ชาวกาญจน์ดีเดย์ 19 มิ.ย. เตรียมประกาศทวงคืน “โรงงานกระดาษแห่งแรกของไทย”

นายวิชาญ อุ่นอก ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานภูมิเมืองกาญจน์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า คณะทำงานภูมิเมืองกาญจน์ได้จัดเวทีรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อรับฟังข้อเสนอภาคประชาชน ต่อการจัดการและใช้ประโยชน์ในพื้นที่โรงานกระดาษ หลังหมดอายุสัมปทาน โดยมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 160 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากชุมชนในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี 26 ชุมชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป โดยที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า ภาคประชาชนเห็นด้วยกับการยุติต่อสัญญาเช่าพื้นที่โรงงานกระดาษให้เอกชน และร่วมวางแผนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โรงานกระดาษด้วยกัน

สำหรับคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่นั้น เป็นเขตเมืองเก่าของกาญจนบุรี ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เป็นโรงงานกระดาษแห่งแรกของไทย เคยเป็นที่พิมพ์ธนบัตรสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ใจกลางเมืองกาญจนบุรี เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาอุตสาหกรรมในไทย ถูกสร้างโดยพระยาโนปกรณ์นิติธาดา เคยเป็นเมืองหน้าด่าน มีกำแพงเมือง คอยรับศึกษาจากพม่า เป็นความภูมิใจของคนเมืองกาญจน์ เคยเป็นสถานที่ผลิตกระดาษให้กับประเทศไทย เป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันตก และเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และผูกพันกับชาวกาญจนบุรีมายาวนาน

โดยประชาชนอยากพื้นที่โรงงานกระดาษ เป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดกลางเมืองของคนเมืองกาญจน์ เป็นสวนสาธารณะ เป็นพิพิธภัณฑ์เมือง แหล่งรวบรวม ความรู้ และภูมิปัญญาของชาวเมืองกาญจน์ เป็นห้องเรียนธรรมชาติของทุกๆ คน เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต (มีการผลิตกระดาษจริงๆ เพื่อสาธิต) เป็นห้องเรียนที่โรงเรียนทุกโรงเรียนใน จ.กาญจนบุรี ต้องพาเด็กมาเรียน เป็นลานวัฒนธรรมกลางเมือง เป็นสวนสมุนไพร ห้องประชุม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านโอท็อป ลานกีฬา สวนหย่อม สวนดอกไม้ สระน้ำ ลู่วิ่ง ลู่จักรยาน จุดบริการนักท่องเที่ยว พิพิธภัณท์รวบรวมโบราณวัตถุต่างๆ ในกาญจนบุรี ตลาดย้อนยุค ลานกิจกรรมไว้แสดงงานต่างๆ เป็นแหล่งอนุรักษ์เมืองเก่า เมืองโบราณ และอยากให้มีการฟื้นฟูกำแพงเมืองให้สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังอยากให้ขึ้นทะเบียนให้อาคารต่างๆ ในโรงงานเป็นโบราณสถาน และพัฒนาให้สมบูรณ์เพื่ออนุรักษ์ต่อไป

และในช่วงท้าย ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมได้กำหนดแผนงานและจังหวะก้าว ในการร่วมกันผลักดันในเรื่องนี้ คือ 1.การเดินรณรงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนใน จ.กาญจนบุรี และการยื่นข้อเสนอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดในวันที่ 19 มิถุนายน 2561 นี้ โดยจะนัดรวมพลกันที่หน้าศาลหลักเมือง ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และเดินรณรงค์รอบตัวเมืองกาญจนบุรี 2.การจัดเวทีสาธารณะหน้าโรงาน ในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 โดยจะเชิญผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดมาร่วมกันถกเพื่อหาทางออก ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรมธนารักษ์ เจ้าของโรงงาน กรมศิลปกร นักวิชาการ ตัวแทนภาคประชาชน

ขณะที่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ที่บริเวณลานข้างต้นจามจุรียักษ์ ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี นายสำรวย ต่ายแพร กำนันตำบลเกาะสำโรง นำลูกบ้านตำบลเกาะสำโรงกว่า 200 คน ร่วมลงชื่อเพื่อขอคืนพื้นที่โรงงานกระดาษจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายศรนรินทร์ ทินบุตร ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี ผู้แทนจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นผู้รับมอบรายชื่อของชาวบ้านที่ร่วมลงชื่อขอคืนพื้นที่โรงงานกระดาษ

สำหรับโรงงานกระดาษแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 69 ไร่ และมีอาคารที่เป็นที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมไปถึงกำแพงเมืองเก่า ซึ่งก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยชาวบ้านส่วนใหญ่อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยจัดการดูแล เพื่ออนุรักษ์โบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาเป็นไปของโรงงานกระดาษแห่งนี้ แต่เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการเอกชนยังดำเนินกิจการอยู่ ดังนั้นชาวบ้านเกาะสำโรง ซึ่งบางคนเคยทำงานที่โรงงานแห่งนี้ อยากจะให้โรงงานกระดาษแห่งนี้เป็นสมบัติของชาติและคนเมืองกาญจน์ต่อไป

โดยนายสำรวย ต่ายแพร กำนันตำบลเกาะสำโรง เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้ร่วมกันลงชื่อขอคืนพื้นที่โรงงานกระดาษ เพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะของทุกคน โดยอยากขอเก็บรักษาพื้นที่นี้ไว้เพื่อให้ลูกหลาน เพื่อจะให้เป็นปอดแห่งใหม่เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่สีเขียวของกาญจนบุรี รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตของจังหวัดกาญจนบุรี