เศรษฐกิจภาคเหนือ Q4/67 ขยายตัวต่ำ คาดหมอกควันกดดันกำลังซื้อ Q1/68

ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เผย เศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 4 ปี 2567 ปรับดีขึ้นเล็กน้อย รับอานิสงส์จากการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะที่การลงทุนของเอกชน ทั้งอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง การผลิตยังหดตัว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 4/2567 โดยพบว่าเศรษฐกิจภาคเหนือปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนตามการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การบริโภคขยายตัวจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ และการซ่อมสร้างหลังอุทกภัย การผลิตอุตสาหกรรมดีขึ้นตามความต้องการอาหารแปรรูปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การเบิกจ่ายภาครัฐปรับดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ยังหดตัวต่อเนื่อง รายได้เกษตรกรปรับลดลงจากราคา รายได้เกษตรกร หดตัวเล็กน้อย จากราคาที่หดตัวต่อเนื่อง ตามราคาข้าวเปลือกที่ฐานสูงในปีก่อนและการส่งออกที่ชะลอลง ราคาอ้อยโรงงานปรับลดลงตามราคาอ้อยขั้นต้น ขณะที่การท่องเที่ยว ขยายตัว ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติ จากปัจจัยสนับสนุนเรื่องการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบิน สภาพอากาศเย็น และการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่มากกว่าปีก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานภาคเหนือ ทั้งฝั่งในประเทศและต่างประเทศ โดยเร่งขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และเกาหลีไต้ สอดคล้องกับอัตราการเข้าพักแรมที่เพิ่มขึ้น

การลงทุนภาคเอกชน หดตัว จากการลงทุนก่อสร้างหดตัว ตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ และการลงทุนเพื่อการผลิตหดตัว ในหมวดรถยนต์เชิงพาณิชย์ประเภทรถกระบะและรถแทรกเตอร์ รวมถึงการนำเข้าสินค้าทุนชะลอลงหลังจากเร่งนำเข้าของกลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ด้านยอดจำหน่ายเครื่องจักรลดลงจากเครื่องจักรการเกษตร

การค้าชายแดน ขยายตัวเล็กน้อย จากการส่งออกลำไยสดไปจีน ประกอบกับน้ำมันสำเร็จรูป ยานยนต์ และหลายหมวดสินค้าไปเมียนมาปรับดีขึ้น จากการขนส่งทำได้ มากขึ้นหลังผ่านช่วงฤดูฝนและความไม่สงบบริเวณชายแดนผ่อนคลายมากขึ้น ด้านการนำเข้าหดตัว ตามผักและผลไม้จากจีนที่ผลผลิตเสียหายจากอุทกภัยและมีการเปลี่ยนเส้นทางขนส่ง ขณะที่กระแสไฟฟ้าจาก สปป.ลาว และแร่พลวงจากเมียนมาขยายตัว

ADVERTISMENT

นางพรวิภากล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 1/2568 คาดว่าอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวได้เล็กน้อย จากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกยังฟื้นได้ตามความต้องการของคู่ค้าในหมวดอาหารแปรรูปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่อีกด้านคือ แรงกดดันจากกำลังซื้อ รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่ายังทรงตัวในระดับต่ำ ขณะที่การลงทุนก็คาดว่าหัวตัวตามการก่อสร้าง และรายได้เกษตรกรที่อาจปรับลดลงจากผลทางด้านราคา

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในไตรมาส 1/2568 ได้แก่ ความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงนี้ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่มีผลต่อการตัดสินใจชะลอการเดินทางเข้ามาภาคเหนือ ซึ่งจากสถิติในช่วงนี้ของทุกปี พบว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะลดลง นอกจากนี้ การฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศและผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยเป็นเครื่องชี้สำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจไตรมาส 1/2568 ว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่

ADVERTISMENT