
สมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออกเข้าพบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อสะท้อนปัญหาของเกษตรกรชาวไร่อ้อย หลังรัฐบาลมีนโยบายลดการเผาอ้อยเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ส่งผลให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการตัดอ้อยสด
ชาวไร่อ้อยจากสมาคมเกษตรกรภาคตะวันออกรวมตัวกันกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือหลังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ตามที่รัฐบาลเคยมีนโยบายไว้ ในฤดูการผลิตปี 2566 และปี 2567
โดยตัวแทนเกษตรกรเผยว่า ในฤดูการผลิตอ้อยปี 2567 และ 2568 รัฐบาลมีมาตรการเข้มงวดในการลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยเน้นให้ภาคการเกษตรลดการเผาอ้อย ซึ่งเกษตรกรได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่งผลให้ปริมาณอ้อยสดที่ส่งเข้าโรงงานน้ำตาลเพิ่มขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบทั่วประเทศอยู่ที่ 73.17 ล้านตัน แบ่งเป็นอ้อยสด 62.56 ล้านตัน และอ้อยไฟไหม้ 10.61 ล้านตัน คิดเป็นเพียง 14.51% ของอ้อยทั้งหมด ซึ่งปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน แสดงให้เห็นถึงการให้ความร่วมมือของเกษตรกรชาวไร้อ้อยในการลดการเผาอ้อย
ขณะที่ การตัดอ้อยสดทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าแรงเก็บเกี่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในฤดูการผลิตปี 2566 และ 2567 เกษตรกรยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ตามที่รัฐบาลเคยมีนโยบายไว้ สมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออกจึงเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อขอให้ช่วยนำเสนอปัญหานี้ต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นแรงจูงใจให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด ลดปัญหาการเผา และช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด