“ตราด” ชงอนุทินเปิด “ด่านท่าเส้นค้ากัมพูชา”

ตราดยื่น “รองนายกฯอนุทิน” ขอเปิดค้าชายแดน “ด่านท่าเส้น” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชาวบ้านได้ถึง 400-500 ล้านบาท/ปี หวั่นสินค้าจีน เวียดนามรุกทำตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย

นายพิพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตัวแทนของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน คือ สภาอุตสาหกรรม จ.ตราด หอการค้า จ.ตราด และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ตราด ได้มีการยื่นหนังสือให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

เรื่องขอให้มีการเปิดด่านบ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด จ.ตราด ที่ปิดไปตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ให้กลับมาติดต่อ ค้าขายกับชาวกัมพูชา บริเวณ ต.ทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ได้เหมือนเดิม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทาง จ.ตราดได้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์ไปยังกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 แต่ทางกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งกลับว่า ไม่สามารถทำได้เนื่องจากขัดมติ ครม.วันที่ 26 มกราคม 2559 กรณีเรื่องความมั่นคง ทำให้การค้าขายตลาดริมชายแดนระหว่าง 2 จังหวัดนี้ต้องระงับ จากที่ก่อนช่วงโควิด-19 ได้ทำมาค้าขายกันมานานนับ 10 ปี

จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย แม้ว่ามูลค่าการค้าไม่มากนัก แต่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ทั้งอาหารทะเล ของกิน ของใช้ และในอนาคตตลาดสินค้าไทยอาจจะสูญเสียให้สินค้าจีน เวียดนามที่กำลังรุกทำตลาดกัมพูชา

“มติที่ประชุม กรอ.ตราดวันที่ 11 ตุลาคม 2566 เห็นชอบ 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1) ให้ยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านมะม่วง อ.บ่อไร่ จ.ตราดเป็นจุดผ่านแดนถาวร และ 2) ให้ยกระดับช่องทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น อ.เมืองตราด จ.ตราด เป็นจุดผ่อนปรนพิเศษ แต่ยังมีปัญหาเรื่องการรุกล้ำเขตแดนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงขอให้มีการกลับมาค้าขายเหมือนเดิมไปก่อนในระหว่างที่รอการยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพิเศษ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และควรให้มีการขนส่งสินค้าได้ตามเดิม

โดยใช้ประกาศกรมศุลกากรที่ 32/2561 เรื่องการส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 86 วรรคสอง ก่อนหน้านี้ที่มีสถานการณ์โควิด-19 ได้ดำเนินการมาแล้วเป็น 10 ปี แต่ต้องมาหยุดลงเพราะโควิด-19 ด้วยเช่นกัน เข้าใจดีว่าการยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพิเศษเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนในกรณีความมั่นคงของชาติ แต่ขอเพียงให้มีการกลับมาค้าขายเหมือนเดิมและให้ส่งออกสินค้าได้” นายพิพัฒน์กล่าวย้ำ

ทางด้าน ทพญ.วิภา สุเนตร ประธานหอการค้า จ.ตราด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” เพิ่มเติมว่า การจะยกระดับบ้านท่าเส้น อ.เมืองตราด จ.ตราด เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า หรือจุดผ่านแดนถาวรเป็นเรื่องยากและต้องใช้ระยะเวลานาน หอการค้าจังหวัดตราดจึงได้เสนอให้เป็นจุดผ่อนปรนพิเศษเช่นเดียวกับด่านสิงขร ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หอการค้าจังหวัดตราดได้พยายามผลักดันมาโดยตลอด ตามลำดับขั้นตอนหลายช่องทาง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

“ระหว่างที่รออนุมัติเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษ ขอให้ผ่อนปรนให้เปิดด่านท่าเส้นเหมือนเดิม เพราะ จ.โพธิสัตว์ กัมพูชามีความต้องการสินค้าไทยมาก”

ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรม จ.ตราด ที่ผ่านมาก่อนโควิด-19 ช่องทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น อ.เมืองตราด จ.ตราด ติดต่อกับชายแดน บ้านทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ มีประชากรมากกว่า 3,000 คน (อ.เวียลเวง 57,523 คน) มูลค่าการค้า 400-500 ล้านบาท/ปี หรือประมาณ 700,000-1,500,000 บาท/สัปดาห์ มีชาวกัมพูชาเข้า-ออกซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค 9,600-15,000 บาท/คน/เดือน