จันทบุรี ขอขยายเวลาเปิด-ปิดด่าน หลังขนสินค้าไม่ทัน ต้นทุนพุ่ง

ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เผยเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชาไม่ตรงกัน ทำสินค้าระบายไม่ทัน ต้นทุนขนส่งสินค้าพุ่ง ด้านนายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทยกัมพูชา จ.จันทบุรี ขอขยายเวลาทำการของด่านเพิ่ม

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า หลังจากที่มีมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ควบคุมการสัญจรข้ามแดนของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการตลอดจนแรงงานในพื้นที่ ผ่านจุดผ่านแดนถาวรทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด จากเดิมเวลา 06.00-22.00 น. เป็นเวลา 08.00-16.00 น. ของทุกวัน และผ่านจุดผ่อนปรนการค้าทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด จากเดิมเวลา 06.00-18.00 น. เป็น เวลา 08.00-16.00 น. ของทุกวัน

ปรากฏว่าในวันที่ 8 มิ.ย. 68 ช่วงเวลา 08.00 น. ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และที่จุดผ่านแดนบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด มีพ่อค้าแม่ค้ารอข้ามไปยังกัมพูชาอย่างหนาแน่น เนื่องจากด่านกัมพูชามีกำหนดการเปิดด่าน 09.00 น. โดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า สร้างความตกใจให้ผู้ต้องการเข้า-ออกเป็นอย่างมาก

ส่วนการขนส่งโดยรถบริษัทชิปปิ้งที่จุดผ่านแดนบ้านหาดเล็ก สามารถบริหารจัดการได้ดี มีการจัดเตรียมจัดทำเอกสารที่สำนักงานศุลกากรคลองใหญ่เป็นปกติตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะทราบล่วงหน้า เพื่อจะให้ผ่านด่านสามารถขนส่งสินค้าได้ทันเวลาที่ปรับใหม่ ประกอบการปริมาณรถขนส่งสินค้าปกติจำนวนไม่มาก รถขนส่งสินค้าได้ทยอยผ่านด่านตั้งแต่ช่วงประมาณ 10.00 น. และผ่านได้ทั้งหมดทันเวลา 16.00 น.ที่ปิดด่าน

ส่วนตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก มีร้านค้าชาวกัมพูชามาทำการค้าขายและจับจ่ายซื้อสินค้าฝั่งไทยค่อนข้างน้อย มีบรรยากาศที่เงียบเหงา อย่างไรก็ตาม ทางด้านกัมพูชาเตรียมขอขยายเวลาเปิดด่าน 06.00-18.00 น. เพราะสินค้าระบายไม่ทัน

แหล่งข่าวจากผู้ขับรถขนส่งสินค้าที่ด่านชายแดนบ้านหาดเล็กเปิดเผยกับ ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คนขับรถขนส่งสินค้าข้ามแดนส่วนใหญ่ไม่มีความวิตกกังวลใด ๆ เนื่องจากปกติสามารถลงสินค้าและนำตู้กลับออกมาได้ในวันเดียวกัน รวมถึงได้ทราบข่าวการปรับเวลาปิดด่านล่วงหน้าอยู่แล้ว

แต่กรณีที่ปรับเปลี่ยนเวลาเหลือน้อยลง ทำให้ขนส่งสินค้าลงไม่ทัน หรือรอให้ผู้ประกอบการมารับสินค้าล่าช้า ต้องจอดรถพักค้างในลานโกดังในฝั่ง จ.เกาะกง ในกัมพูชาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่อาจจะมีปัญหากับผู้ประกอบการหากใช้เวลารอขนถ่ายสินค้านานค้างคืน ต้องเสียค่าเช่าตู้เพิ่ม 1,500-3,000 บาท หรือเสียค่าปรับเป็นรายชั่วโมง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระบบการบริหารจัดการของฝั่งผู้ประกอบการกัมพูชาที่สั่งสินค้ามาจะมารับสินค้าได้เร็วแค่ไหน

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เปิดเผยกับ ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การปรับเวลาหน้าด่านที่ไม่ตรงกัน ทางสำนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ บริเวณหน้าด่าน ได้อำนวยความสะดวกเรื่องการจัดทำเอกสารล่วงหน้าให้เรียบร้อยรอไว้ก่อนเปิดด่าน เช่นเดียวกับการรถขนส่งสินค้าเข้าไปด่านกัมพูชาได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเวลาลงสินค้าจำกัดน้อยลงและจะได้กลับออกมาด่านไทยได้ในวันเดียวกัน โดยมีการปรับระบบการทำเอกสารให้คล่องตัว ให้รถกลับมารอที่หน้าด่านไทยก่อน เพื่อความรวดเร็วและไม่ให้ตกค้างอยู่ฝั่งกัมพูชา

จันทบุรีขนสินค้าไม่ทัน รายได้ลด

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ที่ด่านถาวรบ้านแหลม-ด่านถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี การเดินทางของประชาชนชาวกัมพูชา นักท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศยังคงคึกคัก แม้ว่าช่วงเช้าวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่เริ่มใช้เวลาเปิดด่านใหม่วันแรก หลายคนยังไม่ทราบล่วงหน้าและมีความสับสนเรื่องเวลาเปิดด่านที่กัมพูชา 09.00 น. ที่ไม่ตรงกับเวลาด่านไทย 08.00 น. แต่เจ้าหน้าที่ประจำด่าน ทั้งทหาร ตำรวจ ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนที่ต้องการเดินทางข้ามแดน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และอำนวยความสะดวก

ส่วนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในเวลาที่จำกัด นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี แจ้งผู้ส่งออกและผู้ค้าชายแดน ที่ส่งออกจากพื้นที่รอบ ๆ กรุงเทพมหานคร ได้ปรับตัวเรื่องเวลาเผื่อเวลาที่สั้นลง ต้องทำเอกสารต่าง ๆให้ผ่านพิธีการส่งออกผ่านด่านตามที่ฝ่ายมั่นคงประกาศไว้

แหล่งข่าวจากตลาดการค้าบ้านแหลม จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เวลาเปิดด่านไทย 08.00-16.00 น. ทางกัมพูชา 09.00-16.00 น. โดยชาวกัมพูชาจะมาซื้อของ ทำให้เวลาค้าขายหายไปถึงวันละ 6 ชั่วโมง ปกติ 06.30 น.จะเตรียมของขายได้ ตอนนี้ต้องรอกัมพูชาเปิดด่าน 9 โมง และเวลา 14.30 น.ต้องเตรียมเก็บของปิดร้าน เพราะใกล้เวลากัมพูชาปิดด่าน จึงต้องการให้มีการปรับเวลาทำการค้าขายให้ได้มากว่านี้

ด้าน ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้า และการท่องเที่ยว ชายแดนไทยกัมพูชา จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ปัญหาหลักที่เผชิญอยู่คือ ปริมาณรถขนส่งและสินค้าที่หนาแน่น ทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบสินค้า แม้เจ้าหน้าที่ศุลกากรทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาจะทำงานอย่างเต็มที่และรวดเร็ว

แต่ด้วยเวลาทำการที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถรองรับปริมาณงานที่มากเกินไปได้ทันเวลาเปิดด่าน ผู้ประกอบการเห็นว่ามีความจำเป็นในการขยายเวลาทำการของด่าน โดยเสนอให้ปรับเป็น 06.00-18.00 น. เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการการขนส่ง สามารถระบายรถและสินค้าได้ทันต่อเวลา และยืนยันวาสินค้าไทยยังเป็นความต้องการสูงมากในตลาดกัมพูชา