JDB ดึงธุรกิจไทยลงทุนลาว สินค้าเกษตรอีสานไปจีนรุ่ง

ธนาคาร JDB รุกดึงนักธุรกิจไทยแถบลุ่มน้ำโขง ข้ามไปลงทุนใน สปป.ลาว ใช้อานิสงส์รถไฟความเร็วสูงขนสินค้าจากนครพนม มุกดาหาร หนองคาย อุบลฯ เชื่อมการค้า-การลงทุน-ท่องเที่ยว-บริการ

นายเอกะพัน พะพิทัก ประธานผู้ถือหุ้น ธนาคารร่วมพัฒนา หรือ JDB Bank (Joint Development Bank : JDB) เปิดเผยว่า ปี 2568 เศรษฐกิจของ สปป.ลาวมีทิศทางสดใส เป็นโอกาสของนักลงทุนไทยที่จะขยายธุรกิจใน สปป.ลาว

โดยเฉพาะธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด จากอานิสงส์รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว โดยผู้ประกอบการไทยมีโอกาสขยายการลงทุนได้อีกมาก เนื่องจาก สปป.ลาวต้องพึ่งพาสินค้าจากประเทศไทย

ขณะเดียวกันปีนี้เป็นโอกาสครบรอบ 35 ปีของ JDB Bank ได้วางยุทธศาสตร์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นให้ทุกระบบเชื่อมต่อกันง่ายขึ้น และคล่องตัวมากขึ้น โดย JDB Bank มี 64 หน่วยบริการ ครอบคลุมชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทั้งไทย กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม ให้เป็นธุรกรรมข้ามพรมแดน ให้คนไทยสามารถสแกนใช้จ่ายใน สปป.ลาวได้ ผ่านระบบ Thai-Lao QR ซึ่งธนาคารได้เปิดบริการ QR Alipay เพื่อเจาะตลาดการค้าไปประเทศจีน

นอกจากนี้ มีศูนย์แนะนำการลงทุน JDB Representative Office ประจำประเทศไทย ตั้งอยู่ชั้น 24 อาคารเกษรทาวเวอร์ และวางเป้าหมายในอีก 5 ปีมุ่งมั่นเป็นธนาคารดิจิทัลที่เชื่อมโยงทุกความต้องการทางการเงิน

ดร.วิวัฒน์ กิตติพงศ์โกศล ประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ ธนาคาร JDB กล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตแบบก้าวกระโดด ภาคการบริการ ภาคการเกษตร ได้อานิสงส์ขยายตัวขึ้นมาก จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนไทยขยายฐานการผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดภายใน สปป.ลาว โดยเฉพาะสินค้าอาหารเครื่องดื่ม เครื่องมือช่าง และเครื่องใช้ในชีวิตประจําวัน

รวมถึงการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ท่องเที่ยว อาหาร และธุรกิจบริการอื่น, การเพาะปลูกทางการเกษตรจะช่วยลดต้นทุนได้ดี เพราะเช่าที่ดินระยะยาวได้ 30 ปี และต่อสัญญาได้อีก 2 ครั้ง รวมระยะ 90 ปี เป็นการขยายโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะทำการขนส่งสินค้าทั้งผลผลิตการเกษตร เกษตรแปรรูป อาหารและสินค้าในชีวิตประจำวัน ที่มาจากนครพนม มุกดาหาร หนองคาย และอุบลราชธานี ด้วยระบบรางส่งไป จีน เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ในราคาไม่แพงและประหยัดเวลา

“โดยเฉพาะการท่องเที่ยวไทยที่กำลังเติบโตถึงขีดสุด จากนักท่องเที่ยวจีน เวียดนาม เกาหลี และยุโรป เสนอแนะให้ภาครัฐสนับสนุนธุรกิจ MICE ของไทย ให้เกิดการท่องเที่ยวแบบทัวร์วงกลม เริ่มจากรับนักท่องเที่ยวในไทย มาลาว และจีน”

สำหรับนักลงทุนไทย สามารถติดต่อ JDB Bank เพื่อปรึกษาและรับข้อแนะนำต่าง ๆ ด้านการลงทุนใน สปป.ลาวได้ ซึ่ง JDB Bank ได้ทรานส์ฟอร์มมาสู่การเป็น Digital Banking เต็มรูปแบบ เพื่อเชื่อมโยงทุกการลงทุนครอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน

และได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) เพื่อขับเคลื่อนการค้าการลงทุนไทย-สปป.ลาว โดย EXIM Bank อาจปล่อย Syndicated Loans เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนได้มีทางเลือก