“คิวมินซี” รุกนิชมาร์เก็ต ชี้อากาศเปลี่ยน กระทบแหล่งวัตถุดิบ

QminC

การเป็น SMEs หน้าใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ความยากอยู่ตรงที่ไม่สามารถผลิตสินค้าจำนวนมากได้ เพราะไม่มีตลาดรองรับ ไม่สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบปริมาณมาก เพื่อให้ราคาถูก หรือไม่สามารถผลิตสินค้าปริมาณมากได้ แต่สิ่งที่ SMEs ทำได้ คือ สินค้าคุณภาพดี-บรรจุภัณฑ์ดี-รสชาติที่ดี ผมเชื่อว่า 3 สิ่งนี้ จะทำให้ SMEs สามารถเติบโตได้ในอนาคต”

“ท๊อป” ฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ ประธานกรรมการ บริษัท เทรา ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ คิวมินซี (QminC) ผู้ประกอบการ SMEs สัญชาติไทย เปิดฉากสนทนาในฐานะผู้บุกเบิกเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เมื่อได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานผลิต บนพื้นที่ 15 ไร่ ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา

ฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ
ฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ

จากแป้งมันสู่เครื่องดื่ม

คุณท๊อปเล่าว่า ก่อนมาทำธุรกิจเครื่องดื่มสมุนไพร เริ่มต้นทำโรงงานแป้งมัน แต่เมื่อกระแสคนรักสุขภาพบูม และผมเป็นคนรักสุขภาพมาก ๆ เมื่อได้ไปต่างประเทศ พบว่าทั้งคนในยุโรปและเอเชีย นิยมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และมองเห็นว่าอนาคตเทรนด์รักสุขภาพต้องมาแน่ ๆ จึงเกิดแรงผลักดันต้องการผลิตสินค้าสุขภาพที่ดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับคนไทย

โดยเริ่มพัฒนาสูตรเครื่องดื่มจากสมุนไพรสกัดกว่า 2 ปี ก่อนก่อตั้งแบรนด์ “คิวมินซี” ในปี 2018 และตั้งโรงงานเมื่อปี 2019 ด้วยเงินลงทุนกว่า 70 ล้านบาท จนสามารถวางขายในร้านเซเว่นฯได้สำเร็จเมื่อปี 2020 ด้วย “เครื่องดื่มขมิ้นชันสกัดผสมเลมอน” โดยได้นำเข้านวัตกรรมจากญี่ปุ่นมาสกัดสารในขมิ้นชันให้มีอนุภาคเล็กลงในระดับนาโน ทำให้ร่างกายดูดซึมสารได้ดียิ่งขึ้นกว่าขมิ้นชันที่ทำเป็นผงทั่วไป และมีไลโปโซม (Liposome) มาช่วยเคลือบทำให้กลบกลิ่นของขมิ้นชันให้หมดไป

QminC

“ขมิ้นชันสกัดผสมเลมอน” ช่วงแรกได้รับผลตอบรับดีมาก ต้องใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 1 ล้านขวดต่อเดือน จากนั้นออกเครื่องดื่มขิงสกัด กระชายขาวสกัด ตามมาในเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบ

ADVERTISMENT

ล่าสุดได้พัฒนาเป็นสูตร “สมูทตี้ โพรไบโอติก” สายพันธุ์ Bacillus Coagulans GBI-30 มีงานวิจัยรองรับ ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ดีต่อระบบลำไส้ โดยคิวมินซีสมูทตี้โพรไบโอติก แอปเปิ้ลออร์แกนิควีทกราส, คิวมินซีสมูทตี้โพรไบโอติก สตรอเบอร์รี่บีทรูท, คิวมินซี น้ำส้มสายน้ำผึ้ง 100% เต็มไปด้วยกากใยอาหารหรือไฟเบอร์ ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงท้องไม่ผูก

“เรานำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ 60% และใช้ของเกษตรกรไทย 40% จริง ๆ ผมเห็นโอกาสหลายอย่างสำหรับเกษตรกรบ้านเรา สมัยก่อนอาจแปรรูปได้ไม่หลากหลาย เพราะผลไม้มีอายุการเก็บรักษาสั้น แต่ถ้าแปรรูปจะเก็บไว้ได้นาน เช่น กล้วย เป็นส่วนผสมหลักของสมูทตี้ แต่กล้วย 1 หวี จะมีความสุกไม่เท่ากัน เวลาเรารับวัตถุดิบเข้ามาจึงต้องตรวจเช็กให้มั่นใจว่ารสชาติจะไม่เพี้ยน วันนี้ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพโตขึ้น ทำให้มีดีมานด์ของสินค้าเกษตรได้มากขึ้น

ADVERTISMENT

ผมว่าการทำของกินสำคัญมาก ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม หลักการคือ ต้องอร่อยก่อน จะบอกว่ากินแล้ววิเศษขนาดไหน ถ้าไม่อร่อย คนก็ไม่กลืน”

QminC

ยอดบูม 300 ล้านบาท/ปี

ช่วงโควิดปี 2019 ผู้บริโภคเริ่มหาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน ผลลัพธ์กลับขายดีเกินคาด โดยเฉพาะ 3 เดือนแรก ยอดขาย 800,000-1,000,000 ขวด/เดือน จนเข้าสู่ปีที่ 2 ยอดผลิตอยู่ที่ 2,000,000 ขวด/เดือน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท แต่หลังจบช่วงโควิดยอดขายลดลงมาประมาณ 30% แต่สิ่งที่ยังคงเติบโตได้ดีขึ้น คือ คุณภาพของสินค้า

ที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้มาจากตลาดภายในประเทศกว่า 95% ปีแรกยอดขายรวมกว่า 200 ล้านบาท ปีถัดไปเพิ่มขึ้นเป็น 240 ล้านบาท จนถึง 300 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จากต่างประเทศจะมีเพียง 5% แต่มีโอกาสเติบโตต่อไปได้ เพราะคิวมินซีมีการเติบโตเฉลี่ย 5-10% ทุกปี

QminC

หากพูดถึงไลฟ์สไตล์ของคนไทยและต่างประเทศมีความใกล้เคียงกันมาก พบว่าคนไทยให้ความสำคัญในเรื่อง “คุณภาพและความอร่อย” ในต่างประเทศให้ความสำคัญในเรื่อง “วัตถุดิบ” เราพบว่าพืชสมุนไพรและผลไม้มีอยู่ทั่วโลก หาง่าย แปรรูปง่าย จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการขยายตลาดสู่ตลาดต่างประเทศ

2 ปีที่ผ่านมา ขยายไปแล้วกว่า 10 ประเทศ ครอบคลุมทั้งโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป โดยเฉพาะตะวันออกกลาง คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาบูดาบี กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย คาดว่าจะเติบโตได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ “เครื่องดื่มสูตรขมิ้นชันสกัด” เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนกลุ่มตลาดที่มีความยากมากขึ้น คือ ประเทศจีน เนื่องจากรัฐบาลมีการตรวจสอบสินค้าที่เข้มข้นมากขึ้น

เปิด 3 กลยุทธ์มัดใจลูกค้า

สิ่งที่จะมัดใจลูกค้า คือ 1.วัตถุดิบจากธรรมชาติ โปร่งใส ตรวจสอบได้ 2.รสชาติอร่อย ไม่ใส่สารกันบูด ดื่มแล้วปลอดภัย ดังนั้นในปี 2021 ได้นำเข้าเครื่องจักรจากประเทศเยอรมนี มูลค่า 200 ล้านบาท มาใช้ในกระบวนการผลิต มีกระบวนการฆ่าเชื้อที่ดี โดยไม่ต้องใส่สารกันบูดในผลิตภัณฑ์ 3.สินค้าดี มีคุณภาพ ลูกค้าซื้อซ้ำและบอกต่อ ที่สำคัญ สินค้าหาซื้อง่าย

สินค้า 1 ตัว ต้องดีทั้งรสชาติ วัตถุดิบ แต่แพ็กเกจจิ้ง การสวมฝา การใส่ฉลาก ต้องแม่นยำ ที่สำคัญมีการออกรสชาติใหม่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์

QminC

“หัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของ คิวมินซี คือ การส่งต่อสิ่งดี ๆ เพื่อสุขภาพ ปลอดภัย จากวัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพเสมอ เรายึดมั่นว่าต้องเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เติมน้ำตาล ไม่ผสมสารกันบูด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ”

สิ่งที่กังวลมากที่สุดสำหรับการทำธุรกิจเครื่องดื่มตอนนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลย จึงมีผลต่อการควบคุมคุณภาพของรสชาติ ดังนั้นแหล่งปลูกต้องสมบูรณ์พอที่จะควบคุมคุณภาพวัตถุดิบได้ ให้รสชาติคงที่ อร่อย และปลอดภัย

เน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

คุณท๊อปเล่าต่อไปว่า ผมใช้เวลากว่า 7 ปี ผู้บริโภคถึงรู้จัก ไม่ใช่เรื่องง่าย วันแรกที่ทำออนไลน์มีแค่แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่ตอนนี้สื่อต่าง ๆ มีจำนวนมาก ที่สำคัญโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การทำสินค้าต้องเจาะจงเฉพาะกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ดังนั้นการมีสินค้าฮีโร่ตัวใดตัวหนึ่ง อาจจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ตลาดตอนนี้แล้ว

จึงนำมาสู่การคิดค้นโปรดักต์เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลายแบบ เช่น ขณะนี้มีกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Functional Drink) แต่ในอนาคตจะมีโปรดักต์ใหม่ “อะโวคาโดอัลมอนด์” อุดมไปด้วยแหล่งโปรตีนจากอะโวคาโด และกลิ่นหอมจากอัลมอนด์ และจะมีกลุ่ม “เครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น (Refreshment)” อย่างไรก็ตาม จะยังคงความเป็นเครื่องดื่มและความเป็นธรรมชาติอยู่

QminC

การเกาะกระแสเทรนด์ “วัตถุดิบ” จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญ วันนี้เรามีโพรไบโอติกเป็นจุดเด่น แต่ในอนาคตต้องจับตาดูว่ามีอะไรที่เหนือกว่าและดีสำหรับผู้บริโภคอีกหรือไม่

“ในอนาคตเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพจะยังคงอยู่ และมีแนวโน้มเติบมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ทุกวันนี้ผู้บริโภคเก่งมากขึ้น เราจึงต้องผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์มากขึ้น ช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า ผมอยากให้บริษัทใหญ่ขึ้น ที่ไม่ใช่ SMEs และตอบโจทย์คนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยอดขายโตขึ้นอีก 5-6 เท่า” คุณท๊อปกล่าวทิ้งท้าย