‘อนุทิน’ ลงพื้นที่ อ.ปาย หารือทูตอิสราเอล ยันไม่มีอิทธิพลมืด ไม่มีมาเฟีย

รองนายกฯ อนุทินลงพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน หารือทูตอิสราเอล ย้ำแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ยัน “ไม่มีอิทธิพลมืด ไม่มีมาเฟีย ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ซึ่งได้รับความสนใจจากสังคม โดยมี นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมมอนทิส รีสอร์ท

การประชุมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และตัวแทนประชาชน โดยประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือ ได้แก่ การดูแลนักท่องเที่ยวให้เคารพกฎหมายและวัฒนธรรมท้องถิ่น การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาปายให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และยั่งยืน

รองนายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเมืองท่องเที่ยวให้สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ อำเภอปายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งมาพร้อมกับความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การรักษาความสงบเรียบร้อย และการคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุมชน

รัฐบาลได้กำหนดแนวทางดำเนินการใน 2 ระยะ เพื่อให้การท่องเที่ยวในอำเภอปายเติบโตอย่างยั่งยืน แบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น ได้แก่ การสร้างความเข้าใจระหว่างนักท่องเที่ยวและชุมชน การพัฒนามาตรการด้านความปลอดภัย และระบบดูแลนักท่องเที่ยว การเข้มงวดในการตรวจสอบสถานประกอบการและบังคับใช้กฎหมาย

และมาตรการระยะยาว ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ การพัฒนาระบบการจัดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คำนึงถึงขีดความสามารถของพื้นที่ การจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจและอัตลักษณ์ท้องถิ่น

รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่า “ไม่มีอิทธิพลมืด ไม่มีมาเฟีย ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย” พร้อมแสดงความมั่นใจว่าหน่วยงานในจังหวัดสามารถดูแลสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย และจะนำข้อมูลที่ได้รับไปพิจารณาเพื่อให้เกิดมาตรการที่เหมาะสม โดยยืนยันว่าอำเภอปายยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย มีเสน่ห์ และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้แนวทาง “แม่ฮ่องสอนเมืองแห่งสุข ยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์”

“ปายต้องไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ต้องเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่อยู่ร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพ และเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน” รองนายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้าย