เปลี่ยนวิธีคิด “กลุ่มสนุก” สู่โอกาส-อนาคต

ถึงวันนี้ความพยายามในการผลักดันจัดตั้ง “SEZ” ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเมื่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว ต่างมีนโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมเสนอให้สิทธิประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลในการดึงต่างชาติให้เข้าไปลงทุน รัฐบาล คสช.เองรับทราบเรื่องนี้อย่างเต็มอก ถึงได้ตัดสินใจผลักดันนโยบาย EEC ออกมา

ดังนั้น การที่ “กลุ่มสนุก” จะเดินเกมรุกให้มีแต้มต่อ “เกษมสันต์ วีระกุล” นักวิชาการอิสระเชี่ยวชาญด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้ชี้แนะผ่านการบรรยายในหัวข้อ “โอกาสและอนาคตการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ของไทยและกลุ่มสนุก : ไทยแลนด์ 4.0” ว่า กลุ่มสนุกต้องเปลี่ยนวิธีคิด แม้ไทยจะตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมาก่อน แต่วันนี้เพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว มีเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน และเวียดนาม มีเขตเศรษฐกิจพิเศษลาวบาวแล้ว มองว่าไทยควรจะทำอะไรร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ เพื่อเดินไปด้วยกัน อย่าไปแข่งขันกัน

รวมถึงต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มสนุก ด้วยการขายในสิ่งที่คนอื่นไม่มี เช่น สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างบ้านโฮจิมินห์ที่ จ.นครพนม และสินค้าเกษตร เช่น ข้าวฮางงอก จ.สกลนคร, เนื้อโคขุนโพนยางคำ จ.สกลนคร, เนื้อโคขุนหนองสูง จ.มุกดาหาร, ผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร ควรมีการสร้างเรื่องราวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เรื่องนี้ภาครัฐและเอกชนควรร่วมมือกัน

ในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) รวมถึง 2 มณฑลของจีน ได้แก่ ยูนนาน และกว่างสี ซึ่งไทยอยู่ตรงกลางของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) มีโอกาสมากที่สุด และเป็นโอกาสของกลุ่มสนุกด้วย แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่อนาคตอันใกล้ ถนน รถไฟ สนามบินเชื่อมโยงกันหมด

“ผมเน้นอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ การสร้างราคาสินค้า การเชื่อมโยงทางด้านจิตใจของคนไทยกับเพื่อนบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เนื่องจากในการเรียนการสอนของไทย ทำให้คนไทยดูถูกประเทศเพื่อนบ้าน ในทางกลับกันประเทศเหล่านั้นกลับรัก และชื่นชอบสินค้าของไทย ดังนั้น กลุ่มสนุกจะต้องปรับตัวเองก่อน รวมถึงวันนี้อาเซียนไปไกลมาก ขณะที่ไทยมีปัญหาพอสมควร เราต้องทุ่มเททุกอย่าง และต้องช่วยกัน เราถึงจะเดินไปได้