จ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืน หวังเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยในช่วงไฮซีซั่น 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จัดเต็ม 2 อีเวนต์ “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” และ“4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” คาดสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นายเรียงทองบาท มีพันธุ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมการท่องเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา ในปีนี้จะคึกคักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ขณะที่กลุ่มลูกค้ากว่า 60% ยังคงเป็นคนไทย รองลงมา คือ จีน ยุโรป และเกาหลี รูปแบบการท่องเที่ยวแบบ one day trip หรือบางรายใช้เวลาเที่ยวเพียงไม่กี่ ชม.เท่านั้น ทำให้ยอดจองที่พักและโรงแรมลดลงกว่า 40% รายได้ต่อหัวก็เริ่มลดลง โดยคนไทยประมาณ 500-1,000 บาทต่อหัว ส่วนรายได้ของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ไม่เกิน 1,000 บาทต่อหัว
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมมือกับภาคเอกชน จึงได้พยายามจัดอีเวนต์สม่ำเสมอทุกเดือน เน้นย้ำการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนมากขึ้น เพื่อให้เกิดการพักค้างแรมและจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ และเป็นการสร้างรายใด้ให้กับผู้ประกอบการต่าง ๆ ในจังหวัด ซึ่งหลายงานที่ผ่านมาต่างประสบความสำเร็จ เช่น
“งานวิ่งอยุธยามาราธอน 2024” ที่มีผู้เข้าร่วม 3,300 คน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา มุ่งเน้นให้กีฬากลายเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาสัมผัสเสน่ห์และเอกลักษณ์ของจังหวัด ผ่านบรรยากาศการแข่งขันที่งดงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ สร้างเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
“เทศกาลขนหัวลุก เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านเรื่องเล่าขนลุกและความเชื่อท้องถิ่น มีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกว่า 2000,000 คน เป็นชาวต่างชาติกว่า 8,000 คน ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ จัดงานท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเช่นนี้” จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัด สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจน
นายเรียงทองบาทกล่าวต่อว่า ในวันที่ 9 – 17 พฤศจิกายนนี้ จะมีจัดกิจกรรม “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” (วัดพระราม วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดไชยวัฒนาราม พระราชวังจันทรเกษม) โดยกรมศิลปากรกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวร่วมจัดโปรโมชั่นที่พัก ร้านอาหารและกิจกรรม สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานตลอดทั้งวัน เพราะเชื่อว่ามีคนไทยที่อยากมาเที่ยววัดตอนกลางคืนอีกเยอะมาก
โดยกิจกรรมเทศกาลท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืน มีการแสดงมากมายตลอด 9 คืน ทั้งการฉายหนังใหญ่ รำไทย ฟันดาบ นอกจากนี้ยังมีพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ จันทร์วันเพ็ญ ที่จะเกิดขึ้นในวันลอยกระทง ณ วัดมหาธาตุ, การประกวดแมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 300,000 คน รายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
และในวันที่ 13 – 22 ธันวาคม จะมีงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี พ.ศ. 2567 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ของจังหวัด ภายในงานมีการแสดงย้อนยุค การแสดง แสง สี เสียง งานกาชาด ร้านอาหารชื่อดังประจำอำเภอ ในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมงานกว่า 812,744 คน สร้างเม็ดเงินได้กว่า 100 ล้านบาท
นายเรียงทองบาทกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาเราได้รับฟีดแบ็กให้ปีหน้าจัดงานอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานวิ่งอยุธยามาราธอน 2024, เทศกาลขนหัวลุก เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา รวมถึงงานที่เราจัดสม่ำเสมอทุกปี เช่น 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ และงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ขณะนี้ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวได้พยายามเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจน