สงขลาหวังต่างชาติเที่ยวเพิ่ม ชงรัฐอนุญาตรถบัสมาเลย์วิ่งทั่วใต้

สงขลา

ธุรกิจท่องเที่ยวสงขลาเล็งผนึกภูเก็ต-กระบี่-พังงา-ตรัง-นครศรีธรรมราช ผลักดันภาครัฐอนุญาตรถบัสนำเที่ยวมาเลย์วิ่งทัวร์ทั่วภาคใต้ได้ หวังดึงนักท่องเที่ยวมาเลย์-สิงคโปร์-อินโดนีเซีย เข้ามาท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น หลังนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวกระทบรายได้วูบ

นายทรงชัย มุ่งประสิทธิชัย นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภาคใต้กำลังเผชิญปัญหาจากยอดนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่เคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่ทำรายได้ชะลอตัวลง เนื่องจากมีปัจจัยเชิงลบหลายด้าน ประกอบกับเป็นช่วงโลว์ซีซั่นที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปลดลง

ดังนั้น ทางเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภาคใต้ จังหวัดสงขลา จะหารือกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช ให้ช่วยกันผลักดันภาครัฐให้อนุญาตรถบัสนำเที่ยวจากประเทศมาเลเซียที่วิ่งเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อในจังหวัด ภาคใต้อื่น ๆ ได้เหมือนในอดีต เพื่อดึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เข้ามาท่องเที่ยวทางภาคใต้ของไทย ขณะเดียวกันรถบัสนำเที่ยวของไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียได้

“ในอดีตตั้งแต่ปี 2553 ในช่วงโลว์ซีซั่นได้เคยทำโครงการนำร่องทำการตลาดดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ เข้าไปท่องเที่ยวต่อเนื่องใน จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ทางรถบัสตอนนั้นมีรถเข้ามานำร่องตามโปรแกรมดังกล่าวประมาณ 7,000-8,000 คัน/เดือน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 100,000 คน/ปี โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 บาท/คน จะมีเงินหมุนสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จนถึงปี 2557 ต้องชะลอตัว จากที่จังหวัดสงขลาไม่อนุญาตให้รถบัสนำเที่ยวต่างประเทศจากประเทศมาเลเซียเดินทางออกนอกเส้นทาง จ.สงขลา ยกเว้นรถส่วนบุคคลทั้งประเภทรถเก๋ง รถตู้ ซึ่งส่งผลให้ช่วงโลว์ซีซั่นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ต้องชะลอตัวไปในที่สุด” นายทรงชัยกล่าวและว่า

“สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศจีนที่ชะลอตัวไป ได้รับทราบข้อมูลจากเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ต่างระบุไปในทิศทางเดียวกันคือภาพของประเทศไทย ขณะนี้ มีหลายปัจจัยเชิงลบ เช่น ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ เรื่องถูกหลอกลวง จึงได้มีการกระจายข่าวแจ้งเตือนต่อกัน ทำให้มีการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนหนึ่งหันไปท่องเที่ยวยังประเทศในกลุ่มเอเชียอื่น เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ”

นายทรงชัยกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยและประเทศมาเลเซียเคยทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการที่จะอนุญาตให้รถบัสนำเที่ยวของมาเลเซียเดินทางเข้ามายัง จ.สงขลา และสามารถขออนุญาตเดินทางต่อไปยังจังหวัดภาคใต้อื่น ขณะเดียวกันรถบัสนำเที่ยวของไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียได้ แต่ MOU ดังกล่าวในทางปฏิบัติยังไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะภาครัฐฝ่ายไทยยังไม่อนุญาตให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

“หากรถบัสต่างชาตินำเที่ยวจากประเทศมาเลเซียสามารถวิ่งทะลุไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ได้ จะส่งเสริมธุรกิจครบวงจรทั้งใน จ.สงขลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช จนไปถึง จ.ภูเก็ต ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมา จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วงโลว์ซีซั่น เช่น จ.นครศรีธรรมราช มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช มีเงินหมุนสะพัดไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท/ปี จากชาวมาเลเซียที่เข้าไปร่วมทำบุญรวมประมาณกว่า 3 เดือน

ADVERTISMENT

ส่วนไทยจะมีรถบัสนำคนไทยพาเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียเช่นเดียวกัน โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศมาเลเซียอาจจะมากกว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย”

ทางด้าน ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการ ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ในเดือนพฤษภาคม 2568 ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเมษายนและเดือนมีนาคม 2568 โดยปัจจัยลบที่สำคัญคือการท่องเที่ยวไทยซบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติลดจำนวนลง โดยเฉพาะประเทศตลาดหลักจีนลดลงเป็นอย่างมาก เหตุผลจากภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเรื่องความปลอดภัยจากเหตุอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวจีน

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจีนที่ลดจำนวนลงเดินทางไปในเอเชียแทน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ ทำให้ไทยสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก