
กรมศิลปากรเดินหน้าสนับสนุนสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา เชิญผู้เชี่ยวชาญจากยูเนสโก แนะนำไม่ให้กระทบพื้นที่มรดกโลกของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ อาคารนิทรรศการเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว พร้อม Mr.Michael Pearson และ Mr.Gamini Wijesuriya คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ในการลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงสถานีอยุธยา โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ตัวแทนบริษัทก่อสร้าง ผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางราง ตลอดจนคณะทำงาน ร่วมหารือในครั้งนี้ จากนั้นคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ได้ลงพื้นที่สถานีรถไฟอยุธยา เพื่อรับทราบข้อมูลจากพื้นที่จริง ก่อนจะนำข้อมูลส่งไปยังคณะกรรมการมรดกโลกต่อไป
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรสนับสนุนการจัดสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงช่วงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้ส่งผล HIA ไปยังคณะกรรมการมรดกโลกเรียบร้อย ซึ่งกรมศิลปากรมีความต้องการให้สร้างสถานีรถไฟความเร็วสูง โดยต้องไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่มรดกโลก จึงได้เชิญคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลกมาให้คำแนะนำ โดยทางคณะได้แนะนำเบื้องต้นจำนวน 2 ข้อ ได้แก่
1.การก่อสร้างจะปรับลดความสูงของสถานี การปรับปรุงหลังคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และต้องปลอดภัยกับพื้นที่รอบข้าง
2.ต้องไม่ดำเนินการก่อสร้างทับสถานีเดิม ซึ่งเป็นสถานีเก่าแก่ โดยทางกรมศิลปากรประสานทีมบริษัทก่อสร้างให้ดำเนินการปรับแบบตามคำแนะนำของคณะกรรมการ โดยทางกรมศิลปากรได้ยื่นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับคณะกรรม ถึงแนวการปฏิบัติที่จะเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงช่วงสถานีอยุธยา โดยระหว่างการก่อสร้างจะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านโบราณคดีมาร่วมตรวจสอบพื้นที่ในระหว่างก่อสร้าง ให้เป็นไปตามหลักวิชาการและหลักสากล
และหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีการประกาศพื้นที่ควบคุมโบราณสถานเพิ่มเติม โดยกรมศิลปากรยืนยันจะปกป้องมรดกโลกแห่งนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด ควบคู่กับการพัฒนาเมืองให้มีความเจริญควบคู่กันไป และหวังว่าประชาชนจะได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอยู่ร่วมกับมรดกโลกได้โดยไม่ทำลายโบราณสถานที่มีความเป็นมรดกโลก ไม่ว่าโบราณสถานนั้นจะเป็นมรดกโลกหรือไม่ก็ตาม และหวังว่าทางรถไฟนี้จะสร้างได้ โดยอยุธยายังคงเป็นมรดกโลกอยู่ตลอดไป
โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นสายแรกที่เริ่มดำเนินการ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อไปยังลาวและจีนได้ ซึ่งจะส่งผลการคมนาคมมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เชื่อมโยงภูมิภาค และกระจายความเจริญไปยังภาคอื่น ๆ ของประเทศ
โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ฝ่ายไทยเป็นผู้ลงทุนโครงการทั้งหมด และดำเนินการก่อสร้างงานโยธา โดยใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างและระบบรถไฟของจีน ซึ่งได้ทำพิธีเริ่มการก่อสร้างโครงการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 วงเงินงบประมาณ 179,412.21 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2570 ผลตอบแทนเศรษฐกิจ 11.68%
ระยะทางทั้งสิ้น 250.77 กิโลเมตร จำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย 1.สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.สถานีดอนเมือง 3.สถานีอยุธยา 4.สถานีสระบุรี 5.สถานีปากช่อง 6.สถานีนครราชสีมา และมีศูนย์ควบคุม 1 แห่งที่เชียงรากน้อย และศูนย์ซ่อมบำรุง 3 แห่ง ได้แก่ เชียงรากน้อย สระบุรี และโคกสะอาด รูปแบบการให้บริการ ใช้รถไฟรุ่น ฟูชิงท้าว CR300 จำนวน 8 ขบวน (บริการ 6 ขบวน สำรอง 2 ขบวน)
64 ตู้ 1 ขบวนมี 8 ตู้ มีจำนวนที่นั่ง 594 ที่นั่ง ต่อขบวน ประกอบด้วย First class จำนวน 96 ที่นั่ง และ Second Class จำนวน 498 ที่นั่ง เวลาให้บริการ 06.00-22.00 น. ออกทุก ๆ 90 นาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ราคาเรียงตามสถานีดังนี้ ดอนเมือง 105 บาท อยุธยา 195 บาท สระบุรี 278 บาท ปากช่อง 393 บาท นครราชสีมา 535 บาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที