หอการค้า 5 ภาคจี้รัฐแก้ปัญหา-จัดการพระราม 2

พระราม 2

หอการค้าไทยจัดประชุมใหญ่ 5 ภาค ระดมสมองทำแผนขับเคลื่อนโครงการ แก้ปัญหา 18 กลุ่มจังหวัด ภาคเหนือจี้รัฐจัดบิ๊กอีเวนต์ พร้อมเร่งแก้ปัญหามลพิษแม่น้ำกก ด้าน 6 จังหวัดอันดามัน ชงขอภูเก็ตนำร่อง “เขตปกครองพิเศษ” ภาคกลาง-ตะวันออกชงแก้ปัญหา SMEs และเร่งแก้อุบัติเหตุถนนพระราม 2

รายงานข่าวจากหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 หอการค้าไทยโดย ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยคนใหม่ จัดประชุมใหญ่หอการค้าภาค 5 ภาค ประจำปี 2568 ที่ประชุมจะมีการชี้แจงแผนการขับเคลื่อนโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ แนวทางการทำงานร่วมกันของคณะกรรมการชุดใหม่ วาระปี 2568-2569 รวมถึงให้แต่ละจังหวัด และ 18 กลุ่มจังหวัด แสดงความคิดเห็นนำเสนอแผนงาน แนวทางที่ต้องการผลักดันและแก้ปัญหาของแต่ละจังหวัด

หอการค้าภาคเหนือจี้จัดบิ๊กอีเวนต์

นายสมบัติ ชินสุขเสริม ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หอการค้าภาคเหนือจะนำเสนอ 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.ปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน เงียบเหงาและซบเซาอย่างหนัก

จึงต้องการให้ภาครัฐหนุน Big Event ทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของเมืองรองกำลังอยู่ในภาวะลำบาก ตัวอย่างจังหวัดน่าน อัตราการเข้าพักในช่วงโลว์ซีซั่นของโรงแรมไม่ถึง 5% ซึ่งโดยปกติช่วงโลว์ซีซั่นจะไม่ต่ำขนาดนี้ สถานการณ์ในปัจจุบันเทียบเท่ากับช่วงโควิด-19

เร่งแก้น้ำท่วม-มลพิษน้ำกก

2.โครงการเร่งรัดพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ อาทิ โครงการสนามบินแห่งที่ 2 เชียงใหม่ (สนามบินล้านนา) และโครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย (70,000 ล้านบาท) ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด

3.โครงการแผนแม่บทการจัดการเรื่องน้ำภาคเหนือ จากปัญหาน้ำท่วมหนักและแล้งจัดทุกปี โดยให้สร้างอ่างเก็บน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อกักเก็บน้ำไม่ให้ไหลลงสู่จังหวัดด้านล่าง ป้องกันน้ำท่วมและเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ขณะเดียวกันจะเสนอให้ตั้ง War Room เพื่อเตรียมรับมือน้ำท่วมหลายพื้นที่ในปีนี้ โดยเฉพาะอำเภอแม่สายที่เป็นพื้นที่เสี่ยง

และ 4.ปัญหามลพิษในแม่น้ำกกเป็นเรื่องสำคัญที่มีความกังวล ทั้งแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง เพราะประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง รัฐบาลไทยต้องเข้าไปคุยกับรัฐบาลเมียนมาและจีน ต้องเร่งหาทางออกร่วมกัน

ADVERTISMENT

หอใต้ชูหนุนท่องเที่ยว-เกษตร

นายกรกฎ เตติรานนท์ ประธานกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย หอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย 5 จังหวัด ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา จะนำเสนอใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.เรื่องเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว 2.เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 3.ปัญหาเรื่องพืชเกษตรที่ราคาตกต่ำ

“ยกตัวอย่าง จ.นครศรีธรรมราช จะเสนอให้สนับสนุนเรื่องการเลี้ยงโคเนื้อโคศรีวิชัย, การทำประมงชายฝั่งลุ่มน้ำปากพนัง โดยเฉพาะการเลี้ยงปูทะเล ขณะเดียวกันเสนอให้รักษามาตรฐานการทำทุเรียนคุณภาพ โดยจะต้องวางยุทธศาสตร์ในระยะยาว จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องตลาดปลายทาง

เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน

การท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดอยากให้สนับสนุนแตกต่างกันไป เช่น จ.พัทลุง สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประเพณี วัฒนธรรม เช่น มโนราห์ และควายน้ำ เพื่อขับเคลื่อนเป็นมรดกโลก, จ.สุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับโครงการการท่องเที่ยวเมืองและเกาะ ซึ่งต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยว, จ.สงขลา เน้นการท่องเที่ยวเมืองเก่า และเมืองชายแดนไทย-มาเลเซีย เช่น อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ยังคงติดกับมิติเดิม ๆ คือเรื่องของกลไกตลาดโลก เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ และระดับโลก

อันดามันหนุนเที่ยวจังหวัดใกล้เคียง

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวว่า การประชุมหอการค้า 5 ภาคครั้งนี้ ต้องการให้ 18 กลุ่มจังหวัดนำเสนอวิชั่น โดยแบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ เรื่องของจังหวัดตัวเอง และการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดใกล้เคียงกัน หลังจากนั้น ประธานแต่ละกลุ่มจะสรุป

ในส่วนของกลุ่มอันดามัน 6 จังหวัด จุดหลัก คือ เรื่องการท่องเที่ยว ดังนั้น ต้องการให้รัฐบาลมองเห็นความสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะสร้างรายได้ อย่างปี 2567 ภูเก็ตจังหวัดเดียวมีนักท่องเที่ยวถึง 13 ล้านคน มีรายได้สูงที่สุดประมาณ 4 แสนกว่าล้านบาท

อยากให้ภูเก็ตปกครองพิเศษ

เมื่อทั้ง 6 จังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลักมากขึ้น และมีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ที่นักท่องเที่ยวมาลงทุน รายได้อื่น ๆ จะเป็นรายได้ที่น้อยลง เช่น รายได้เรื่องการประมง สินค้าเกษตร เช่น ยางพารา เป็นรองธุรกิจท่องเที่ยว ดังนั้น จึงต้องการให้รัฐบาลหันมามองว่าจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีความยั่งยืน มีความปลอดภัย มีระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพียงพอ รวมถึงเรื่องการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมให้ระบบการท่องเที่ยว การอยู่อาศัย

“ภาครัฐไม่ต้องให้ตามที่ขอทั้งหมดก็ได้ แต่หลายปัญหาสำคัญยังไม่ได้รับการแก้ไข การดำเนินนโยบายของภาครัฐยังใช้เหมือนกันหมดทุกจังหวัด ซึ่งมันอาจจะเคยถูกต้องเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่ในช่วง 10 ปีหลังบริบทการเติบโตของแต่ละจังหวัดแตกต่างกัน คิดว่า 6 จังหวัดอันดามันควรจะได้รับการศึกษาพิจารณาให้เป็นเขตปกครองพิเศษ โดยใช้ภูเก็ตนำร่อง”

หอการค้าภาคตะวันออกแก้สภาพคล่อง

นายวิรัตน์ ศิริสกุลงาม ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ภาพรวมตอนนี้ผู้ประกอบการ SMEs มีปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ต้องเร่งจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ รวมถึงที่ผ่านมาถูกสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาแย่งตลาด แต่ที่ผ่านมาปัญหาต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการพิจารณา

รวมถึงเรื่องปัญหาการส่งออกพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น ทุเรียน ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องสารตกค้างได้รับการแก้ไขไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่วิธีการแก้ปัญหาให้ได้ผลต้องในระยะยาว โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี ระยอง และตราด ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตามโครงสร้างมีอำนาจในการลงไปดูแลเข้มงวดกวดขันกับล้งต่าง ๆ บ่อย ๆ ปัญหาต่าง ๆ น่าจะดีขึ้น เพราะปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า ประมาณ 80-90%

ส่วนปัญหาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คงต้องลงไปดูกรณีนักธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ามา ซึ่งมีกรณีที่น่าเป็นห่วงอย่างที่เป็นข่าวมีนักธุรกิจจีนที่มาลงทุนใหม่จำนวนมาก ทางจังหวัด เทศบาล อบต. ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มงวด อย่างกรณีที่ชาวบ้าน จ.ระยอง ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหากลุ่มนายทุนจีนขนดินมาถมพื้นที่เพื่อก่อสร้างโรงงาน ทั้งที่ไม่มีการขออนุญาตในการก่อสร้างโรงงานเลย

หอการค้าภาคกลางกังวล “จีนเทา”

นายครองพล พนาสันติภาพ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง กล่าวว่า 4 กลุ่มภาคกลาง มีข้อกังวลหลัก 6 เรื่อง ได้แก่ 1.เรื่องถนนพระราม 2 ที่มีปัญหาอุบัติเหตุความไม่ปลอดภัย คนใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางน้อยลง ทำให้มีผลกระทบกับจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ทั้งหมด ตั้งแต่สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระทบเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่

2.เรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะข้าว อ้อย ผลไม้ต่าง ๆ ตั้งแต่สุพรรณบุรี ชัยนาท อ่างทอง 3.เรื่องธุรกิจบริการที่โดนสินค้าจากจีนราคาถูกเข้ามาขาย โดยเฉพาะการค้าผ่านทางออนไลน์ของสินค้าจีน โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานสินค้าจีนเทา รัฐบาลต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น

4.ให้ความรู้การพัฒนาตัวเอง ซึ่งต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วย 5.การจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และ 6.อยากให้ภาครัฐช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว เช่น กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ชัยนาท อ่างทอง ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อัมพวาก็ซบเซาคนไม่มีเลย ต้องไปฟื้นฟูใหม่ ๆ

อีสานหนุนท่องเที่ยว-คมนาคม

นายสมชาติ พงคพนาไกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการประชุมหอการค้า 5 ภาค ประจำปี 2568 จะนำเสนอ 2 ประเด็นหลัก

ได้แก่ 1.การส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวนอกฤดู (ช่วงฤดูฝน) โดยชูเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ เพื่อเพิ่มโอกาสทางด้านการท่องเที่ยวในภาคอีสานให้มีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอีสานมากขึ้น เช่น แม่น้ำโขง ถ้ำนาคา แหล่งธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อาหารประจำภาคอีสาน และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

2.การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะทางถนน เช่น การสร้างถนนวงแหวนเชื่อมระหว่างอำเภอ, ถนนเชื่อมกับสนามบินและถนนวงแหวนแต่ละจังหวัด โดยจะมอบเป็นแผนงานให้หอการค้าทุกจังหวัดของภาคอีสานไปศึกษาความเป็นไปได้

ขยายถนนสระแก้ว-บุรีรัมย์

รวมถึงการขยายช่องจราจรทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 ช่วง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว-อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออกกับภาคอีสานตอนใต้ ด้วยปัจจุบันเป็นถนนขนาด 2 ช่องจราจร แต่ปริมาณรถที่สัญจรมีจำนวนมาก เส้นทางมีความคดเคี้ยวและลาดชัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะบริเวณเขาช่องตะโกที่มีระยะทางประมาณ 3 กม. ทำให้ผู้ใช้ทางไม่ได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง

หากขยายช่องจราจรเพิ่มเป็น 4 ช่องจราจร คาดว่าจะช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ บริเวณเขาช่องตะโกเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยร่วมกับทางอุทยาน และหอการค้าภาคตะวันออก อีกครั้งว่าจะมีแนวทางร่วมมือกันพัฒนาอย่างไรต่อไป