ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาของเมืองโคราช มีร้านกาแฟเกิดใหม่อย่าง CLASS cafe” ผุดขึ้นนับ 10 สาขา ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเป็นแบรนด์มาจากนักลงทุนส่วนกลางหรือไม่ แต่ความจริงแล้ว CLASS cafe” เป็นแบรนด์ร้านกาแฟของคนโคราช ลูกหลานโคราชแท้ ๆ กับความกล้าท้าทายธุรกิจที่มีการแข่งขันกันดุเดือด เนื่องเพราะที่ผ่านมามีร้านกาแฟที่ถือกำเนิดขึ้นและล้มหายไปมากพอ ๆ กัน
แต่ ณ วันนี้คนโคราชกลับเห็น CLASS cafe” เติบโตขึ้น โตขึ้น และโตขึ้น “ประชาชาติธุรกิจ” ไขความกระจ่าง พร้อมเปิดใจ “มารุต ชุ่มขุนทด” เจ้าของผู้ปลุกปั้นแบรนด์ร้านกาแฟ CLASS จนติดตลาดเมืองโคราช และ บุรีรัมย์
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้จ่ายผ่านโมบายแบงกิ้ง ดึงแอป “ทางรัฐ” เชื่อมหลังบ้าน
“มารุต ชุ่มขุนทด” หรือกอล์ฟ นักธุรกิจรุ่นใหญ่สายเลือดคนโคราชแท้ ๆ ผู้ก่อตั้งร้านกาแฟคลาส บอกว่า เป็นคนโคราชโดยกำเนิด เรียนจบมัธยมปลายที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และคว้าปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์สาขาคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นคนชอบธุรกิจไฮเทคและเทคโนโลยี ชีวิตการทำงานเกือบ 20 ปีจึงคลุกคลีอยู่ในวงการโทรศัพท์มือถือ ค่ายเพลง และด้านอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
แต่ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจมาเปิดธุรกิจกาแฟภายใต้แบรนด์คลาส(CLASS cafe”) โดยเปิดสาขาแรกที่ถนนจอมสุรางค์ยาตร์ในเมืองโคราชเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2557
ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา คลาสได้เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 10 สาขา ประกอบด้วย สาขาถนนจอมสุรางค์ยาตร์ โรงพยาบาลมหาราช วัดบูรพ์ เซฟวัน คลังพลาซ่า (คลังใหม่) ปากช่อง เดอะมอลล์โคราช โรงเรียนราชสีมา โซล่ามาร์เก็ต และสาขาบุรีรัมย์
มารุตบอกว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบดื่มกาแฟและชอบธุรกิจบริการ ซึ่งในช่วงที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟมาบ้าง ซึ่ง CLASS cafe” เป็นการสร้างแบรนด์เป็นของเราเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากที่แบรนด์ได้ถือกำเนิดที่โคราช
“ธุรกิจกาแฟเป็นธุรกิจที่โหดร้าย มีคนเปิดจำนวนมาก แต่ก็อยู่ไม่นาน มีการแข่งขันสูง กำไรก็ไม่ได้มากมาย แบรนด์ไหนที่อยู่ได้เมื่อจะขยายธุรกิจเพื่อเติบโตก็จะมีเจ้าตลาดแบรนด์ดังระดับประเทศคอยประกบ นี่คือสิ่งที่ท้าทายมาก ๆ สำหรับคนคิดจะทำร้านกาแฟ”
มารุตย้ำว่า การสร้างความแตกต่างในธุรกิจกาแฟถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก ขณะที่ “คลาส” เราใช้เครื่องชงกาแฟที่มีเทคโนโลยีระดับโลก ได้รับรางวัล 1 ใน 5 ของโลกสำหรับเครื่องทำกาแฟที่ดีที่สุด รสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ถ้าดื่มคำแรกจะรู้เลยว่านี่คือคลาส นี่คือสิ่งที่ต้องแยกให้ได้
ส่วนบรรยากาศในร้านจะเน้นบรรยากาศแอ็กทีฟ กระฉับกระเฉง ตื่นเต้น สนุก โดยจัดบาร์ไว้กลางร้านให้ได้เห็นขั้นตอนของการชงกาแฟ กลิ่นอายอบอวลของกาแฟ ได้ยินเสียงเครื่องบดกาแฟ บรรยากาศไม่ใช่นั่งกันเงียบ ๆ ด้านบริการก็เช่นเดียวกัน พนักงานทุกคนต้องมีความแอ็กทีฟ
ทั้งนี้มีผลวิจัยว่าคนยุโรปดื่มกาแฟปีละ 500-700 แก้ว/คน ในขณะที่คนไทยดื่มกาแฟปีละ 67 แก้ว/คน จะเห็นได้ว่าตลาดในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเยอะ ถึงแม้ว่าธุรกิจกาแฟจะมีการแข่งขันสูงก็ตาม คลาสเองก็จะแนะนำให้ดื่มกาแฟโดยไม่ต้องเติมนม จะโปรโมตอเมริกาโน่ ดื่มแล้วไม่อ้วน แต่คนโคราชชอบดื่มแบบผสมนม
อย่างไรก็ตาม ท่านใดที่อยากจะลงทุนเปิดร้านกาแฟ อันดับแรกคือต้องรักในกาแฟ รักในงานบริการ ถ้าจะหวังเพียงเอาเงินมาลงทุน อันนี้คิดผิด การจ้างคนอื่นมาชงกาแฟเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอร่อยหรือไม่ อีกอย่างหนึ่งคือ ธุรกิจกาแฟกำไรไม่มากเลย ใครที่คิดว่ากำไรเยอะคนนั้นคิดผิด ธุรกิจกาแฟต้นทุนสูงมาก อย่าคิดแค่ต้นทุนกาแฟอย่างเดียว ยังมีต้นทุนอีกหลายอย่าง ธุรกิจนี้ถ้าไม่รักและไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ จะไม่อยากทำเลย
สำหรับการขยายสาขาของคลาส วางเป้าหมายไว้ปีละ 2 สาขา แต่ไม่เร่งรีบถ้าไม่มีความพร้อม เราขอก้าวไปอย่างช้า ๆ แต่ขอก้าวไปอย่างมั่นคง สถานที่ที่จะเปิดสาขาต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กับชุมชน เป็น Community Center ขยายแบบกระจายครอบคลุมพื้นที่ ไม่ใช่กระจุกอยู่ในเฉพาะพื้นที่ที่มีความหนาแน่น
ส่วนการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดขณะนี้เล็งพื้นที่ไว้ที่บุรีรัมย์และขอนแก่น
ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
ติดตามอ่านข่าวสารจากประชาชาติออนไลน์
ดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่น >> Prachachat << ได้แล้ววันนี้
