
คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ
ปทุมธานี หนึ่งในจังหวัดที่รองรับการขยายตัวต่อกรุงเทพมหานคร ด้วยสถิติการย้ายเข้า-ออกในจังหวัดติดอันดับ 4 ของประเทศ ส่งผลต่อการวางโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน รองรับไม่ทัน “ประชาชาติธุรกิจ”สัมภาษณ์ “พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.)” ถึงปัญหาและแนวทางการพัฒนาจังหวัดในอนาคต
ขอรัฐโอนอำนาจให้ท้องถิ่น
ปัญหาจราจรเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของจังหวัด ซึ่งไม่มีแนวทางอื่นแก้ไขแล้ว เนื่องจากบริเวณคลอง มีหมู่บ้านจัดสรรใหม่จำนวนมาก แต่ละบ้านมีรถยนต์ ทำให้ปริมาณรถล้นเมือง ขนส่งมวลชนระบบรางไม่สามารถทำได้ แม้ทาง อบจ.ปทุมธานี พยายามประสานทุกหน่วยงาน หากโอนมาให้ท้องถิ่นดูแลได้ จะเกิดประโยชน์แล้วแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดกว่า การอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนก็จะรวดเร็ว
อย่างเทศบาลนครรังสิต เป็นจุดใหญ่ที่มีปัญหามาก จำเป็นต้องประสานกับพื้นที่อื่นด้วย ถ้าหากมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายการเมืองในปทุมธานี ใครมาเป็นนายก ไม่เอาด้วยก็จบ นี่คือสิ่งจำเป็นที่ผมต้องเอาลูกชาย (ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง) มาลงเป็นนายกเทศมนตรีนครรังสิต
ผมเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้เร็ว โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่คุมท้องถิ่น ทำอะไรต้องขออนุญาตและคอยรายงาน แต่ปัญหาของประชาชน ใครจะรู้ไปมากกว่าเรา เพราะข้าราชการมาเดี๋ยวก็ย้าย แต่เรามาจากประชาชน ถ้าเราทำไม่ดี ประชาชนก็ไม่เลือก ต้องให้อำนาจท้องถิ่นลักษณะ “เขตปกครองพิเศษ” ให้นายกมาจากการเลือกตั้ง อย่างผมมาจากการเลือกตั้งจริง แต่ไม่มีอำนาจไปสั่งหน่วยงานอื่น
อย่างไฟดับทั้งเมือง แขวงการทางขึ้นกับหน่วยงานกรมทางหลวง ทางหลวงชนบทก็ขึ้นตรงกับกรมทางหลวงชนบท ประชาชนอาจคิดว่า ไฟดับเป็นหน้าที่ อบจ. ทำไม อบจ.ไม่แก้ปัญหา เราทำได้เพียงประสานงานเพราะไม่มีอำนาจ แล้วหน่วยงานกลางก็ไม่ยอมมอบอำนาจมาให้ หากทำหนังสือมอบอำนาจมาให้ เดี๋ยวผมแก้ปัญหาเอง เช่น ไฟฟ้าทั้งหมด มาทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ให้ชัดเจน ให้ อบจ.เข้ามาดำเนินการ ผมพร้อม จะทำให้ทั้งปทุมธานีสว่างให้ได้ แต่มันติดปัญหาตรงนี้
ส่วนถนนรังสิต-นครนายก บริเวณคลอง 3 มีงานขุดท่อเป็นประจำ ไม่รู้หน่วยงานไหน ประปา ไฟฟ้า ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ต่างหน่วยงานได้งบประมาณไม่ตรงกัน เดี๋ยวหน่วยงานนี้ขุด หน่วยงานนี้ทำ ชี้ให้เห็นว่า รัฐต้องให้อำนาจท้องถิ่นบริหารจัดการ ก็ขุดกันทั้งปี
คนกรุงเทพฯใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปาจากสถานีสูบน้ำดิบสำแล ปทุมธานี แต่คนปทุมฯใช้น้ำบาดาล น้ำประปาราคาแพง นี่คือความไม่ยุติธรรม เราพยายามรณรงค์ เป็นไปได้มั้ย ถ้างบฯไม่มี อบจ.ทำน้ำประปาขายราคาถูกให้คนปทุมฯมั้ย แต่อย่ามากั๊ก ขัดขวางกัน
ยกตัวอย่าง บริเวณพื้นที่ อ.หนองเสือ ยังใช้น้ำบาดาลที่ขุดเจาะเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ด้านล่างเป็นสนิม ท่อด้านล่างแตกหมด แล้วต้องขุดใหม่ บางครั้งต้องแก้ปัญหาเร่งด่วน ประสานไปก็ติดขัด ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และการประปานครหลวง (กปน.)
รื้อผังสีพัฒนาศักยภาพเมือง
ปทุมธานียังติดปัญหาเรื่องผังเมืองที่ระบายสีต่าง ๆ ไว้ตั้งแต่ในอดีต และไม่ได้ถูกแก้ไขเพื่อรองรับบริบทของเมืองปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี และหอการค้าจังหวัดปทุมธานี มาประชุมร่วมกันเพื่อประสานงานไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยให้ อบจ.เป็นแม่งานจัดทำแผนแม่บทเกี่ยวกับทิศทางการเติบโตของจังหวัด
ปัจจุบันในอำเภอลาดหลุมแก้วมีโรงงานอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรม (สีเขียว) และมีพื้นที่อุตสาหกรรม (สีม่วง) เพียงบางส่วนเท่านั้น ต้องขอขยายพื้นที่สีม่วงให้อุตสาหกรรมขยายได้ ต้องดีไซน์ผังเมืองให้เป็นระบบ เพราะ อบจ.ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะไปสั่งการได้
นอกจากนี้ สิ่งที่ตั้งใจไว้ คือการพัฒนาพื้นที่ อ.สามโคก ให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ เนื่องจากเป็นเมืองแห่งขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ไม่ควรเอาโรงงานเข้าไปตั้ง ส่วนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องอนุรักษ์ไว้จัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะเราไม่มีภูเขา ทะเล น้ำตก ดังนั้นธรรมชาติจะช่วยเรา
ขณะที่ อ.หนองเสือ ต้องการให้เป็นเมืองแห่งเกษตรกรรม ต้องมีตลาดเกษตรกรของ อบจ. ให้ประชาชนนำสินค้ามาขายโดยไม่ต้องเก็บค่าที่ ในอนาคตทุกคนสามารถมาซื้อ-ขายสินค้าราคาถูกได้ที่นี่
ปัญหาจราจรถือเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของจังหวัดปทุมธานี ตอนนี้เดินมาถึงจุดวิกฤต เนื่องจากบริเวณคลองมีหมู่บ้านจัดสรรใหม่จำนวนมาก แต่ละบ้านมีรถยนต์ ทำให้ปริมาณรถล้นเมือง การก่อสร้างโครงการ “รถไฟฟ้าโมโนเรล” (Monorail System) จะเปลี่ยนเมืองปทุม ช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัดได้
โดยโครงการระยะที่ 1 จะทำเชื่อมจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ไปสวนสัตว์แห่งใหม่ บนที่ดินพระราชทาน 300 ไร่ บริเวณคลองหก อ.ธัญบุรี ที่จะเปิดดำเนินการปี 2571 ซึ่งต้องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เอกชนมาร่วมลงทุน 100% เพราะศักยภาพของ อบจ.คงทำไม่ได้ มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท ให้เอกชนร่วมลงทุน 100% ต้องเร่งเสนอ ครม. อย่างน้อยให้เสร็จทันสวนสัตว์คลองหกเปิดปี 2571
ชูแม่น้ำเจ้าพระยาจุดขายใหม่
ทำเลของจังหวัดปทุมธานี 2 ฝั่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ที่ผ่านมาพยายามใช้เป็นจุดขายในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น มีการจัดการแข่งขันเรือยาว มีการจัดตกแต่งทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำให้สวยงาม
ใครนึกถึงปทุมฯแล้วต้องมากินอาหารมอญ มาดูประเพณี มาล่องเรือไหว้พระ 9 วัด ริมน้ำเจ้าพระยา แต่เดี๋ยวนี้ ถ้าพูดถึงไปไหว้พระ 9 วัด ก็จะนึกถึงพระนครศรีอยุธยา ทำให้จังหวัดปทุมธานีเป็นเพียงเมืองผ่าน ต่อไปคนต่างจังหวัดที่จะผ่านเข้ากรุงเทพฯ ต้องแวะเที่ยวพักผ่อนที่ปทุมธานีก่อน
แต่ตอนนี้แลนด์มาร์กของปทุมธานียังไม่มี หากเอ่ยชื่อปทุมธานีไป คนนึกถึงฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต มันไม่ใช่อัตลักษณ์ ต้องสร้างขึ้นมาให้ได้ เช่น ปทุมธานีเป็นเมืองเกษตรกร เราเอาจุดขายของเกษตรกร และสินค้าโอท็อปที่มีหลายอย่างต้องโปรโมตขึ้นมา
ยกตัวอย่าง อบจ.จะทำ MOU ร่วมแล้วเช่าพื้นที่วัด เช่น วัดสองพี่น้อง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อาจสร้างให้เป็นตลาดน้ำ ด้านบนเป็นโดมใหญ่ ๆ ให้คนมาท่องเที่ยว ให้พี่น้องชาวสามโคกมีอาชีพ
บริหารจัดการน้ำท่วม
ช่วงฤดูฝนของทุกปี คนปทุมธานีจะผวาว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ มีปัญหาเกี่ยวกับฤดูน้ำหลาก ปีนี้รอดน้ำท่วม เพราะได้มีการวางแผนป้องกันล่วงหน้า ไปประสานงานกับจังหวัดต้นน้ำ เพราะพื้นที่ใต้ลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ ตั้งแต่นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ รวมทั้งหมด 25 จังหวัด ผมจะเป็นตัวกลางในการประสานงาน ในฐานะประธานสมาพันธ์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคกลาง เราจะมีการคุยกับพื้นที่อื่นอยู่เสมอ
คลองมีผักตบชวาเต็มไปหมด หน้าร้อนก็เอาแบ็กโฮไปขุดเปิดทางให้ชาวบ้านสูบน้ำเข้าสวนผัก ขุดลอกคลอง 14 พอน้ำมาจากเขื่อนป่าสักฯ จากนั้นจะเข้าคลองระพีพัฒน์ แล้วก็ไหลมา ไม่มีสิ่งกีดขวาง
ดันเป็นเขตนวัตกรรมมูลค่าสูง
อยากผลักดันให้จังหวัดปทุมธานีกลายเป็น “เขตนวัตกรรมมูลค่าสูง” ขณะนี้ก็มีการหารือร่วมกับทีมกฎบัตรไทยให้มาศึกษา โดยที่ผ่านมามีการหารือร่วมกับประธานสภาองค์กรบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี, ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี มองว่า หากการจัดตั้งเขตนวัตกรรมมูลค่าสูง เป็นประโยชน์ต่อระบบผังเมือง เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
แต่รังสิต คลองหลวง คูคต ก็แน่นแล้ว จึงอยากให้พัฒนาเข้ามาฝั่ง อ.เมือง เพราะพื้นที่นี้ไม่มีจุดขาย อย่างนี้เราต้องบูม เพื่อให้คนเข้ามาท่องเที่ยว
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จำนวนประชากรจริง 1.2 ล้านคน ประชากรแฝงก็มี 1.2 ล้านคน ด้วยสถิติการย้ายเข้า-ออกในจังหวัดปทุมธานี อยู่อันดับที่ 4 ของประเทศ รองจาก กรุงเทพฯ ชลบุรี นครราชสีมา (โคราช) จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองแน่น โดยปัญหาของปทุมธานีขณะนี้ คือ เมืองเจริญเร็ว หมู่บ้านจัดสรรเป็นพันเป็นหมื่นหมู่บ้าน
ในเมื่อเมืองมีความเจริญเข้ามาเร็ว ผมจะไม่ยอมให้ความเจริญทำให้ชีวิตของชาวปทุมฯ เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี ไม่ได้ เรามีหลายสิ่งพร้อมที่จะให้ทุกคนร่วมระดมความคิดพัฒนาได้