
5 จังหวัดกลุ่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย “ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา” ชง 46 โครงการ มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท รับ ครม.สัญจร 16-18 ก.พ.นี้ วางกรอบ 2 ส่วนใหญ่เป็นโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี เผยภาคใต้ต้องการปัจจัยอื่นมาหนุนเสริม นอกจากมีแค่การท่องเที่ยวเป็นหลัก
นายกรกฎ เตติรานนท์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ. 68 จะมีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2568 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา ทางภาครัฐและภาคเอกชนได้เตรียมข้อเสนอโครงการของจังหวัด และกลุ่มจังหวัดไว้ทั้งหมด แบ่งตามการจัดสรรงบประมาณที่ทางราชการวางกรอบไว้เป็น 2 ส่วน
ได้แก่ ส่วนที่ 1 โครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยจัดสรรงบประมาณที่จะให้แต่ละจังหวัด และกลุ่มจังหวัด 100 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคราชการ 50 ล้านบาท และภาคเอกชน 50 ล้านบาท ส่วนที่ 2 โครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) เป็นลักษณะโครงการเชิงนโยบายที่จังหวัดและกลุ่มจังหวัดอยากจะขอสนับสนุนให้บรรจุโครงการไว้
รวมทั้งโครงการเร่งรัด แบ่งเป็นส่วนของราชการ 50 ล้านบาท และกลุ่มเอกชนอีก 50 ล้านบาท ทั้งนี้ ในงบประมาณของส่วนราชการจะมีโครงการพวกโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก เพราะเป็นการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม แต่เอกชนบางพื้นที่ทำโครงสร้างพื้นฐานด้วย เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนมานาน ทั้งนี้ โครงการทั้งหมดจะต้องผ่านการกลั่นกรองของหน่วยงานส่วนกลางอีกครั้ง ดังนั้น โครงการของแต่ละจังหวัดอาจจะไม่ได้รับการพิจารณาตามข้อเสนอทั้งหมด
เสนอศูนย์การแพทย์-สนามบิน
“กลุ่มอ่าวไทย 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เป็นที่ตั้งของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตั้งอยู่บริเวณตอนบนของภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนระนองอยู่ฝั่งอันดามัน ตัวเศรษฐกิจหลักอยู่ที่ฐานจังหวัดในอ่าวไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะ 2 จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช มีประชากรรวมกันเกือบ 2.5 ล้านคน จากภาพรวมภาคใต้ 14 จังหวัดมีประชากรรวม 9 ล้านคน”
ภาคใต้ต้องการเครื่องจักรมาเพิ่มเติมนอกจากการท่องเที่ยว จึงต้องการหากิจการทางเศรษฐกิจอื่นมาเพิ่มให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา และการกีดกันทางการค้าค่อนข้างจะรุนแรงมากขึ้น การฟื้นตัวในระยะยาวต้องอาศัยศักยภาพ ไม่ใช่จะสามารถใช้ภาวะเศรษฐกิจปกติมาขับเคลื่อนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นมาได้
“ดังนั้น แต่ละจังหวัดจึงเสนอโครงการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดทั้งในระยะสั้น และโครงการเชิงนโยบายในระยะยาว แต่โครงการนโยบาย จะต้องใช้งบประมาณมากเป็นหลาย 100 ล้านบาท ถึงระดับพันล้านบาท เช่น ศูนย์การแพทย์ สนามบิน พัทลุง สินค้าประมง ห่วงโซ่ความเย็น การท่องเที่ยว วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช สู่มรดกโลก ฯลฯ” นายกรกฎกล่าว
รัฐ-เอกชนร่วมชง 46 โครงการ
โครงการทั้งหมดที่ภาครัฐและเอกชนเสนอร่วมกันมีทั้งหมด 46 โครงการ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 โครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มี 23 โครงการ และส่วนที่ 2 โครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) รวมทั้งสิ้น 23 โครงการเช่นกัน
สำหรับโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ส่วนที่ 1 โครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มีทั้งหมด 6 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มความปลอดภัย ทางหลวงหมายเลข 41 ตอนเกาะมุกข์-ควนรา (เป็นตอน ๆ) 2.โครงการก่อสร้างผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก สายดอนแบก-พลายทอง หมู่ที่ 1 ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
3.โครงการแก้ไขและป้องกันน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 42 กม.30+500-30+900 ตอนคลองแงะ-นาจวก 4.โครงการเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้ประสบภัยในกรณีฉุกเฉิน 5.โครงการพัฒนาพื้นที่น้ำตกกะเปาะเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และ 6.โครงการพัฒนาพื้นที่เขาเจ้าเมืองเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ให้มีศูนย์ส่งออกเบ็ดเสร็จ
ส่วนที่ 2 โครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) มีทั้งหมด 7 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนา Soft Power ยกระดับขีดความสามารถอาหารใต้สู่การส่งเสริมการท่องเที่ยว 2.โครงการกำจัดวัชพืชและพืชต่างถิ่นรุกรานในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา
3.พัฒนาเขตนวัตกรรมมูลค่าสูงภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4.โครงการจัดตั้งศูนย์การส่งออกสินค้าแบบเบ็ดเสร็จ พร้อม Lab รับรองคุณภาพและออกใบรับรองสินค้าเกษตร (One Stop Export Center : OSEC) 5.การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวตัวอย่างแบบครบวงจรของจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 6.โครงการจัดตั้งศูนย์แพทย์แบบองค์รวม และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ และ 7.โครงการก่อสร้างอาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
สุราษฎร์ฯเสนอ 5 โครงการ
จ.สุราษฎร์ธานี เตรียมนำเสนอทั้งหมด 5 โครงการ แบ่งเป็น โครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มีทั้งหมด 4 โครงการ ส่วนโครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยของภาคเอกชน (กรอ.) มีทั้งหมด 1 โครงการ ได้แก่ โครงการฟื้นฟูทางหลวงหมายเลข 4112 ตอน 1 สวนแตง-ไชยา ต.วัง อ.ท่าชนะ
นายกมล เรืองตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จ.ชุมพร เตรียมนำเสนอ 10 โครงการ แบ่งเป็น โครงการดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มี 4 โครงการ ส่วนโครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยของภาคเอกชน (กรอ.) มีทั้งหมด 6 โครงการ
ด้านนายประยูร เงินพรหม ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลักดันทั้งหมด 5 โครงการ และจังหวัดพัทลุง เสนอ ครม.สัญจรทั้งหมด 3 โครงการ
นายกิตติพิชญ์ กลับคุณ ประธานหอการค้าจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า จังหวัดพัทลุงเสนอ ครม.สัญจรทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองปรางหมู่ ความยาว 360 เมตร บ้านป่ายาง หมู่ที่ 7 ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองเตราะ (ฝั่งทิศใต้) ความยาว 210 เมตร ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ส่วนที่ 2 โครงการ กรอ.กลุ่มจังหวัด) ได้แก่ โครงการยกระดับมาตรฐานทางและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน ควบคุม 1302 ตอน พัทลุง