คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : กฤษณา ไพฑูรย์
ปัจจุบันความสนใจใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทยในการรักษาโรคได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566) มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2562 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 1,303 ราย ทุน 2,178.55 ล้านบาท
ปี 2566 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 2,534 ราย ทุน 5,855.62 ล้านบาท และ 7 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กรกฎาคม) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 1,452 ราย ทุน 3,128 ล้านบาท
ตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยในปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 56.94 พันล้านบาท สำหรับมูลค่าการส่งออกปี 2566 พืชสมุนไพร มีมูลค่า 483.73 ล้านบาท และสารสกัดสมุนไพร มีมูลค่า 382.16 ล้านบาท
ที่สำคัญมีชาวต่างชาติที่เห็นคุณค่าของสมุนไพรไทย และโอกาสที่จะทำกำไร จึงเข้ามาร่วมลงทุนกับคนไทย ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ คือ กลุ่มเพาะปลูก ระดับกลางน้ำกลุ่มผลิตแปรรูป
และระดับปลายน้ำ กลุ่มขายปลีก/ขายส่ง คิดเป็นมูลค่าที่ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนทั้งสิ้น 38,707.25 ล้านบาท หรือ 26.23% ของการลงทุนทั้งธุรกิจสมุนไพร
โดยชาวต่างชาติที่ลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อเมริกา 11,809.12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30.51% ญี่ปุ่น 5,082.04 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.13% สิงคโปร์ 3,274.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.46% และอื่น ๆ 18,541.36 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.90%
ขณะที่ผู้ประกอบการไทยมีเม็ดเงินลงทุน 108,873.59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73.77% โดยเฉพาะกลุ่มขายปลีก/ขายส่งสมุนไพรที่มีผู้เล่นในตลาดสูงสุด 15,060 ราย
รองลงมา กลุ่มผลิต/แปรรูป 1,778 ราย และกลุ่มเพาะปลูก 1,504 ราย มูลค่าตลาดรวมปี 2566 แตะ 8.72 แสนล้านบาท กำไรรวม 2.75 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก 17,224 ราย หรือ 93.90%
ธุรกิจสมุนไพรจึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการรายเล็กของไทยสามารถเข้าแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาด และมีโอกาสทำกำไรได้มาก
ด้านกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เองเดินหน้าเต็มที่ โดยดำเนินการจัดตั้ง “โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน” ครอบคลุมการให้บริการประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ จำนวน 10 แห่ง
โดยมีบริการตรวจรักษา ส่งเสริม ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพด้วยการนวด อบ ประคบ ฝังเข็มและยาสมุนไพร 97 รายการ
มีคลินิกเฉพาะทางโรคเรื้อรัง 5 กลุ่มโรค/อาการ ได้แก่ 1.อาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับ 2.คลินิกอัมพฤกษ์ อัมพาต 3.คลินิกสะเก็ดเงิน 4.คลินิกมารดาหลังคลอด และ 5.คลินิกบำบัดยาเสพติดด้วยสมุนไพร
ที่สำคัญ สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย
ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสอันดีของคนไทยที่จะหันมาสนใจศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ซึ่งมีช่องทางในการประกอบอาชีพได้มากมาย หรือจะหันมารักษาตัวเองด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย ก่อนที่ต่างชาติจะฮุบเอาสมุนไพรดี ๆ ของไทยไปจดลิขสิทธิ์อย่าง “เปล้าน้อยและกวาวเครือ” อีก