เชียงใหม่รับงบฯ 213 ล้าน ขุดลอกน้ำปิงเร่งแก้รุกล้ำ

น้ำท่วม เชียงใหม่

เชียงใหม่เดินหน้าเร่งขุดลอกลำน้ำปิง-ลำน้ำกก หลัง ครม.อนุมัติงบฯ 213 ล้าน รับมือฤดูฝนอีก 5 เดือนข้างหน้า พร้อมเตรียมของบฯปี 2569 ทำแผนระยะกลาง ขุดขยายลำน้ำปิง เผยที่ผ่านมาได้สำรวจแม่น้ำปิง พบปัญหาถูกรุกล้ำลำน้ำเพียบ แถมที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ

รศ.ชูโชค อายุพงศ์ หัวหน้าศูนย์วิชาการสนับสนุนด้านการบริหารจัดการน้ำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 เห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย วงเงินรวม 213 ล้านบาท หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ได้พยายามผลักดันเสนอของบประมาณไปในการประชุม ครม.สัญจร เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จำนวน 171 ล้านบาท ก็ถือว่าภาครัฐได้ตอบโจทย์ เพราะได้งบประมาณตามที่ได้นำเสนอไป เพื่อใช้ดำเนินการเร่งขุดลอกแม่น้ำปิงแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ทันฤดูฝนที่จะมาถึง

สำหรับงบประมาณ 171.4 ล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติจะใช้ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงระยะเร่งด่วน คาดว่าต้องใช้เวลาในการประสานงานในส่วนของสำนักงบประมาณอีก 1 เดือน จึงสามารถนำงบประมาณมาดำเนินการขุดลอกได้ โดยเป็นการขุดในระดับลึกในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ และรื้อฝาย 3 ตัว ในลำน้ำปิงออก ซึ่งเชื่อว่าทันฤดูฝนที่จะมาอีกราว 5 เดือนข้างหน้า โดยรัฐบาลมอบหมายให้ทหารพัฒนาเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะมีการเช่าเรือขุด และรถ พร้อมกำลังคน

โดยทางจังหวัดเชียงใหม่ประสานให้สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาดูแลตรวจสอบการดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้การดำเนินการไม่มีปัญหา ในส่วนของสถานที่ทิ้งดินก็เป็นของราชการทั้งหมดที่อยู่ในเขตเมืองเชียงใหม่

รศ.ชูโชค กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ท่วมเมืองเชียงใหม่เมื่อปี 2567 น้ำขึ้นมาระดับ 5.30 เมตร เพราะลำน้ำปิงมีตะกอนเป็นจำนวนมากและตื้นมาก ดังนั้น ความสามารถในการรับน้ำที่มีอยู่เพียง 300-400 ลบ.ม./วินาที แต่เมื่อน้ำหลากมา 500-600 ลบ.ม. จึงไม่สามารถรับมวลน้ำขนาดใหญ่ได้ แต่ถ้าไม่มีอะไรกีดขวาง ตะกอนก็จะไหลไปได้ จึงต้องแก้ปัญหาในลำน้ำ ด้วยการขุดลอก และปรับปรุงสภาพฝาย 3 ตัว ที่อยู่ในลำน้ำ ซึ่งจะทำให้มีความสามารถในการรับน้ำเพิ่มได้อีก 300 ลบ.ม. ก็จะสามารถรับน้ำได้ถึง 700-800 ลบ.ม.

หากปีนี้ปริมาณน้ำมาเท่ากับปีที่แล้ว สถานี P1 จะไม่ขึ้นมาถึง 5.30 เมตร อย่างแน่นอน อาจจะอยู่ระดับ 4.60-4.70 เมตร ซึ่งความเสียหายของประชาชนจะน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่หากปริมาณน้ำมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งโอกาสเกิดก็อาจจะไม่บ่อย และปี 2567 ก็ถือว่าท่วมหนักในรอบหลายร้อยปี เชื่อว่าน้ำจะไม่ขึ้นเท่าปีที่แล้วคือ 5.30 เมตร อาจจะแค่ระดับ 4.60-4.70 เมตร ถ้าเอาฝายออก น้ำจะลดลงมาก ซึ่งตามหลักทฤษฎี ฝายเป็นตัวทำให้น้ำยกระดับขึ้นสูงเท่ากับความสูงฝาย ก็น่าจะเหลือประมาณ 4.30 เมตร

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ถ้าปริมาณน้ำมาเท่ากับปีที่แล้ว ก็มีโอกาสท่วม แต่จะไม่หนัก เพราะการขุดลอกยังเอาออกไม่ได้ทั้งหมด ถ้าทำครบทั้งระบบ โดยเอาฝายออกไป ขุดขยาย และระยะกลางคือ ขุดขยายในปี 2569 น้ำจะลดระดับลงมากกว่านี้ การขุดลอกครั้งนี้ถือว่าคุ้มมากในการแก้เพนพอยต์ของเชียงใหม่ หากเทียบกับการต้องเสียงบประมาณค่าล้างโคลนและการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาถึง 1,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ การดำเนินการขั้นต่อไปคือ ระยะกลาง ซึ่งจะของบฯจากรัฐบาลดำเนินการการขุดขยายลำน้ำปิง คาดว่าราวปีหน้าจะเริ่มดำเนินการได้ โดยสภาพปัจจุบันมีการบุกรุกลำน้ำปิงเกือบทั้งหมด เป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งมีการสำรวจข้อมูลผู้บุกรุกหมดแล้ว

ADVERTISMENT

รศ.ชูโชค กล่าวต่อว่า สำหรับตัวเมืองเชียงราย การขุดลอกแม่น้ำกกจะมีผลอย่างมากที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วม แผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย โครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำแม่น้ำกก ปริมาณ 337,812.5 ลูกบาศก์เมตร วงเงิน 22.2 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดูจากงบประมาณค่อนข้างน้อย อาจจะขุดเพียงไม่กี่จุด แต่แม่น้ำกกโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมก็ค่อนข้างยาก เกิดได้ไม่บ่อย

แต่เหตุการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงรายปีที่แล้ว เนื่องจากมีปริมาณฝนตกหนักมากจากโซนเมียนมาที่มาจากรัฐฉานลงมา พื้นที่รับน้ำที่อยู่ใกล้ลำน้ำสายและลำน้ำกก ซึ่งจะแยกออกเป็นสองส่วนคือ แม่น้ำกกไหลลงทิศใต้ แม่น้ำสายลงทิศตะวันออก และไปบรรจบกันแถวแม่น้ำโขง ดังนั้น โอกาสน้ำท่วมเชียงรายจะไม่เกิดขึ้นบ่อย