพานำเกษตรกรไร่อ้อยจำนวน1,000คน รวมตัวยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว วอนส่งต่อรัฐบาลช่วยเหลือ

วันที่ 31 พ.ค. 2561 ที่หอประชุมปางสีดา ศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกร ชายแดนบูรพา นำเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดสระแก้วและจังหวัดปราจีนบุรี จำนวนกว่า 1,000 คน ยื่นหนังสือข้อเสนอแนวทางความเดือนร้อนของชาวไร่อ้อยและข้อคัดค้านร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ของคณะกรรมการพิจารณาศึกษาปรับปรุง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจและอส.ดูแลความปลอดภัยเกือบร้อยนาย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากนั้นนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ได้เดินทางมารับหนังสือและยินดีแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยจังหวัดสระแก้ว ในเรื่องที่อยู่ในอำนาจที่แก้ไขได้

นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา กล่าวว่า จากปัญหาราคาอ้อยที่ตกต่ำ ในฤดูกาลผลิต 2560/2561 และต่อเนื่องปี 2562 เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนรัฐบาล ได้รับทราบข้อเท็จจริง ถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวไร่อ้อย สมาคมฯ ขอนำเสนอปัญหาของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วไปยังรัฐบาลให้ทราบปัญหาและหาทางช่วยเหลือคลี่คลายปัญหา ก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงนโยบายปี 2560/2561 สร้างความเดือดร้อนต่อเกษตรกร ชาวไร่อ้อยและชาวนาอย่างมาก อาทิ นโยบายส่งเสริมให้ชาวนาหันมาปลูกอ้อย ทำให้ปริมาณอ้อยเพิ่มขึ้น จาก 92.9 ล้านตันในปี 2559/60 เป็น 134.36 ล้านตันในปี 61

โดยเป็นการเพิ่มพื้นที่ปลูกไม่ใช่การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ซึ่งในแต่ละปีมีระยะเวลาหีบของโรงงานเพียง 120 วันเท่านั้น ส่งผลให้ปีการผลิต 2560/61 มีอ้อยเหลืออยู่จำนวนมาก ในส่วนเรื่องของการควบคุมน้ำหนักบรรทุกอ้อยส่งโรงงาน และเรื่องเข้มงวดการนำเข้าแรงงานต่างด้าว ที่มองแต่ในแง่ความมั่นคงเป็นหลัก

กลับส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวในการเก็บเกี่ยวอ้อยเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถตัดอ้อยส่งโรงงานได้ทันฤดูกาลผลิต และขอให้ราชการได้มีการสำรวจปริมาณอ้อย ที่ยังคงเหลือในแต่ละพื้นที่และช่วยเยียวยาให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยต่อไป

นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา กล่าวต่อว่า ในส่วนปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ ฤดูกาลผลิต 2560/2561 และปีการผลิต 2561/62 เป็นผลจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับที่ 2 ของโลก มีการบริโภคภายในประเทศเพียง 2.6 ล้านตันเท่านั้น

ที่เหลือส่งออกทั้งหมด รวมถึงโครงสร้างรายได้ของเกษตรกรชาวไร่อ้อยมาจากน้ำตาลเพียงอย่างเดียว ชาวไร่อ้อยไม่ได้รับเงินตามราคาที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งผลกระทบนี้จะต่อเนื่องไปยังฤดูกาลผลิตปี 2561/62 ด้วย

สุดท้ายเป็นข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดสระแก้ว ขอให้แก้ไขหลักเกณฑ์ในการลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลทรายรายใหม่ เพื่อทำให้เกิดการแข่งขันรองรับการซื้อผลผลิตอ้อยอย่างเสรีและเป็นธรรม มิใช่ผูกขาดเพียงรายเดียวอย่างที่เป็นอยู่ และขอให้ชาวไร่อ้อยจังหวัดสระแก้วร่วมกับ 4 องค์กรสถาบันชาวไร่อ้อยทั่วประเทศได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี

เพื่อให้ได้มีโอกาสชี้แจงถึงรายละเอียดและประเด็นต่าง ๆ ให้เกิดความชัดเจนและสามารถกำหนดแผนการแนวการแก้ไข ปัญหาร่วมกันอย่างจริงจังและยั่งยืน

ทั้งนี้ หลังจากที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้รับหนังสือจากสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา แล้วได้กล่าวว่า ยินดีแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยจังหวัดสระแก้วที่อยู่ในอำนาจทุกเรื่องโดยทันที โดยทีมงานจังหวัดสระแก้วจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง