7 เอกชนชุมพรค้านสร้างสะพานต่างระดับคร่อม ถ.สายเอเซีย หวั่นทำเมืองร้าง ธุรกิจเจ๊ง

7 องค์กรเอกชนจังหวัดชุมพร ยื่นหนังสือคัดค้านสร้างสะพานต่างระดับคร่อมถนนเอเชีย บริเวณแยกทุ่งเบี้ย อ.เมือง หวั่นซ้ำรอย “แยกปฐมพร” หลังก่อสร้างนานถึง 10 ปี ทำเมืองร้าง ธุรกิจเจ๊งระนาว

นายกมล เรืองตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาคีเครือข่ายภาคเอกชนจังหวัดชุมพร 7 สถาบัน ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดชุมพร, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร, สภาทนายความจังหวัดชุมพร, สมาคมศาลเจ้าแม่ทับทิมชุมพร, สมาคมธนาคารจังหวัดชุมพร, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร และสมาคมประมงปากน้ำชุมพร

ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการออกแบบโครงการก่อสร้างสะพาน (ทางรอง) คร่อมทางหลวงเอเชียหมายเลข 41 (ทางหลัก) เพื่อขยายเส้นทางหลวง 4058 จากจุดตัดทางหลวงเอเชียหมายเลข 41 (ม.ทุ่งเบี้ย ต.ขุนกระทิง) ไปยังทางหลวงเอเชียหมายเลข 4 (ชุมพร-ระนอง) ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรและอธิบดีกรมทางหลวงชนบท

เนื่องจากจะทำให้เกิดสี่แยกใหญ่ขึ้นบริเวณ ม.ทุ่งเบี้ย ต.ขุนกระทิง ทำให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัย การจราจรติดขัด ที่สำคัญจะกระทบต่อพื้นที่ย่านเศรษฐกิจให้กลายเป็นเมืองร้าง โดยขอให้มีการทบทวนแผนงานโครงการก่อสร้างดังกล่าวให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่

“ปกติการทำสะพานยกระดับตรงจุดตัดระหว่างถนนสายหลัก และสายรองควรจะทำสะพานยกระดับที่ถนนสายหลักข้ามถนนสายรอง แต่แผนงานของกรมทางหลวงชนบทครั้งนี้กลับออกแบบจะทำสะพานยกระดับจากถนนสายรองข้ามถนนสายหลัก ซึ่งคนในฟื้นที่ไม่เห็นด้วย เพราะจะก่อให้เกิดปัญหามากมาย

ดังนั้น ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะเปิดรับฟังความคิดเห็นเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่อบต.ตากแดด เวลา 13:00-16:30 น. จึงขอเชิญชวนชาวชุมพรไปร่วมแสดงความคิดเห็นกันให้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแยกปฐมพร ซ้ำอีกครั้ง”นายกมลกล่าว

สาเหตุที่ชาวชุมพรต่างหวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับที่ “แยกปฐมพร”  เนื่องจากการออกแบบสะพานต่างระดับดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับสะพานเขาวงกต ทำให้การเดินทางเข้าเมืองชุมพรเป็นไปอย่างยากลำบาก เกิดความสับสนแก่ผู้สัญจร คนต่างถิ่นหลงและขับรถผ่านเลยไป ทางเข้าออกเมืองมีเพียง 1 ช่องจราจร

รวมถึงการเวนคืนที่ดินจำนวนมากและการก่อสร้างใช้เวลานานกว่า 10 ปี ทำให้เมืองที่เคยเป็นย่านเศรษฐกิจกลายเป็นเมืองร้าง ธุรกิจรอบด้านล้มหายตายจากไม่สามารถกู้คืนได้ ไร้สง่าราศรีความเป็นประตูเมือง ที่สำคัญนั่นคือสภาพ“แยกปฐมพร” ที่จะกลับมาอีกครั้ง ถือเป็นการตอกประตูปิดฝาโลงชุมพร ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นต้นเหตุให้เกิดภาพหลอนปรากฏการณ์ “แยกปฐมพร2” ขึ้นอีก

นายกมลกล่าวต่อไปว่า หากสร้างสะพานของถนนสายรองคร่อมทางหลวงเอเชียหมายเลข41ซึ่งเป็นถนนสายหลัก จะเป็นเหตุให้รถที่เข้ามาในบริเวณนี้จะต้องเลี้ยวขวาในทั้ง 4 มุมของแยก ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่ขึ้นสะพานมาก ต้องไปกลับรถยูเทิร์น ซึ่งห่างจากแยกไปด้านละ 630-640 ม. ไปกลับอีก 1.2 กม.

เป็นผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ได้แก่ 1.ความปลอดภัย – เกิดการเปลี่ยนช่องจราจรโดยตัดขวาเข้ายูเทิร์น ทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยเฉี่ยวชนกับรถที่มาทางตรงด้วยความเร็วได้ และการจอดรอต่อคิวยูเทิร์นจนล้นออกมาช่องทางปกติ ทำให้รถช่องทางปกติเฉี่ยวชนได้

2.ปัญหาการจราจร – เมื่อมีการเปลี่ยนช่องทางจราจรและจอดรอยูเทิร์น จะเกิดการชะลอตัวของรถส่วนใหญ่ที่มาทางตรงทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดโดยเฉพาะช่วงเทศกาลและช่วงเช้าเย็น

3.ปัญหาการสูญเสียเชื้อเพลิงและเวลา – การต้องชะลอเพื่อยูเทิร์นทั้ง 4 มุม ระยะ 630-640 ม. รวมไปกลับ 1.2 กม. ต่อการเลี้ยว 1 ครั้ง/คัน ก่อให้เกิดการเสียเชื้อเพลิงและเวลามูลค่ามหาศาลต่อปี

4.การแก้ปัญหายูเทิร์นจะเกิดปัญหา “แยกปฐมพร2” ตามมา – หากมีปริมาณรถมากขึ้นในอนาคต การแก้ปัญหายูเทิร์น จะทำได้โดยการสร้างทางยกระดับใหม่ขึ้นในแต่ละมุม อาจจะเป็นวงแหวนหรือก้นหอย ทำให้ต้องเวนคืนที่ดินเพิ่ม สูญเสียทัศนียภาพ รวมถึงสิ้นเปลืองงบประมาณในการก่อสร้างเพิ่มอีกมาก

ภาคีเครือข่ายภาคเอกชนจังหวัดชุมพร ขอเสนอให้มีรูปแบบใหม่ คือ การสร้างสะพานยกระดับบนทางหลวงเอเชียหมายเลข41 และด้านล่างเป็นวงเวียนปกติหรือวงเวียนดรัมเบลล์แทนรูปแบบเดิมของทางหลวงชนบทปัจจุบัน

1. เพื่อความปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้สัญจร ทั้งภาคใต้ซึ่งมีปริมาณวันปกติกว่า 2 หมื่นคัน

2. เปิดทางให้รถทางตรงบนทางหลวงหมายเลข 41 ได้สัญจรสะดวก ลื่นไหล ไม่ติดปัญหาการจราจร

3. แก้ปัญหาความสูญเสียเชื้อเพลิงและเวลา

4. สร้างทำเลใหม่เชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดชุมพร ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดโอกาสของชาวชุมพรที่จะได้สร้างประตูเมืองแห่งใหม่ เป็นการสร้างทำเลเชิงยุทธศาสตร์หรือแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดชุมพร

เมื่อสะพานยกระดับบนทางหลักแล้ว ด้านล่างจะเป็นวงเวียนหรือวงเวียนดรัมเบลล์ เหมือนสี่แยกเอเชียพัทลุง หรือ สี่แยกละแม ทำให้มีทัศนียภาพที่เหมาะสม สามารถมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามสง่าสมเป็นประตูเมืองของจังหวัด การคมนาคมสะดวกลื่นไหล ทำให้เมืองมีชีวิต เป็นผลให้ถนนสายเลี่ยงเมืองที่เชื่อมต่อกับสี่แยกนี้ซึ่งสร้างกว้างขวางรองรับอยู่แล้ว สามารถดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ มาสร้างห้างร้านหรือสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ลงบนที่นี่มากขึ้น ถนนสายนี้จึงจะเป็นถนนสายเศรษฐกิจใหม่ที่จะสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดชุมพรได้อีกมากในอนาคต