กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งผลักดันการส่งออกผลไม้ภาคเหนือ เปิดเวที Mini Exhibition ดึง 12 บริษัทใหญ่จาก 6 ประเทศ ซื้อลำไยภาคเหนือ 2.3 หมื่นตัน มูลค่า 560 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายช่องทางตลาดการค้าออนไลน์จีนผ่าน ที-มอลล์ เฟรช ในเครืออาลีบาบา
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ ว่า วันนี้ (18 กรกฎาคม 2561) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดงาน Mini Exhibition และกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้า ในโครงการผลักดันการส่งออกผลไม้ภาคเหนือ โดยการเชื่อมโยงการค้ากับตลาดศักยภาพในอาเซียน เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ณ โรงแรมแคนทารี่ ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่
นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า โครงการผลักดันการส่งออกผลไม้ภาคเหนือ โดยการเชื่อมโยงการค้ากับตลาดศักยภาพในอาเซียน เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ในรูปแบบ Mini Exhibition และกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นการจัดขึ้นตามนโยบายในการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจไทยเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง และเร่งรัดการส่งออกเพื่อระบายสินค้าเกษตรในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก
โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งจะมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2561 ที่คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตจำนวนมาก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งจัดหาตลาดใหม่ และช่องทางการค้าใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดเดิม เช่น อินโดนีเซีย และจีน นอกจากนั้น ยังเป็นการวางแผนการส่งออกสินค้าผลไม้ในระยะยาว โดยแสดงให้ผู้ซื้อได้เห็นถึงศักยภาพของผลไม้ภาคเหนือและผลิตภัณฑ์จากผลไม้ โดยเฉพาะลำไย รวมถึงเป็นการเร่งผลักดันการส่งออกลำไยฤดูการผลิตที่จะถึงนี้
ดังนั้น ในปีนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้วางแผนการเชื่อมโยงการค้ากับตลาดที่มีศักยภาพในอาเซียน เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ในรูปแบบการจัด Mini Exhibition โดยเชิญผู้ซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งได้คัดสรรผู้ซื้อรายสำคัญและมีศักยภาพในการนำเข้าจากตลาดใหม่ๆ จำนวน 12 บริษัท จาก 6 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ตะวันออกกลาง (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน) สิงคโปร์ และมาเลเซีย
ขณะเดียวกัน ยังเร่งขยายช่องทางการส่งออกในตลาดเดิม (จีน) ผ่านการค้าออนไลน์ (E-Commerce) โดยเชิญผู้แทนจากบริษัท Win-Chain Import Fruit Business Unit ซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรในการจัดซื้อสินค้าผลไม้สดให้กับ Tmall Fresh ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบา เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ทำให้ลำไยของภาคเหนือจะมีโอกาสขยายช่องทางการค้าผ่านเว็บไซต์ Tmall ซึ่งเป็นช่องทางการค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ โดยมีผู้ส่งออกลำไยในพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับการคัดสรรเข้าร่วมกว่า 20 ราย เข้าร่วมเวทีเจรจาการค้าจับคู่ธุรกิจ
ทั้งนี้ คาดการณ์มูลค่าเจรจาการค้าที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้กว่า 23,000 ตัน ภายใน 1 ปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 560 ล้านบาท (1 ตัน มูลค่าประมาณ 700 เหรียญสหรัฐฯ) และเฉพาะในช่วงจัดงาน Mini Exhibition ครั้งนี้ คาดว่าจะมีการเจรจาซื้อขายลำไยราว 3,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 73.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากมีการเจรจาธุรกิจแล้ว ทางกรมฯ ได้จัดกิจกรรมเยี่ยมชมสถานประกอบการ โดยนำคณะผู้นำเข้าเข้าเยี่ยมสถานประกอบการผู้ผลิตลำไยและผลิตภัณฑ์แปรรูป เพื่อแสดงถึงศักยภาพและมาตรฐานของอุตสาหกรรมผลไม้ภาคเหนือและผลิตภัณฑ์ลำไยไทยอีกด้วย
