“หอการค้าเชียงใหม่” เผยจีนแห่ลงทุนคึกคัก คาดครึ่งปีหลังอสังหาฯปลุก ศก.ฟื้น

หอการค้าฯเชียงใหม่เผยภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรก 61 ภาคท่องเที่ยวขยายตัวดีและเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ขณะที่การลงทุนของเอกชนในภาคก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เริ่มขยับตัวดีขึ้น จากกำลังซื้อของต่างชาติ ชี้กลุ่มทุนจีนจากหลายเมืองใหญ่รุดดูลู่ทางการลงทุนในเมืองเชียงใหม่ เตรียมปักหมุดคอนโดมิเนียม คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังภาคอสังหาฯจะเป็นแรงหนุนปลุกเศรษฐกิจฟื้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้ (25 กรกฎาคม 2561) หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ไตรมาส 1 และ 2 ปี 2561 โดยมีนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วยนายสมชาย ทองคำคูณ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ณ โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง เชียงใหม่
นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ล่าสุดมีสัญญาณในเชิงบวก ที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง หรือ 6 เดือนสุดท้ายของปี 2561 มีการฟื้นตัวและมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนคือ ภาคการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจีนเป็นแรงกระตุ้นสำคัญ คาดว่าตลอดปี 2561 นี้จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามามากถึง 2 ล้านคน อีกปัจจัยคือ กำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์จากกลุ่มชาวต่างประเทศเริ่มมีมากขึ้น ทำให้มีสัญญาณที่ดีในการลงทุนโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2562
ทั้งนี้ มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักลงทุนจีนจากหลายเมือง อาทิ คุนหมิง เฉินตู ปักกิ่ง ซีอาน หนิงเซียะ และฉงชิ่ง ที่เดินทางเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนใน จ.เชียงใหม่ โดยประสานงานผ่านหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่นักลงทุนบางรายมีแผนลงทุนคอนโดมิเนียมขนาด 3 อาคาร มูลค่าการลงทุนมากกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์หลักคือ ชาวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาอยู่อาศัยและท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกำลังซื้อสำคัญ
“เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 ของเชียงใหม่ การท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวจีน การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลผลิตการเกษตรที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมให้ฟื้นตัวดีขึ้น”

นายสมชาย ทองคำคูณ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ไตรมาสที่ 1และ 2 ปี 2561 เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากภาคการท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวดี แม้กำลังซื้อของประชาชนในภาคเกษตรยังไม่เข้มแข็ง เนื่องมาจากราคาพืชผลอยู่ในเกณฑ์ต่ำและภาระหนี้สินเกษตรกร แต่ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะเดียวกันก็พบว่าการลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวในบางสาขา เช่น ภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีกำลังซื้อของลูกค้าที่มีคู่สมรสเป็นชาวต่างประเทศดูดซับบ้านและคอนโดมิเนียมที่คงเหลือในตลาดให้ลดลง จึงทำให้เห็นสัญญาณการลงทุนโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กและคอนโดมิเนียม ที่คาดว่าจะเริ่มมีการลงทุนเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้และต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2562
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในรายสาขาของทั้ง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา เช่น ผลผลิตพืชผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เช่น ข้าว ลำไย กระเทียม เนื่องจากสภาวะอากาศที่เอื้ออำนวยและปริมาณน้ำเพียงพอ แต่ราคาลดลง ทำให้กำลังซื้อในภาคเกษตรลดลงตามไปด้วย รวมถึงราคาสุกรลดลงถึงร้อยละ 16.5 ทำให้ปริมาณผลผลิตลดลงร้อยละ 3.5 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้รายได้เกษตรกรลดลง
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ขยายตัวต่อเนื่องทั้ง 2 ไตรมาส ซึ่งมีเครื่องชี้จากจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ในไตรมาส 1 และ 2 ที่มีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศสู่เชียงใหม่เพิ่มสูงถึงร้อยละ 16.7 และร้อยละ 13.3 ตามลำดับ โดยร้อยละ 67 เป็นนักท่องเที่ยวจีน สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาส 1 และ 2 โดยรวมจะยังหดตัวในบางสาขา สะท้อนจากปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวร้อยละ 3.4 และ 2.9 ตามลำดับ แต่ในสาขาที่ปรับตัวดีขึ้นมากคือ การก่อสร้าง จากดีมานด์ของชาวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น